#วงในบอกมา
- ร้านพิซซ่าเจ้าแรกในประเทศไทย ปรับโฉมใหม่ไฉไลกว่าเดิม
- เสิร์ฟเมนูอิตาเลียนรสชาติดั้งเดิมพร้อมวัตถุดิบชั้นเลิศจากท้องถิ่น
- “Narai Pizza” พิซซ่าในตำนาน อบมาแล้วกว่า 51 ปี

บอกเลยว่าใครเป็นสายกินตัวจริง นี่คือร้านอาหารอิตาเลียนสีลมในตำนานที่ห้ามพลาด! จากปากคำของนักชิมรุ่นเก๋าอย่างคุณพ่อคุณแม่ ที่การันตีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ที่ยังคงไว้มาจนถึงทุกวันนี้ พร้อมกับร้านที่ทำการปรับโฉมให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ร้านที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ คือร้าน “Peperoni” ห้องอาหารอิตาเลียนโรงแรมนารายณ์นั่นเอง
ร้านพิซซ่าโรงแรมนายรายณ์นี้เป็นห้องอาหารที่อยู่คู่กับโรงแรมมากว่า 51 ปี ตั้งแต่เปิดกิจการ จากแรงบันดาลใจของเจ้าของที่อยากจะเปิดร้านพิซซ่าแบบเมืองนอกที่ประเทศไทย ทำให้เกิดเป็นร้านพิซซ่าร้านแรกของประเทศไทย จนมาถึงปี พ.ศ. 2549 ทางห้องอาหารได้มีการปรับโฉมใหม่ให้ตัวห้องอาหารดูโปร่งโล่งสบาย พร้อมกับ Open-kitchen ที่ส่งกลิ่นหอมจนต้องตบะแตกเผลอสั่งแบบรัว ๆ

และถึงแม้ว่าตัวร้านจะปรับโฉมมาเป็นร้าน “Peperoni” แต่สูตรอาหาร และเมนูนั้นยังคงรสชาติแบบดั้งเดิมไว้ โดยเป็นสูตรที่เชฟชาวอิตาเลียนคิดค้นขึ้นร่วมกับเชฟชาวไทย เพื่อให้ยังคงรสชาติแบบอาหารอิตาเลียนแท้ ๆ แต่ผสมผสานวัตถุดิบชั้นเลิศภายในประเทศอย่างอาหารทะเลสด ๆ เรียกได้ว่าเป็นรสชาติในตำนานที่คนรุ่นเก่าต้องมีแฟลชแบ็กนึกถึงวันวาน ส่วนคนรุ่นใหม่กินแล้วต้องร้องว้าวกับเอกลักษณ์นี้
เริ่มต้นด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยอย่าง “Pan-Seared Scallops with Porcini and Rocket Salad” (470 บาท) ซึ่งเป็นหอยเชลล์ย่าง เสิร์ฟพร้อมเห็ดพอร์ชินีกลิ่นหอม เคียงด้วยสลัดร็อกเก็ตคลุกเคล้ากับน้ำสลัดอิตาเลียนบัลซามิกรสเปรี้ยวอมหวานในตะกร้าชีสพาร์เมซานมัน ๆ เค็ม ๆ แนะนำให้กินทุกอย่างพร้อมกันเพื่อให้รสชาติของวัตถุดิบทุกอย่างนั้นรวมกันจนเกิดเป็นความกลมกล่อมอบอวลอยู่ในปาก


ได้เวลาเริ่มต้นอาหารจานหลักของมื้อนี้กับ “Black Ravioli with Salmon and Marsala Cream Sauce” (340 บาท) ราวิโอลีหมึกดำทำเองไส้ปลาแซลมอนคมควันและชีสริคอตตา ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวจนไม่มีกลิ่นคาว กับซอสมาซาลาที่มีความหอม พร้อมรสชาติกลมกล่อมลงตัวกับราวิโอลี เป็นอีกหนึ่งเมนูขายดีที่มาแล้วไม่ควรพลาด


