ราเมง! โซบะ! อูด้ง! ใครที่เป็นคออาหารญี่ปุ่นตัวจริงก็น่าจะคุ้นเคยกับอาหารชนิดเส้น ทั้งสามอย่างนี้เป็นอย่างดี แต่หารู้ไม่! ยังมีอาหารชนิดเส้นอีกหนึ่งชนิดที่คนไทยยังไม่ค่อยจะรู้จักกันเท่าไหร่ แต่เอกลักษณ์และรสชาติไม่ด้อยไปกว่าสามสิ่งนี้เลย และนั่นก็คือ นางาซากิจัมปง! และร้านที่เหมาะที่จะลิ้มรส นางาซากิจัมปง สูตรเด็ดก็ต้องเป็นร้านต้นตำรับ อันดับ 1 อย่างร้าน “Ringer Hut”
เมื่อเดินเข้าไปในร้านสิ่งแรกที่ได้ยินก็คือ “อิรัชชัยมาเซะ!” หรือ “ยินดีต้อนรับ!” เป็นการกล่าวต้อนรับแขกเสียงต้อนรับของทีมเสิร์ฟที่มากด้วยพลังและความจริงใจ พอเดินเข้ามาอีกหน่อยก็จะเห็นครัวเปิดที่มากไปด้วยชีวิตชีวา การตกแต่งร้านจะใช้ไม้โทนสีธรรมชาติผนวกกับผนังสีขาวโพลน ทำให้ความรู้สึกผ่อนคลายราวกับได้เข้ามารับประทานอาหารที่บ้านของเพื่อน
หน้าร้าน
บรรยากาศร้าน
บรรยากาศร้าน
Menu
มาถึง “Ringer Hut” สิ่งแรกที่ควรลองก็ต้องเป็นเมนูซิกเนเจอร์อย่าง “ยาไซทัปปุริจัมปง” (239 บาท)ดูวูบแรกอาจจะนึกว่าเป็นแค่ราเมงผักธรรมดาๆ แต่นี่คือนางาซากิจัมปงของแท้! ทางร้านจะใช้เส้นจัมปง สูตรเฉพาะรสสัมผัสเหนียวนุ่มสู้ฟัน และน้ำซุปกระดูกหมูที่ผ่านการเคี่ยวมาอย่างพิถีพิถัน ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ส่งตรงมาจากญี่ปุ่นแบบวันต่อวัน! วิธีทำก็คือ กระทะต้องเดือด! น้ำมันพร้อม และก็ใส่ หัวหอมใหญ่ ถั่วงอก และ กะหล่ำปลี ผัดไฟแรงๆจนน้ำระเหยออกไปส่วนหนึ่ง เป็นการดึงความหวานของผัก แต่ยังคงซึ่ง Texture และความสดใหม่ของ ผักไว้เต็มเปี่ยม เสร็จแล้วก็ใส่ น้ำซุปลงไป ต้มพร้อมกับ เส้นจัมปง 2 ก้อนเพื่อปริมาณและความอิ่ม ต้มพร้อม กุ้ง หมู ปลาหมึกสด พร้อมทั้งใส่ ข้าวโพด ถั่วลันเตา แครอท ต้นหอม แค่ได้ซดน้ำซุปก็จะรับรู้ได้ถึงความหวานธรรมชาติของผัก ทานพร้อมกับ Dressing ขิงก็ได้อรรถรสที่สดชื่นและดีงาม เป็นชามเด็ดที่คนไม่ทานผักก็ต้องหลงรัก!
