ด้วยความโชคดีที่ออฟฟิศอยู่ใจกลางเมืองย่านทองหล่อ ทำให้รอบที่ทำงานของวาฬเต็มไปด้วยร้านอาหารดี ๆ น่าสนใจเพียบ ยิ่งกับร้านอาหารญี่ปุ่น ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็พบเจอ และด้วยเหตุนี้วาฬจึงชวนพี่ ๆ ออกไปลิ้มลองความสดใหม่ของร้าน Shinsoko Sushi ที่ว่ากันว่าถ้าของไม่ได้คุณภาพ เขาไม่ขาย! ซึ่งร้านนี้เพื่อน ๆ บางคนอาจคุ้นชื่อกันมาแล้ว เพราะเดิมตั้งอยู่ที่สีลมนั่นเองค่ะ แต่ถึงจะเปลี่ยนโลเคชันใหม่ แต่ความดีต่อใจยังเหมือนเดิมนะจ๊ะ

ไม่นานนักก็มาถึงที่ร้าน Shinsoko Sushi ซึ่งอยู่เยื้อง ๆ กับ Nihonmachi ในซอยสุขุมวิท 24 นี่เองค่ะ สิ่งแรกที่เตะตาเมื่อก้าวเข้ามาในร้านก็คือ ตู้ปลาทองตัวอ้วน แล้วยิ่งการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ยิ่งให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนมานั่งกินซูชิที่บ้าน ส่วนใครอยากเห็นเชฟแล่ปลากันสด ๆ แนะนำที่นั่งซูชิบาร์เลยค่ะ ถึงแม้ทางร้านจะย้ายโลเคชันใหม่ แต่ความสดใหม่ คุณภาพ และรสชาติยังคงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเสมอ ส่วนความพิเศษที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือ วันไหนเราอยากลองวัตถุดิบเป็นเมนูใหม่ ๆ ที่ไม่มีในร้านก็สามารถบอกเชฟให้ครีเอตเมนูขึ้นมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวเชฟจัดให้!

เริ่มกันที่เมนูของกินแกล้มเรียกน้ำย่อย “Eihire Yaki” (250 บาท) ครีบปลากระเบนย่าง รสชาติออกหวานกินไปกินมาเพลินปากน่าดู จนหยิบกินไม่หยุดเลยล่ะค่ะ


เมื่อเรียกน้ำย่อยกันมาเต็มที่แล้ว มาต่อที่ “Soft Shell Crab Salad” (450 บาท) สลัดปูนิ่มทอดกรอบพร้อมด้วยสลัด สด ๆ ให้มาเต็มชาม! ท็อปด้วยไข่กุ้งเคี้ยวกรุบ ๆ ราดซอสมายองเนส และซอสสูตรพิเศษที่เชฟเป็นคนปรุงขึ้นมาเอง เมื่อกินทุกอย่างพร้อมกัน รสชาติลงตัวมาก ๆ ค่ะ


ถ้ามาร้านอาหารญี่ปุ่นทั้งที ต้องห้ามพลาด “Mini Shisoko Sashimi A” (2,500 บาท) ซาชิมิไซส์มินิ แต่คุณภาพไซส์บิ๊กเบิ้ม ในเซตนี้จะมีโอโทโร, ฮามาจิ, มากุโร, ปลามาได, หอยโฮตาเตะ และท้องปลาแซลมอน เชฟแอบกระซิบบอกมาว่า ถ้าปลาไม่สดไม่มีถึงมือลูกค้าแน่นอน มิน่าล่ะ ซาชิมิแต่ละคำมันถึงได้ฟินลิ้นเยี่ยงนี้!


ซาชิมิก็มี ซูชิก็ต้องมา! กับ “Mini Shisoko Sushi A” (1,700 บาท) ซูชิไซส์มินิที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพอีกเช่นเคย ในเซตนี้จะรวมข้าวปั้นยอดฮิตในจานเดียวตั้งแต่ อากามิ, ฮามาจิ, คัมปาจิ, มาได, ฮิราเมะ, เอนกาวะ, อุนางิ, หอยโฮตาเตะ, ไข่หวาน และเนงิ ฮามาจิ มากิคำเล็ก ๆ แนะนำว่าหากมากันเป็นแก๊งแล้วอยากลองกินหลาย ๆ เมนูแนะนำเซตมินิเลยค่า รับรองคุ้มแน่นนอน


สำหรับสายเนื้อแนะนำจานนี้เลย “Shogun Roll” (600 บาท) ซูชิเนื้อโกเบห่อด้วยไส้อัดแน่นเต็มคำ ทั้งกุ้งเทมปุระ, ไข่หวาน, อิกุระ และผักดองช่วยตัดรส ราดด้วยมายองเนส และซอสรสหวานสูตรพิเศษ ส่วนใครที่ยังติดใจปูนิ่มทอดกรอบต้องโดน “Spider Roll” (350 บาท) ปูนิ่มทั้งตัวทอดกรอบนำมาทำเป็นโรลล์กุ้งเทมปุระกรุบกรอบเต็มปากเต็มคำ และที่ปลื้มมากเลยคือ ไข่กุ้งกรุบ ๆ เคี้ยวแล้วมันมาก!


ปิดท้ายด้วยเมนูสุดอลังการด้วย “Taraba Nabe Mono” (2,200 บาท) ซุปสูตรลับที่เชฟของทางร้านได้รับการสืบทอดมาจากต้นตำรับญี่ปุ่นแท้จึงได้ความกลมกล่อมสุดใจ ซดกี่ครั้งก็ไม่พอ ส่วนเนื้อปูทาราบะก็หวานหอมกลิ่นทะเลสุด ๆ แถมด้วยความเฮลตี้จากผักนานาชนิดในหม้อไฟ บอกเลยว่าห้ามพลาด!


อูยยย ~ เรียกได้อิ่มท้องกันทั้งโต๊ะจุใจกับอาหารญี่ปุ่นสุดยอดคุณภาพ และรสชาติที่ร้าน Shinsoko Sushi กันจริง ๆ ค่ะ เพราะสัมผัสได้เลยว่าวัตถุดิบแต่ละอย่างที่ได้ลิ้มลองสดจริง! เสริมด้วยรสชาติที่ลงตัวถูกปากวาฬกับพี่ ๆ แบบนี้ขอยกนิ้วรัว ๆ ให้เลย >o<
การเดินทาง
ใครอยากตามมาพิสูจน์ความสดใหม่ฟินลิ้นมากันได้ที่ร้าน Shinsoko Sushi ร้านตั้งเยื้องกับ Nihonmachi ซอยสุขุมวิท 26 นี่เองค่า หน้าร้านมีที่จอดรถด้วยนะคะ