มีเงินก็ซื้อไม่ได้ ขายห้าชั่วโมงเกลี้ยง! ที่ร้านโจ๊ก-ต้มเลือดหมูเจ๊สุ

ใครตื่นเช้ายกมือกันหน่อยค่ะ!!! วันนี้น้องหลุมดำจะมาชี้เป้าร้านเด็ดที่กินเป็นประจำตั้งแต่สมัยเรียน ร้านนี้บอกเลยว่ามีเงินก็ใช่ว่าจะได้กินนะ เพราะเปิดร้านขายแค่ 5 ชั่วโมงเท่านั้น ตั้งแต่ตีสี่ครึ่งถึงเก้าโมงครึ่ง บางทีก็ขายดีมาก หมดเร็วยิ่งกว่านั้นอีกค่ะ ร้านนั้นก็คือ ร้านโจ๊ก-ต้มเลือดหมูเจ๊สุ นั่นเองค่ะ

ร้านโจ๊ก-ต้มเลือดหมูเจ๊สุตั้งอยู่ที่ปากทางหมู่บ้านสีวลี ตลาดสี่มุมเมือง ให้เพื่อนๆ มาทางถนนวิภาวดีรังสิตตรงมาเรื่อยๆ แล้วชะลอความเร็วเมื่อใกล้ถึงหมู่บ้านสีวลี เลี้ยวซ้ายเข้าไป เราจะเจอหมู่บ้านตรงหน้าเลย ให้เลี้ยวซ้ายอีกทีเพื่อจอดรถค่ะ จะมียามคอยโบกให้ หลังจากจอดรถแล้วเดินมาที่ร้านที่อยู่ริมถนนค่ะ ร้านเล็กๆ ที่มีที่นั่งไม่มาก แต่คนเข้าออกร้านค่อนข้างเยอะ ทั้งยืนเข้าแถวหน้าร้าน ขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดรอ นั่งรอที่โต๊ะ เพียบค่ะ คนเยอะมากก็จริง แต่เจ๊สุทำไวนะคะ แป๊บๆ ก็ได้แล้ว ลูกค้าที่มาส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ แต่ละคนหอบโจ๊กเจ๊กลับบ้านทีหลายถุงมาก เหมือนกินยันพรุ่งนี้เลยล่ะค่ะ 555

เมนูหลักๆ ของร้านโจ๊ก-ต้มเลือดหมูเจ๊สุคือ โจ๊กและต้มเลือดหมูตามชื่อร้าน วันนี้มากันสองคนพี่น้อง แต่หิวโหยมาก สั่งเต็มโต๊ะ! เริ่มด้วยเมนูโจ๊กร้อนๆ ปกติราคา 25 บาทเท่านั้น ใส่ไข่ 30 บาท แต่วันนี้เราขอพิเศษตามที่ท้องน้อยๆ กำลังร้องคำราม “โจ๊กใส่ไข่เค็ม” และ “โจ๊กใส่ไข่เยี่ยวม้า” ราคาถ้วยละ 35 บาท 

รับรองว่าใครเห็นถ้วยโจ๊กเจ๊สุต้องอ้าปากค้างเหมือนตอนที่น้องหลุมดำลองครั้งแรกค่ะ ถ้วยใหญ่เสิร์ฟร้อนๆ ปริมาณแน่น เครื่องเคียงฟูเต็มชาม หอมฉุยยั่วต่อมน้ำลายขั้นสุด เรื่องรสชาติก็เข้มข้นกลมกล่อมแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม

 แต่นอกจากจะมีโจ๊กและต้มเลือดหมูแล้ว เจ๊สุก็ยังมีเมนูอื่นๆ ด้วย “กวยจั๊บ” เส้นเด้งหนึบเครื่องแน่น “ข้าวต้มปลา” หอมกระเทียม ปลาสดเด้ง และ “ก๋วยเตี๋ยวเครื่องในหมู” แนะนำคนที่ชอบเครื่องในเลยค่ะ เจ๊สุไม่หวงของใส่มาเต็มที่ ไม่ได้สั่งแบบพิเศษก็ให้มาเยอะถูกใจมากๆ ทุกจานที่ว่ามาราคาเพียง 35 บาทเท่านั้นค่ะ ถ้าไปซื้อในเมืองคาดว่าแต่ละถ้วย 60 อัพแน่นอน

พอเริ่มใกล้ๆ 9 โมง ของก็เริ่มหมดร้านค่ะ เจ๊สุเริ่มหยุดมือแล้ว เราเลยขอสอบถามเจ๊สุสักหน่อย ทราบมาว่าร้านนี้เปิดมานานกว่า 25 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 เคล็ดลับอยู่ที่สูตรลับที่เป็นของแม่เจ๊สุนั่นเอง แต่การที่มีลูกค้ามาซื้อกับเจ๊สุแบบไม่ขาดสายนั้น นอกจากรสชาติแล้ว ก็คือ “ความซื่อสัตย์กับลูกค้า” เจ๊สุเล่าว่า “เราซื่อสัตย์กับลูกค้าทุกคน วัตถุดิบต่างๆ สั่งมาตอนเช้า มาส่งปั๊บก็ทำขายเลย ของที่ใช้ก็เลือกอย่างดี เป็นหมูหมักแบบพิเศษชิ้นโตๆ ส่วนโจ๊กก็เคี่ยวให้ร้อนตลอดเวลา ขนาดทิ้งไว้กลับมาทานก็ยังร้อน คุณภาพของเราไม่เคยเปลี่ยนรวมถึงราคาด้วย อยากให้คนที่มาทานรู้ว่ามันอร่อย แล้วก็กลับมาอีก”

ความดีงามมันอยู่ที่รสชาติและราคาที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะผ่านมานานกี่ปีก็ตาม ใครอยากรู้ว่าร้านโจ๊ก-ต้มเลือดหมูเจ๊สุเป็นอย่างไรก็ตามน้องหลุมดำมาได้ค่ะ แต่อย่าลืมว่าร้านเปิด 4.30 - 9.30น. นะคะ เดี๋ยวจะอดกินน้าาา >_<