ปาเต๊ะ ร้านอาหารไทยเสน่ห์ที่ใช่ของคนรักแผ่นเสียงและเครื่องดื่ม

Video at https://www.facebook.com/Wongnai/videos/509896406453297/

#วงในบอกมา

ชื่อร้าน "ปาเต๊ะ" (Pathe) มาจากความรักในการสะสมแผ่นเสียงโบราณของ คุณเกียรติศักดิ์ ประนุช (คุณพ่อ) และกลายเป็นจุดเด่นของบรรยากาศในร้านที่ดึงดูดลูกค้าอยู่เรื่อย ๆ จวบจนทุกวันนี้
ทางร้านบอกว่า "ปาเต๊ะ" ถือเป็นเจ้าแรก ๆ ในไทยที่ริเริ่มการทำ “เครื่องดื่มวุ้น” และเป็นเจ้าเดียวที่เสิร์ฟแก้วแช่เย็นในอุณหภูมิเย็นยะเยือกชนิดไม่ขาดสายตลอดการดื่ม!
กับแกล้มประจำร้านอย่าง “ถั่วมิตรภาพ” สูตรพิเศษของร้าน และเครื่องดื่มปิดท้ายอย่าง “ชาเขียวใบหม่อน” ปาเต๊ะเสิร์ฟให้ฟรีไม่มียั้ง! มาสัมผัสกันได้ ล่าสุดเปิดแล้วสาขาใหม่! ย่านทาวน์อินทาวน์!

เมนูอาหารของร้านปาเต๊ะ — อาหารรสเลิศชวนละลานตา ความจัดจ้านครบรสที่ต้องลอง

จินตนาการภาพตัวเองกำลังนั่งจิบ "เครื่องดื่มวุ้น" เย็น ๆ สักแก้ว คลอเสียงเพลงยุค 60-70 ไปพลาง พร้อมเคล้าบรรยากาศพระอาทิตย์ใกล้ตกดินยามเย็น ยิ่งถ้ามีกับแกล้มดี ๆ สักนิด อาหารจานโปรดสักหน่อย พ่วงท้ายด้วยวงสนทนาที่รู้ใจ ความสุขง่าย ๆ ที่ไม่ต้องจ่ายแพง ... แค่นี้ก็เพียงพอแล้วนะว่าไหม?

เสียงเกลากีตาร์จากแผ่นเสียงโบราณดังขึ้น ประจวบกับประตูร้านที่เปิดออกพอดิบพอดี ราวกับเป็นการต้อนรับผู้มาใหม่อย่างไรอย่างนั้น หลังจากก้าวเท้าเข้าตัวร้านไม่ทันไร เนื้อร้องแรกที่คุ้นหูก็ดังขึ้นกระทบโสตประสาท “On a dark desert highway, cool wind in my hair…” Hotel California เพลงโปรดจาก The Eagles ดังไล่หลังขณะที่กำลังเลือกจับจองเก้าอี้ที่ปรารถนา มองจากด้านนอก ป้ายร้านตัวเบ้อเริ่มติดไว้เด่นหรา ตัวร้านมีทั้งโซนด้านนอกและด้านใน อาณาบริเวณค่อนข้างกว้างขวาง จุคนได้หลายสิบโต๊ะ แถมมีที่จอดรถ ห้องน้ำ สำนักงาน และครัวเปิดแบบพร้อมสรรพ และแน่นอน พนักงานหลายสิบชีวิตในเสื้อสีเหลืองเดินกันขวักไขว่

หน้าร้านปาเต๊ะ — บรรยากาศหน้าร้าน สังเกตเห็นได้สะดวก ต้องแวะหน่อยแล้ว!

“Welcome to the Hotel California, such a lovely place…” เข้าสู่ท่อนฮุค พร้อม ๆ กับที่โต๊ะริมหน้าต่างตกเป็นของเราในคำ่คืนนี้ ก่อนสั่งอาหาร เรานั่งดื่มด่ำบรรยากาศตรงหน้าสักพัก นับเป็นการตกแต่งร้านที่ไร้แบบแผน ของเก่าที่สะสมจาก Passion ของเจ้าของร้านถูกรวบรวมไว้ ณ ที่แห่งนี้เป็นที่เรียบร้อย ผ้าปูโต๊ะลวดลายสวยอันเป็นเอกลักษณ์ กรอบรูป ของตั้งโชว์ และอีกเพียบ ที่ชัดสุดเห็นจะเป็นแผ่นเสียงที่ใช้เปิดกล่อมคนทั้งร้านเพื่อให้อารมณ์สุดชิล คุณกฤติณ ประนุช ลูกชายเจ้าของร้านเล่าว่า คุณพ่อรักแผ่นครั่งโบราณเอามาก ๆ เพราะเสียงจะคลาสสิกแตกต่างจากแผ่นเพลงพลาสติกในปัจจุบัน ซึ่งนั่นแหละเสน่ห์! นั่งไปเรื่อย ๆ เพลง The Beatles, Bee Gees, The Carpenters และอีกสารพัด ก็เล่นสลับเวียนกันไป

บรรยากาศของร้านปาเต๊ะ — ค่ำแล้วหนอ แต่คนไม่รีรอ ทยอยกันเข้า "ปาเต๊ะ" ไม่ขาดสาย!

