เป็นที่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ นั่นแหละค่ะ ว่าอาหารไทยของเรานั้น เป็นอาหารที่ทั้งถูกปากคนไทยด้วยกัน และคนต่างชาติต่างถิ่น แต่วันนี้ bellyishungry จะพาเพื่อนๆ ทุกคนไปลิ้มลองอาหารไทยโมเดิร์นที่ผสมผสานความเป็นวัฒนธรรมการทำอาหารไทยดั้งเดิมประยุกต์กับเทคนิคกระบวนการปรุงอาหารแบบตะวันตกสมัยใหม่ที่ห้องอาหาร “Sra Bua By Kiin Kiin” โรงแรม Siam Kempinski
ห้องอาหาร “Sra Bua By Kiin Kiin” ตกแต่งด้วยการผสมผสานความเป็นไทยแบบดั้งเดิมทั้งศาลา และสระบัวที่เป็กสัญลักษณ์ของทางร้าน แต่ยังคงมีกลิ่นอายความเป็นโมเดิร์นและเรียบหรู แค่มาดื่มด่ำบรรยากาศก็ถือว่าคุ้มซะจนเกินคุ้มแล้วจริงๆ ค่ะ
ไฮไลต์ของห้องอาหาร “Sra Bua By Kiin Kiin” ก็คงอยู่ที่อาหารไทยโมเดิร์นทุกจาน ที่ถูกพรีเซนต์ออกมาในรูปแบบของ fine-dining โดยมีให้เลือกทานทั้ง a la carte และ full course menu ที่ทางร้านใช้ชื่อว่า “The Journey” สำหรับ dinner ทั้งหมด 10 course ในราคา 3,100 บาท ให้ผู้มาเยือนทุกคนได้ดื่มด่ำท่องเที่ยวไปกับวัฒนธรรมการปรุงอาหารที่ผสมผสานทั้งความเป็นไทยและความเป็นตะวันตก
วันนี้เราเลยจะขอพาทุกคนมารู้จักจานเด็ดบางเมนูของ "The Journey" กันค่ะ ขอนำเสนอเมนูแรกด้วย จานเมนูทานเล่นเรียกน้ำย่อย Tuna Tartare พล่าทูน่าคำเล็กๆ เสิร์ฟบนดอกบัวบานสวย เปรี้ยวนิดๆ เผ็ดหน่อยๆ รสชาติจัดจ้านน่าประทับใจ เชื่อว่าจานนี้ต้องเป็นเมนูโปรดของสาวๆ หลายคนแน่ๆ
ต่อด้วย Foie Gras With Ginger And Plum Wine ตับห่านชิ้นพอดีคำ ราดด้วยซอสพลัมไวน์รสหวาน มีความเผ็ดเล็กๆ จากขิงซอยและ Ginger Foam ตัดรสได้เป็นอย่างดี
Lobster Served With Kra Chai and Red Pepper ผัดฉ่ากุ้งมังกรเนื้อแน่นหวานนุ่ม ผัดกับซอส oyster สูตรลับของร้าน มีกระชายเสริมความเผ็ดร้อน เสิร์ฟเคียงกับแครกเกอร์บีทรูทและข้าวเกรียบกุ้ง ประทับใจตรงที่แค่เคี้ยวชิ้นข้าวเกรียบกุ้ง รสสัมผัสและกลิ่นของตัวกุ้งก็กระจายออกมาคละคลุ้งเต็มๆ คำ
Beef Massaman With Potato, Five Spiced Beef Soup DIY Noodles มัสมั่นเนื้อเสิร์ฟพร้อมซุปและเส้นเต้าหู้ ความพิเศษอยู่ตรงความเปื่อยของเนื้อ ที่นำไป cooked กว่า 48 ชั่วโมง ทานเคียงกับซุปกาเข้มข้นและเส้นเต้าหู้ที่มาในหลอดฉีดยาให้ทางแขกฉีดตัวเส้นลงไปในน้ำซุป
มาถึงห้องอาหาร “Sra Bua By Kiin Kiin” แล้วไม่ควรพลาดกับเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Maine Lobster Salad, Frozen Red Curry (650 บาท) แกงแดงเย็นกับกุ้งมังกรเนื้อขาวเด้ง ทานกับไอศกรีมแกงแดงเข้มข้น มีรสหวานจาก Lychee Foam และชิ้นลิ้นจี่ เหมือนได้ทานแกงแดงอาหารคาวในรูปแบบของขนมหวาน แปลกแต่ประทับใจสุดๆ เลยค่ะ
หรือใครอยากมาทานแบบ a la carte อยากให้ลองทานอีกหนึ่งเมนูไฮไลต์อย่าง Tom Ka With Baby Corn and Chanterelle Mushroom (550 บาท) ต้มข่าสไตล์สระบัว ปุยสีขาวคล้าย snowflake คือน้ำซุปต้มข่าที่เชฟปรุงมาด้วยเทคนิคแบบโมเลกุลาร์ เสิร์ฟมาพร้อมหนังไก่กรอบและเห็ด
เมนูของหวานของที่นี่ก็เด่นไม่แพ้ใคร Banana Cake, Salted Ice Cream and Caramelised Milk (450 บาท) เค้กกล้วยหอมชิ้นเล็กพอดีคำ เสิร์ฟกับไอศกรีม มีอัลมอนด์สไลซ์กรุบกรอบเพิ่มเทกซ์เจอร์
ใครอยากดริงก์เพิ่มอรรถรสในมื้ออาหาร แนะนำ Tomyam Delight (230 บาท) หอมกลิ่นมะนาว ข่า ตะไคร้ ที่นำไปปั่นรวมกันแล้วกรองออกมา ตกแต่งด้วย spice สัมผัสแรกที่รู้สึกเมื่อดื่ม คือความเผ็ด ความแซ่บ และความหอมของเครื่องต้มยำ อยากให้มาลองด้วยตัวเองจริงๆ ค่ะ
อีกแก้วที่แนะนำคือ Sata-Bongkot (350 บาท) แก้วนี้จะเป็นเบสวอดก้า หอมกลิ่นชาบัว และ elderflower syrup ท็อปด้วยน้ำมะนาวเขียวและจิงเจอร์แอล
Tomyam Delight (230 บาท)
Sata-Bongkot (350 บาท)
จบมื้อพิเศษนี้ไปด้วยความประทับใจเต็มร้อย ทั้งด้วยความพิถีพิถันในการปรุงอาหารแต่ละจานของเชฟ วัตถุดิบ และการพรีเซนต์อาหารไทยโมเดิร์นในรูปแบบที่ต่างออกไป ทำให้รู้สึกถึงความตื่นเต้นทุกครั้งที่เชฟนำอาหารแต่ละจานมาเสิร์ฟ เหมือนเรากำลังจะได้เปิดประสบการณ์เดินทางไปกับอาหารจานนั้นๆ คุ้มค่าที่ได้มาลองจริงๆ ค่ะ (ราคาอาหารดังกล่าวยังไม่รวมอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และ ค่าบริการ 10%)
สำหรับใครที่อยากมาลิ้มรสอาหารไทยโมเดิร์นที่ห้องอาหาร “Sra Bua By Kiin Kiin” สามารถโทรศัพท์มาสำรองที่นั่งกันได้ก่อนเลยนะคะ โดยมื้อกลางวันจะเสิร์ฟในเวลา 12.00-15.00 น. และมื้อเย็นในเวลา 18.00-24.00 น.