และแล้วก็มาถึงจานที่รอคอยกับพิซซ่าในตำนานนั่นก็คือ “Narai Pizza” (460 บาท) ซึ่งเราสามารถเลือกได้ทั้งแป้งหนานุ่มและแป้งบางกรอบ สำหรับถาดนี้เลือกเป็นแป้งหนานุ่ม สูตรเดียวกันกับเมื่อ 51 ปีที่แล้ว เหมือนเดิมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นท็อปปิงอย่างซาลามี ไส้กรอก แฮม ถั่วลันเตา และหอมใหญ่ พร้อมซอสมะเขือเทศสูตรพิเศษ พร้อมชีสเน้น ๆ อ้อ! เมนูนี้ไม่มีในเมนูนะ เพราะมันคือ Secret Menu ของนักกินรุ่นเก๋า
อีกหนึ่งเมนูพิซซ่าที่สั่งในวันนี้เป็น “Salmon Pizza” (460 บาท) ซึ่งสั่งเป็นแป้งบางกรอบต้นตำรับ ความพิเศษของถาดนี้อยู่ที่ตัวปลาแซลมอน ที่ใช้วิธีการดองแบบ Gravlax ซึ่งกรรมวิธีแบบพื้นเมืองของชาวอิตาเลียนที่ให้รสชาติ และความหอมแตกต่างจากแซลมอนรมควันทั่วไป โรยหน้าด้วยผักร็อกเก็ตและชีส กลมกล่อมแบบอิตาเลียนแท้ ๆ



มาถึงเมนูของหวานปิดท้าย จะเป็นเมนูไหนไม่ได้นอกจากขนมหวานสไตล์อิตาเลียนอย่าง “Tiramisu” (245 บาท) ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของทางร้านโดยเชฟชาวอิตาเลียนที่ทำมานานกว่า 40 ปี เลือกใช้มาสคาร์โปนชีส และเลดี้ฟิงเกอร์แท้ ๆ แบบดั้งเดิมเท่านั้น ทำให้ได้รสสัมผัสมัน นุ่ม หอมกลิ่นบรั่นดีมาซาลาและกาแฟ นับเป็นรสชาติที่หากินได้ยากจริง ๆ


ในส่วนของโปรโมชั่นนั้นทางร้าน “Peperoni” จะมี Happy Hour ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00 - 18.00 น. รับส่วนลดไปเลย 50% เมื่อสั่งเครื่องดื่มพิเศษตามเมนูที่กำหนด และนั่งดื่มบริเวณ Terrace ส่วน โปรโมชั่นอื่น ๆ รวมถึงเซตเมนูช่วงเทศกาลสามารถติดตามได้ที่ Facebook Fanpage ของทางร้าน นอกจากนี้ยังสามารถสั่ง LINE MAN ให้ไปส่งถึงบ้านและออฟฟิศได้อีกด้วย

บอกได้เลยว่าสายกินตัวจริงห้ามพลาดกับร้านอาหารอิตาเลียนสีลมในตำนาน จะพาพ่อแม่มานั่งกินอาหารอิตาเลียนรสเก๋าย้อนความหลังก็เก๋ จะมานั่งชิลล์ ๆ กินพาสต้ากับกลุ่มเพื่อนสายกินก็เลิศ หรือจะสั่งพิซซ่าในตำนานไปกินที่ออฟฟิศก็คงสร้างสีสันได้ดีไม่น้อย รับรองว่าถ้าได้ลองร้าน "Peperoni" แล้วล่ะก็ จะต้องอยากมาซ้ำอีกแน่นอน
การเดินทาง
ร้านพิซซ่าสีลม “Peperoni” ตั้งอยู่ชั้น G ใกล้กับประตูทางเข้าโรงแรมนารายณ์ ใครที่มารถไฟฟ้า BTS สามารถลงได้ทั้งสถานีช่องนนทรีและสุรศักดิ์ แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที หรือจะนั่งรถมอเตอร์ไซค์ และแท็กซี่มาก็ไม่เกิน 5 นาที ส่วนใครที่ขับรถมา สามารถขับมาได้ทางถนนสีลม มีอาคารจอดรถในซอยสีลม 18 สามารถแสตมป์บัตรจอดรถได้ที่ร้านพิซซ่าโรงแรมนารายณ์เลยจ้า