สวัสดีค่ะซิส วันนี้มาพลีชีพกับรีวิวทรีตเมนต์เคราตินที่เค้าเครมกันว่าช่วยให้ผมตรงเงางามมีน้ำหนักไม่ชี้ฟูได้เห็นผลทันทีหลังทำ!!! (อะไรจะดีเบอร์นั้น!!) เกริ่นก่อนนะคะ ว่าสภาพเส้นผมโดยธรรมชาติเป็นผมหยักศกเส้นเล็กไม่มีน้ำหนัก แถมยังแห้งเสียจากการใช้ความร้อนและสารเคมีเป็นประจำ สภาพผมเกินจะเยียวยาจริง ๆ T-T ด้วยสภาพผมแบบนี้ก่อนออกบ้านต้องเสียเวลาจัดการกับผมทุกวัน มันช่างน่าเบื่อ T-T
เหตุผลที่เลือกทำเคราตินแทนการยืดผม เนื่องจากสภาพผมแห้งเสียมาก และโดยส่วนตัวไม่ชอบผมตรงเป๊ะ ลีบแบน อยากให้ผมตรงแบบธรรมชาติมากกว่า แต่จะได้ผลออกมาแบบที่คิดไว้รึเปล่านะ?
ผมพร้อม กระเป๋าตังพร้อมก็เริ่มกันเลย!! มาดูขั้นตอนการทำทรีทเม้นต์กันค่ะ โดยรวมทั้งหมดใช้เวลาไปประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งเท่านั้นเอง
เริ่มจากสระผมทำความสะอาดเส้นผม หลังจากนั้นสระผมด้วยแชมพูเคราติน(หมักทิ้งไว้ 15 นาที) เป็นการเปิดเกล็ดผม ตอนหมักทิ้งไว้จะรู้สึกเย็น ๆ เหมือนลูกอมมิ้นต์ประมาณนั้นเลยค่ะ >.<
หลังสระผมเสร็จก็เป่าผมให้แห้ง จากนั้นช่างจะใช้แปรงลงเคราตินบนเส้นผมทีละช่อเล็ก ๆ จนทั่วทั้งศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ขั้นตอนนี้จะมีกลิ่นฉุนหน่อย ๆ ค่ะ ซึ่งในบางประเทศนั้นมีรายงานว่าผลิตภัณฑ์บางยี่ห้อมีส่วนประกอบของ formaldehyde ในปริมาณที่มากเกินมาตรฐานความปลอดภัยต่อร่างกายซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยเฉพาะทางเดินหายใจ สาว ๆ จึงควรเลือกร้านที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน และช่างที่ไว้วางใจได้
หลังจากหมักผมด้วยเคราตินเสร็จก็ตามด้วยการเป่าผมให้แห้งสนิท แล้วรีดผมทีละช่อเล็ก ๆ จนทั่วศีรษะ เท่านี้ก็เสร็จแล้วค่ะ! ใช้เวลาไม่นานเลย หลังทำทรีทเม้นต์ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องฝนจะตก ผมจะเปียกชื้น สำหรับบางร้านจะให้งดสระผมหลังทำหนึ่งถึงสองวัน ต้องสอบถามช่างทำผมที่ร้านนั้น ๆ นะคะ
แต่ว่า... อย่าเพิ่งเชื่อภาพ Before : After หลังทำเสร็จทันทีนะคะ แน่นอนว่าหลังทำเสร็จทันทีมันจะออกมาสวยเป๊ะ แต่ของจริงอยู่ที่หลังจากนั้นค่ะ ว่าแล้วก็มาดูกันเลยว่าหลังจากผ่านไปแล้วพอสระผมจะออกมาสวยเหมือนเดิมมั้ยนะ
หลังจากที่สระผมตามปกติแล้ว เป่าผมให้แห้งด้วยไดร์เป่าผมธรรมดา ๆ หวีผมตามปกติก็ได้ผมออกมามีน้ำหนัก เงางาม ดูสุขภาพดีขึ้น และดูตรงแบบเป็นธรรมชาติไม่ดูแข็งทื่อค่ะ
หลังจากทำทรีทเม้นต์แล้วจะอยู่ได้นานประมาณสามถึงหกเดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังทรีทเม้นต์ โดยช่างจะแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มีส่วนประกอบของเคราติน หลีกเลี่ยงการใช้แชมพูหรือผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มีส่วนประกอบของ Sulfate, หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำในสระซึ่งมีสารคลอรีน และหลีกเลี่ยงการเล่นน้ำทะเล
เอาเป็นว่าสาว ๆ ที่ผมฟูแห้งเสีย เบื่อกับการต้องเสียเวลาจัดการทรงผมทุกเช้า กังวลกับวันฝนตกผมฟู อยากจะหาทางแก้แล้วล่ะก็ รีวิวนี้อาจจะเป็นการประกอบการตัดสินใจ หนึ่งในวิธีการจัดการปัญหาเส้นผมชี้ฟูแห้งเสีย แต่ก็อย่าลืมนะคะว่าสภาพเส้นผมที่ต่างกันอาจจะให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน และอย่าลืมเลือกร้านและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ...ผมสวยแล้วก็สะบัดผมพริ้ว ๆ เลยค่ะ :)