นอกเหนือจากนางาซากิจัมปง “Ringer Hut” ยังมีเมนูเส้นที่เด็ดดวงอีกเพียบ! “นางาซากิ ซาราอูด้ง” (179 บาท) เส้นซาราอูด้ง (อารมณ์คล้ายๆกับเส้นอีหมี่แบบฮ่องกง) สูตรพิเศษนำเข้าจากญี่ปุ่นทอดจนกรอบได้ที่ ราดหน้าด้วยน้ำซอสที่ทำจากผักและซุปกระดูกหมู หอมกรุ่นรสโอชา สำหรับใครที่ชอบราดหน้าหมี่กรอบเป็นทุนเดิม จานนี้ถือเป็นอีก หนึ่ง Hi light ที่ไม่ควรพลาด ส่วนใครที่อยากได้รสสัมผัสเส้นที่ทั้งกรอบและเหนียวนุ่มในเวลาเดียวกัน “Ringer Hut” ก็มีไม้เด็ดอย่าง “ฟุโตเม็ง” (199 บาท)ที่ใช้น้ำซอสเข้มข้นสูตรเดียวกับ “นางาซากิ ซาราอูด้ง” ราดลงบนเส้นจัมปงที่ผ่านการกริลล์ในกระทะจนข้างนอกกรอบข้างในเหนียวนุ่ม และยังมี "ซึเคเมน ชาชู" (179 บาท)เส้นจัมปงลวกสุกได้ที่ ช็อคในน้ำเย็นอย่างว่องไว จนเส้นอยู่อุณหภูมิห้อง เสิร์ฟพร้อมกับชาชูและซุปกระดูกหมูแบบเข้มพิเศษ เวลารับประทานให้จุ่มเส้นลงไปในน้ำซุปและ ค่อยซี้ดเข้าปากแบบคำเดียวหมด!
“Ringer Hut” ไม่ได้มีดีแค่เส้นเฉยๆ ทางเหล่าเชฟผู้ช่ำชองได้คิดค้นเมนูพิเศษที่สามารถหาทานได้เพียง ในประเทศไทย นั่นก็คือ “ข้าวหน้าต้มยำกุ้ง” (190 บาท) เป็นการผสมผสาน 2 วัฒนธรรมอย่างลงตัว ทั้งต้มยำแบบไทยๆ กับ Donburi ข้าวราดหน้าทรงเครื่องสไตล์ญี่ปุ่น และยังมี “ชุดหมูผัดซอสขิง” (230 บาท) แบบญี่ปุ่นแท้ๆน่าลิ้มลอง อีกหนึ่งเมนูที่ร้านอาหารเส้นสไตล์ญี่ปุ่นจะขาดไม่ได้นั่นก็คือ “เกี๊ยวซ่า” (เริ่มต้นที่ 80 บาท) และแน่นอน “Ringer Hut” ทำเกี๊ยวซ่าสดๆวันต่อวัน ทอดจนกรอบนอกฉ่ำใน ทานพร้อมกับ “Yuzu Kosho” หรือเปลือกส้มยูสุหมักพริกไทยก็ได้อรรถรสที่เผ็ดและสดชื่นไปอีกแบบ
ยังไม่พอเพื่อความอิ่มและคุ้มของชาวมนุษย์เงินเดือนสู้ชีวิตทุกๆคน “Ringer Hut” ก็มี Lunch Set สุดคุ้ม ตั้งแต่ 11am-5pm
"ยาไซทัปปุริจัมปง" (239 บาท)
"ยาไซทัปปุริจัมปง" (239 บาท)
"นางาซากิ ซาราอูด้ง" (179 บาท)
"ฟุโตเม็ง" (199 บาท)
"นางาซากิ ซาราอูด้ง" (179 บาท) และ "ฟุโตเม็ง" (199 บาท)
"ซึเคเมน ชาชู" (179 บาท)
"ซึเคเมน ชาชู" (179 บาท)
"ข้าวหน้าต้มยำกุ้ง" (190 บาท)
"ข้าวหน้าต้มยำกุ้ง" (190 บาท)
"ชุดหมูผัดซอสขิง" (230 บาท)
"เกี๊ยวซ่า" (80 บาท)
"เกี๊ยวซ่า" (80 บาท)
การเดินทาง
เหนียวนุ่มทั้งเส้น! น้ำซุปกระดูกหมูและผัก 7 ชนิดกลมกล่อมเกินบรรยาย! ใครที่ชื่นชอบราเมง โซบะ และ อูด้ง เป็นทุนเดิมอยู่แล้วห้ามพลาดเด็ดขาดกับ “Ringer Hut” นางาซากิจัมปง อันดับ 1 จากญี่ปุ่น ตัวร้านจะอยู่ชั้น 2 ของตึก B ที่ K- Village