"ปาเต๊ะ" มีสาขาแรกอยู่ที่ห้าแยกลาดพร้าว เปิดมาร่วม 19 ปี โดยที่นี่นับเป็นสาขาที่ 7 สังเกตตั้งแต่หน้าร้าน สีเหลือง คือ โทนสีประจำของร้านที่ชวนสะดุดตา คุณกฤติณแย้มว่า “เพราะสีเหลืองนี่แหละครับ ทำให้ของเก่าดูสวยขึ้น มันอบอุ่นและน่าค้นหา” ซึ่งไม่ขอคัดค้าน เพราะมันละมุนตาอย่างที่ว่าไม่มีผิด แหงนหน้ามองขึ้นเพดาน น่าแปลก แม้จะนั่งอยู่โซนด้านใน แต่กลับให้ความรู้สึกเสมือนกำลังนั่งอยู่โซนด้านนอก อาจเป็นเพราะหลอดไฟสี Warm White ที่ห้อยประดับอยู่ทั่วทั้งร้านกระมัง ชิลกว่านี้ไม่อีกแล้ว! แถมคุณกฤติณยังเผยอย่างคนอารมณ์ศิลป์ว่า สาขาใหม่นี้ เรากำลังทยอยนำของสะสมของคุณพ่อเข้ามาตกแต่งเพิ่ม … บรรจงอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างว่าสินะ “ศิลปะ อย่ารีบร้อน”

สั่งอาหารไม่ทันไร “ถั่วมิตรภาพ” ที่ไม่ได้สั่งก็เสิร์ฟตรงหน้า เป็นของสมนาคุณสำหรับลูกค้า คุณกฤติณเล่าว่า ร้านอยากให้ทุกคนที่มากินรู้สึกเสมือนนั่งอยู่ในบ้านเพื่อนหรือคนคุ้นเคย ที่มีกับแกล้มแจกจ่ายไม่ขาดสาย ส่วนเคล็ดลับความฟิน คือ เพียงนำถั่วลิสงขึ้นมาคลุกกับเนยเล็กน้อยหลังทอดเสร็จ โดยอาศัยความร้อนที่ยังระอุในถั่วช่วยกระจายความหอมของเนยให้ทั่วถึง ... ที่มาของความกลมกล่อมและหอมมันจานนี้ ตามมาด้วยเมนูยอดนิยมตลอดกาล “ไก่กรอบซอสมะนาว” (98 บาท) เมนูที่เด็กกินได้ผู้ใหญ่ก็กินดี จัดเป็นร้านครอบครัวขนานแท้ทีเดียว จุดเด่นของจานอยู่ที่เนื้อไก่ทอดราดครีมซอสกลิ่นมะนาว ให้รสสัมผัสทั้งหอมมันและละมุนลิ้น ผสมกับคะน้าซอยละเอียดที่ลงทอดจนกรอบได้ใจ เข้ากั๊นเข้ากัน

ถั่วมิตรภาพของร้านปาเต๊ะ — ถั่วทอดกรุบกรอบ เป็นกับแกล้มก็เลิศ แถมเรียกน้ำย่อยได้ดีสุด ๆ

ไก่กรอบซอสมะนาวร้านปาเต๊ะ — ไก่กรอบราดซอสฉ่ำ ๆ เจอกับใบคะน้าคัดเฉพาะส่วนยอด นำมาซอยและทอดจนกรอบ

“Now I’ve found you. There’s no more emptiness inside. When we’re hungry, love will keep us alive.” อีกเพลงจาก The Eagles ดังขึ้นพอดีกับที่ “เห่าดงหมู” (98 บาท) วางแหมะอยู่ตรงหน้า คาดว่าหลายคนที่เป็นแฟนคลับ “ปาเต๊ะ” ต้องรู้จักจานนี้ เริ่มจากนำหมูส่วนสะโพกมาลวกจนสุก ตัวหมูรสจัดด้วยมะนาวสดและพริกป่น เคียงไปกับผักสมุนไพรไทยชั้นยอด ทั้งใบกะเพราขาว ใบหอม และขึ้นฉ่าย กินพร้อมกันแล้วน้ำลายท่วมชุ่มลิ้น รับประกันกลิ่นหอมฉุนที่ลงตัว ช่างเหมาะกับช่วงเวลาที่กำลังหิวโหยแบบนี้เสียเหลือเกิน นาทีนี้ รักไม่ได้ทำให้เรามีชีวิตอยู่ต่อ แต่ “เห่าดงหมู” จานนี้ต่างหากเล่า ที่เติมเต็มช่องว่างในกระเพาะได้ดีที่สุด และเราเรียกสิ่งนี้แหละว่า “ความรัก”

เห่าดงร้านปาเต๊ะ — เปรี้ยวจี๊ดมะนาวสด เผ็ดแซ่บพริกป่นไทย ลุย!

