#วงในบอกมา
- ทางร้านใช้น้ำมันที่สกัดจากไขมันของเนื้อวัวในการปรุงอาหาร เพราะจะได้ความหอมและรสชาติที่กลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์
- เมนูจาก “เนื้อสันในวากิว” ที่จะนำเข้าจากจังหวัดคาโงชิมะ เมืองอันดับ 1 ด้านการเลี้ยงวัวของญี่ปุ่น
เทปปันยากิโชว์ที่มีกระบวนท่าไม่ซ้ำใคร โดยเฉพาะกิมมิก “ท่าตอกไข่” ชมได้ที่ร้าน “Shichi Japanese Restaurant” เท่านั้น

อิรัชชัยมาเสะ~ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ “Shichi Japanese Restaurant” ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดพรีเมียม สาขาบางนา สำหรับคนชอบกินอาหารจากแดนอาทิตย์อุทัยต้องบอกเลยว่า ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลาย เอาใจสายกินอย่างชาวเรา ด้วยโซนให้บริการทั้งหมด 5 โซนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Shichi Restaurant, โซน Shichi Omakase, โซน Shichi Teppanyaki, โซน Shichi Private Dinning Room และโซน B Duck Cafe
และแน่นอนว่า มากับนิชาทั้งที จะกินแบบธรรมดาได้อย่างไร วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปตื่นตา ระทึกใจกับโซน Shichi Teppanyaki ที่จะมีเชฟมาปรุงให้เราดูกันสด ๆ เห็นทุกกรรมวิธี และทุกกระบวนท่าลีลาสุดตระการตา

ว่าด้วยบรรยากาศของร้าน “Shichi Japanese Restaurant” กันก่อน นอกจากอาหารจะถูกปรุงแบบต้นตำรับแล้ว บรรยากาศโดยรอบยังถูกจำลองออกมาให้เหมือนกับปราสาทญี่ปุ่น สไตล์ Traditional แต่ยังแทรกความโมเดิร์นเข้าไปด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีดำ เสริมให้ตัวร้านดูพรีเมียมขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง เมื่อเข้าไปถึงโซนเทปปันยากิเราก็จะเห็นเตาเหล็กตั้งตระหง่านรอให้ลูกค้าได้เข้าไปชิมและชมโชว์สุดพิเศษของวันนี้

ส่วนด้านวัตถุดิบที่จะถูกนำมาปรุงให้ทุกคนได้ชิมนั้น ทางร้าน “Shichi Japanese Restaurant” ได้คัดสรรมาอย่างดี โดยเชฟตุ้ย (ดวงใจ บำรุงพล) หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันรายการ Top Chef Thailand และเชฟที่จะมาโชว์เทปปันยากิสุดพิเศษในวันนี้ เล่าให้เราฟังว่า กว่าจะคัดสรรเมนูและวัตถุดิบที่ใช้ในการรังสรรค์แต่ละเมนูได้จนทุกวันนี้ ล้วนแล้วแต่ผ่านการทดลองชิมมานับไม่ถ้วน ทั้งต้องคอยสังเกตกระแสตอบรับจากลูกค้า เพื่อให้ถูกปากผู้ที่แวะเวียนเข้ามาชิมมากที่สุด จากแรกเริ่มที่เราขายวัตถุดิบหลักไม่ต่ำกว่า 10 อย่าง จนคัดให้เหลือเพียงแค่ 5 อย่าง แต่ได้คุณภาพที่คับจาน


หลักการปรุงของร้าน “Shichi Japanese Restaurant” จะเน้นชูโรงไปที่ตัววัตถุดิบ และพิถีพิถันแบบชาวญี่ปุ่น ไม่ใส่รสชาติหรือเครื่องเทศเยอะเกินไป จนกลบความโดดเด่นของวัตถุดิบนั้น ๆ เนื่องจากวัตถุดิบที่เลือกมา จะต้องมีคุณภาพที่ดีอยู่แล้วในตัว ส่วนด้านการโชว์ของร้านเทปปันยากิร้านนี้เชฟตุ้ยขอบอกเลยว่า เล่นใหญ่ ต้องมีความสนุกสนาน เป็นกันเอง และมีลูกเล่นแพรวพราวแบบสไตล์ยุโรป
และแล้วเวลาแห่งความตื่นเต้นก็มาถึง เชฟเตรียมพร้อมสถานที่และวัตถุดิบพร้อมสรรพ วัตถุดิบที่จะถูกรังสรรค์ออกมาเป็นเมนูแรกให้เราได้ชิมคือ “Seafood Set” (1,850 บาท) เซตอาหารทะเลที่ประกอบไปด้วย “Andaman Tiger Prawn” กุ้งลายเสือ 2 ตัว นำไปย่างบนกะทะร้อน ราดด้วยซอสกระเทียมพริกไทยเล็กน้อย เพื่อคงความหวานของเนื้อกุ้งไว้ ต่อด้วย “Norwegian Salmon” นำไปจี่จนหนังกรอบและได้กลิ่นหอม สุดท้ายของเซตนี้คือ “Hotate” หอยเชลล์ที่นำเข้าจากฮอกไกโด พร้อมกิมมิกการเสิร์ฟสุดเท่ ไปลุกท่วมจาน!


