เดี๋ยวนี้จะเลือกเข้าร้านอาหารทั้งที ถ้าเป็นสายเซลฟีอย่างน้องแค่รสชาติอาหารอย่างเดียวคงไม่พอหรอกค่ะ ร้านต้องสวย มุมต้องได้แล้วถ่ายรูปปัง จะได้มีอะไรลงสตอรี่อัปเดตให้ฟอลโลเวอร์ได้เชยชม แล้วยิ่งมาในถิ่น อ.ปากช่อง เขาใหญ่ ที่จัดว่ามีร้านอาหารโคราชตรงโจทย์ตรงใจน้องหลายร้าน แต่สุดท้ายก็ขอปักหมุดมาที่ “River Curve” ซึ่งความปังของร้านนี้มันอยู่ตรงที่เป็นเพียงร้านเดียวในละแวกตัวเมืองปากช่อง ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และตกแต่งร้านโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมเดิม และแน่นอนสิ่งที่ทำให้น้องต้องร้องกรี้ดก็คือ มุมปิกนิกที่ช่วงนี้กำลังฮอตเวอร์ เอาล่ะเดี๋ยวจะหาว่าน้องแกง ไปดูเองดีกว่าว่าจะปังปุแบบที่น้องพูดไหม!
ร้าน “River Curve” จะอยู่ริมทางตัวเมืองปากช่อง ร้านหาง่ายมากที่จอดรถอะไรก็พร้อม แค่เปิดประตูรถก็ได้ยินเสียงลำธารน้ำไหลเลยเดินเข้าไปดูวิวก่อนทันที จากตัวร้านเดินลงมานิดเดียวก็จะเจอบริเวณสวนกว้าง มีมุมปิกนิกชิค ๆ ใกล้กันเป็นลำธารสวย น้องมาถึงตอนเที่ยงแดดยังแรงอยู่ เลยขอกินข้าวเองแรงก่อนจะถ่ายรูปยาว เปิดเมนูดูก็ต้องว้าวเพราะเมนูอาหารเยอะมาก เน้นอาหารไทยจานเบ้อเริ่ม เลยจิ้มมา 5-6 อย่าง เอาให้สาใจแก่ความหิว
จัดมากับเมนูขึ้นชื่อของร้าน “ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน” (260 บาท) เมนูที่ต้องบอกว่าเหมือนขนซีฟู้ดจากทะเลมาใส่ในลูกมะพร้าว เพราะมาหมดทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ผสานกับเครื่องแกงรสจัดจ้านแล้วแทรกด้วยความหวานหอมเนื้อมะพร้าวอ่อน มอบมงความละมุนให้เลย สังเกตดูทางร้านเขามีความประยุกต์เก่ง มักใช้ความหวานจากผลไม้ใส่เข้าไปในของคาว แล้วดันเข้ากันกว่าที่คิดอย่าง “ฉู่ฉี่ลิ้นจี่กุ้งแม่น้ำ” (450 บาท) ที่ใช้เนื้อลิ้นจี่มาผสมกับเครื่องแกง กินพร้อมกุ้งตัวโต ๆ จานนี้ก็เด็ดใช่เล่น
“เนื้อปูผัดผงกะหรี่” (650 บาท) จานนี้เทกซ์เจอร์คล้ายกับห่อหมกทะเล แต่ได้กลิ่นและความเข้มข้นของผงกะหรี่แบบเต็ม ๆ เนื้อปูก้อนก็ใหญ่จนนึกว่าปั้นขลิบ กินพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ จบปิ๊งเลย ของมันต้องมีจริง ๆ ไม่ว่าจะร้านไหน เมนูประจำชาติของทุกครอบครัว “ปลาช่อนลุยสวน” (380 บาท) ร้านนี้น้องปลาช่อนเขามาในวิถีโค้งนะจ้ะ ลำตัวน้องจะโค้งเข้าเป็นแบบนี้ทุกจาน เห็นว่าทางร้านดีไซน์เพื่อให้เข้ากับชื่อร้านอย่าง “River Curve” นั่นเอง เก๋ปะล่ะ ส่วนน้ำยำจะผสมกะทิเล็กน้อยเพื่อความนัว