เฉดสีน้ำตาลอ่อนและชมพูอมแดงของ “ยำเนื้อญี่ปุ่น” (180 บาท) ตัดกันดีในจานสีขาวของร้าน คุณแสง เชฟประจำร้านที่อยู่มานานกว่า 6 ปี เล่าว่า เราใช้เวลาในการทำให้เนื้อสุกเฉพาะส่วนนอก เพื่อคงความแดงสดตรงกลางของเนื้อวัวไว้ให้มากที่สุด ได้อารมณ์กรอบนอกนุ่มใน ฐานล่างของจานเป็นหอมหัวใหญ่ซอยบาง คลุกในนำ้ยำรสเปรี้ยวนำ เผ็ดตาม มีฉากหลังเป็นรสหวานและเค็ม จากนั้นจึงค่อย ๆ บรรจงเรียงเนื้อวัวที่ว่าลงไปอย่างประณีต ปิดท้ายด้วยซอสพริกสูตรพิเศษของทางร้านด้านบน และไม่ลืมโรยกระเทียมสไลซ์และต้นหอมซอยไว้กินแกล้มเพื่อตัดเลี่ยน บอกได้เลยว่า เข้ากับเครื่องดื่มวุ้นเย็น ๆ เป็นที่สุด ... รสชาติเฉียบคมประหนึ่งเกิดมาเพื่อกันและกัน

ยำเนื้อญี่ปุ่นของร้านปาเต๊ะ — เนื้อฉ่ำ ๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำปรุงสูตรพิเศษ กินคู่หอมใหญ่นิด กระเทียมหน่อย เด็ดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!

“ผัดเนื้อลูกทุ่ง” (120 บาท) ลูกทุ่งสมชื่อ! ด้วยสไตล์การปรุงแบบบ้าน ๆ อีกทั้งกลิ่นหอมจากสมุนไพรไทยอย่างใบมะกรูด ข่า และตะไคร้ พร้อมรสจัดจ้านจากมะนาวและน้ำปลา เสริมความเผ็ดร้อนด้วยพริกขี้หนูและกระเทียมปั่น ยิ่งทำให้อาหารไทยจานแซ่บนี้ คล้ายคลึงต้มแซ่บอีสานในเวอร์ชั่นน้ำขลุกขลิกอะไรเทือก ๆ นั้นเลยแหละ รสชาติดิบเถื่อนใช้ได้ กินกับข้าวสวยร้อน ๆ สักจาน หรือข้าวเหนียวร้อน ๆ สักกระติ๊บ รับรองได้ว่า ข้าวหมดไม่รู้ตัว! แถมคุณลุงเจ้าของร้าน "ปาเต๊ะ" ยังย้ำมาอีกว่า ถ้าไม่อร่อย! ไม่ต้องจ่ายตังค์! (สำหรับจานนี้น่ะนะ) เอ้า จะรออะไรอยู่ล่ะ พิสูจน์ด่วน!

ผัดเนื้อลูกทุ่งของร้านปาเต๊ะ — อีสานสไตล์ที่ห้ามพลาด ลูกทุ่งมาเยือนกรุงของแท้ แซ่บหลายเด้อ!

ใครกำลังมองหาปลาแซลมอนสด ๆ กินแกล้มกับเครื่องดื่มฉ่ำ ๆ ในมือ ต้องจานนี้ “แซลมอนแช่น้ำปลา” (190 บาท) เป็นรสที่กลมกล่อมเกินบรรยาย เพราะทางร้านราดน้ำจิ้มซีฟู้ดควบคู่ไปกับน้ำปลาสูตรเด็ด แซลมอนชิ้นบาง กินคู่กับผักในจานอย่างขึ้นฉ่าย มะระ และกระเทียมสด การันตีความแซ่บซี้ดถึงขีดสุด จี๊ดสุดชนิดน้ำลายสอ มาถึงตรงนี้ ความเย็นยะเยือกจากแก้วในมือเริ่มจางลง แต่ไม่ต้องมองหาพนักงานเสิร์ฟให้เสียเวลา เพราะแค่เงยหน้าขึ้นมา แก้วใบดังกล่าวก็ถูกคว้าไปเปลี่ยนในทันใด พวกเขาเทเครื่องดื่มเย็นจัดใส่แก้วใบใหม่ด้วยทวงท่าที่เชี่ยวชำนาญ … แก้วในมือกลับมาเย็นยะเยือกอีกครั้ง บริการสมคำร่ำลือจริง ๆ