มาถึงด้าน A La Carte กันบ้าง ประเดิมด้วย “River Prawn” (สอบถามราคาจากทางร้าน) กุ้งแม่น้ำที่จะมีความแตกต่างจากกุ้งลายเสือ ด้วยกลิ่นที่ได้จากการย่างบนเตา ผสมกับกับเนื้อที่จะหวานกว่าเล็กน้อยนั่นเอง
ถัดมาเป็น “Larnaudie Foie Gras” (850 บาท) นำเข้าจากฟาร์มในฝรั่งเศสที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความสะอาดและพิถีพิถันในการเลี้ยง โดยในระหว่างการปรุง เชฟจะฝนเปลือกส้มยุซุลงไปเพื่อตัดรสเลี่ยนของตับห่านอีกด้วย


ที่ผ่านมายังแค่น้ำจิ้ม เชฟบอกว่าของจริงกำลังจะเริ่ม เมนูต่อมาเป็น “New Zealand Lamb Rack” (1,350 บาท) เนื้อแกะนำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ ที่ร้าน “Shichi Japanese Restaurant” คัดมาอย่างดี มีกลิ่นสาปไม่มาก แค่พอเป็นเอกลักษณ์ และจุดเด่นการปรุงที่ไม่เหมือนใครคือ เชฟจะแยกวัตถุดิบออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนเนื้อล้วน นื้อติดซี่โครง และส่วนไขมัน โดยจะไล่ลำดับการปรุงไปเรื่อย ๆ เริ่มจากการเจียวไขมันให้หอมฟุ้งและกรอบ ต่อด้วยกริลส่วนซี่โครงพอแตกมัน และสุดท้ายคือย่างส่วนเนื้อให้ออกมาชุ่มฉ่ำกำลังดี เสิร์ฟพร้อมกัน 3 ส่วนในจานเดียว บอกเลยว่า ชิมไปแค่คำเดียวก็แทบกรี๊ด ฟินสุด!

ปิดท้ายด้วยวัตถุดิบที่หลาย ๆ คนเกาะขอบเตารอชิม นั่นก็คือ “Kagoshima Wagyu Tenderloin A4” (1,850 บาท) เนื้อวัวส่วนสันในจากจังหวัดคาโงชิมะ ที่เจาะจงว่าต้องเป็นจังหวัดนี้ เนื่องจากคาโงชิมะได้รับขนานนามว่า เป็นเมืองอันดับ 1 ที่ขึ้นชื่อในการเพาะพันธ์ุวัวเนื้อของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเนื้อของที่นี่จะมีจุดเด่นอยู่ตรง ความนุ่มและไขมันที่แทรกตัวกำลังดี สามารถเรียกน้ำย่อยในการกินได้เรื่อย ๆ โดยไม่รู้สึกเลี่ยนนั่นเอง โดยทางเชฟจะปรุงเพียงเกลือ และพริกไทยเท่านั้น เพื่อให้เราได้สัมผัสถึงความหวานละมุนของเนื้อให้ได้มากที่สุด


การเดินทาง
ร้าน “Shichi Japanese Restaurant” ก็ไม่ยากเลย ร้านตั้งอยู่หน้าหมู่บ้าน Lakeside Villa 1 จังหวัดสมุทรปราการ เปิดทุกวัน จันทร์ ถึง ศุกร์ เวลา 11.00 - 14.00 น. และ 17.00 - 22.00 น. ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์ จะเปิดในเวลา 11.00 - 22.00 น. เชฟแอบกระซิบมาด้วยว่าสำหรับคอร์สเทปปันยากิในวันหยุดแนะนำให้โทรจองก่อนจะปลอดภัยสุด
เรียกได้ว่าจบคอร์สนี้นอกจากจะได้รับความอิ่มสุดพรีเมียมแล้ว ยังรู้สึกอิ่มเอมไปกับโชว์สุดตื่นเต้นและความเป็นกันเองของเชฟอีกด้วย สำหรับคนที่มองหาร้านเทปปันยากิดี ๆ สักร้าน “Shichi Japanese Restaurant” ก็ถือเป็นอีกหนึ่งร้านที่ไม่ควรพลาดจริง ๆ อย่าลืมมาร่วมสัมผัสความประณีตแบบญี่ปุ่นผสมผสานความอลังการจากโชว์สไตล์ยุโรปกันนะจ๊ะ