แล้วส่งท้ายของคาวกันด้วย “ขาหมูคุโรบูตะ” (550 บาท) ที่ทางร้านจะใช้ขาหมูดำคุโรบูตะทำ ไม่รู้เขาทอดยังไงนะแต่เนื้อหมูมัน Juicy มาก เวลาใช้มีดหั่นแล้วเนื้อด้านในมีความเป็นเลเยอร์แยกส่วนเนื้อและหนัง เสิร์ฟกับน้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มแจ่ว ซอสหวานและมายองเนสสูตรของทางร้าน
เอาล่ะกินอิ่มแล้ว หน้าก็เติมแล้วเรียบร้อยแดดร่มลมตกพอดิบพอดี จะรอช้าอยู่ไยขอพุ่งไปโซนปิกนิกด่วนเลยค่ะ ซึ่งบอกเลยค่ะว่าโซนนี้เราไม่ได้เซต คือถ้าเพื่อน ๆ มาถึงก็จะเจอผ้าปู ตะกร้า พร็อพอะไรต่าง ๆ ที่ทางร้านวางเตรียมไว้ให้อยู่แล้วค่ะ หน้าที่ของทุกคนก็คือแต่งหน้าแต่งตัวชาร์จแบตมาให้พร้อมแค่นั้นเอ๊งงง แต่แก๊งเราขอเสริมด้วยเครื่องดื่มและขนมหวานสักหน่อย มันจะได้ปังกว่าเดิม
นี่ล่ะค่ะ ก็เลยได้น้ำและขนมมาเต็ม ถึงจะอิ่มแล้วแต่รูปเราต้องปัง! เลยเน้นสั่งอะไรที่มีสีสันที่มันดูแล้วโซคิวต์ ไม่ว่าจะเป็น “The Red River” (115 บาท) สดชื่นจากกระเจี๊ยบ เลมอน ขิงและส้ม “Virgin Rainbow” (115 บาท) มากับ 3 เลเยอร์แยกชั้นเก๋ ๆ จากทับทิมและส้ม ถ้าหากเป็นช็อกโกแลตเลิฟเวอร์แนะนำเป็น “Black Marble” (125 บาท) ดาร์กโกโก้แบบเข้มสุดถึงใจตับไตไส้พุง “กาแฟมะพร้าว” (125 บาท) ก็แปลกใหม่ดื่มง่าย พ่วงมากับสารพันน้องเค้กหลากเมนู ที่ไม่ได้มีดีแค่น่ารักเพราะรสชาติละมุนจัด ๆ เลยงับไอต้าว ><’
เล่นเอาซะโทรศัพท์ร้อนไปเลยเพราะถ่ายไปเกือบร้อยรูปได้ แหมก็วิวมันสวยเบอร์นี้ใครมันจะอดใจไหวล่ะคะ ทางร้านบอกกับเราว่าในอนาคตจะมีการจัดเซตปิกนิกที่มีผ้าปู พร็อพถ่ายรูปต่าง ๆ เบเกอรีและเครื่องดื่มใส่ลงในตะกร้าพร้อมหิ้ว เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกพื้นที่นั่งได้ตามใจชอบ เก๋กู้ดสุด แนะนำอีกอย่างค่ะมาร้าน “River Curve” ทั้งที อย่าลืมที่จะลองชิมอาหารไทยด้วยน้า จานใหญ่ รสชาติกลมกล่อม กินได้ทั้งครอบครัวแน่นอนจ้า ส่วนครั้งหน้าน้องจะไปรีวิวร้านไหน ก็อย่าลืมกดติดตามเพจ we korat ไว้นะค้า
การเดินทาง
ร้าน “River Curve” ตัวเมืองปากช่องโคราช เยื้องโรงพยาบาลปากช่อง
- เปิดทุกวัน 10.00-22.00 น.
- โทร: 044-311-515, 097-996-5614, 081-999-2589