แซลมอนแช่น้ำปลาของร้านปาเต๊ะ — ปลาแซลมอนสด ๆ สะดุ้งด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดและน้ำปลารสเลิศ

ปิดท้ายด้วยเมนูหนักท้องกันบ้าง “ข้าวผัดเนื้อเค็ม” (94 บาท) เนื้อหมักน้ำปลาจนได้รสกลมกล่อม ไม่จัดจ้านจนเกินไป เข้ากันดีกับข้าวหอมมะลิเม็ดเรียวสวย ผัดทั้งหมดเข้าด้วยกันด้วยไฟแรง เพื่อให้ได้กลิ่นคั่วหอมจากกระทะแบบที่โปรดปราน และอีกกลิ่นหอมที่มาคู่กันแบบไม่ขาด คือ ใบโหระพาและพริกชี้ฟ้า ให้ความรู้สึกเสมือนรสมือคนในครอบครัวโดยแท้ ความลงตัวง่าย ๆ ที่ตามหาได้ที่ร้านอาหารทาวน์อินทาวน์เย็นวันนี้

ข้าวผัดเนื้อเค็มร้านปาเต๊ะ — ข้าวผัดหอม ๆ ความลงตัวของข้าวสวยร้อน ๆ และเนื้อเค็มรสดี

ส่วนใครที่ยังไม่จุใจ ทางร้านยังมีจานเด็ดอื่น ๆ อีกเพียบ และหนึ่งในนั้นที่ห้ามพลาด คือ "ปูไข่ดอง" จานยอดฮิตติดลมบน โดยราคาจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักปูในแต่ละวัน ลองสั่งสิ แล้วจะติดใจ! รวมถึง "สปาขี้หนู" (144 บาท) ยกทะเลมาไว้ในจานแบบไม่อั้น และ "หอยลายอบเนยกระทะร้อน" (198 บาท) เสิร์ฟกันร้อน ๆ ชนิดที่ว่าพริกเผายังเดือดปุด ๆ ส่วนความสดก็มาแบบเต็มปากเต็มคำ อิ่มหนำสำราญแน่นอน! อ่อ หรือถ้าใครขี้เกียจเดินทาง ทางร้านเราก็มีบริการเดลิเวอรีถึงบ้านจาก LINE MAN ด้วย! (ราคายังไม่รวม Vat และ Service Charge) เพราะฉะนั้นอย่ารีรอ ต้องขอสั่งสักจานสามจานแล้วล่ะเพื่อน ๆ

หอยลายพริกเผากระทะร้อนของร้านปาเต๊ะ — เสิร์ฟแบบร้อน ๆ ชวนน้ำลายสอ

ค่ำคืนนี้ดูท่าจะอีกยาวไกล ลูกค้าหน้าใหม่และบรรดาเพื่อนฝูงต่างทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ยิ่งดึกบรรยากาศยิ่งคึกคัก แถมอบอุ่นสุดละมุนท่ามกลางแสงไฟสีเหลืองนวล เพลงกล่อมถูกหู อาหารถูกปาก และแน่นอน แก้วเย็น ๆ ในมือที่บริการไม่เคยพร่อง ไม่ต้องบินลัดฟ้าไปหาความสุขที่ไหนไกล นี่แหละ องค์ประกอบดี ๆ ในราคาเป็นมิตร เท่านี้ก็เพียงพอ “It’s another tequila sunrise. Starin’ slowly ‘cross the sky, said Goodbye” เราไม่มีเตกิลาแบบในเพลง แต่แค่ “เครื่องดื่มวุ้น” ตรงหน้า ก็เพียงพอแล้วสำหรับการย้อมใจใครก็ตามที่เหนื่อยล้า เชียรส์~

การเดินทาง

"ปาเต๊ะ" สาขาทาวน์อินทาวน์ สามารถเดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือหากใครโดยสารรถสาธารณะ ก็ขึ้น MRT ลาดพร้าว ต่อรถเมล์สาย 8 27 44 92 96 145 182 502 หรือขึ้น MRT รัชดา ต่อสาย 73ก. 137 172 514 และนั่งจักรยานยนต์ตรงมาที่ร้านได้เลย ในปี 2564 รถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง ก็กำลังจะเปิดให้บริการ อยู่หน้าปากซอยลาดพร้าว 94 เลย ร้านตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ติดกับ Community Mall ชิลชิล รับรองว่าหาไม่ยาก มีบริเวณจอดรถอยู่ด้านหลังเป็นลานกว้าง ร่มรื่นและสะดวกสบาย