#วงในบอกมา
- อาหารภายในร้านเป็นอาหารสไตล์ "อเมริกัน" และ "เม็กซิกัน" ที่ตกผลึกมาจากประสบการณ์กิน และความรักในการทำอาหารอย่างยาวนานของเจ้าของร้าน
- พิซซ่าที่ขายในร้าน เป็นพิซซ่าในแบบของรัฐ Chicago ที่เรียกกันว่า Tavern Style
- ขนมหวานภายในร้านทุกสาขา จะถูกทำขึ้นจากห้องทำขนมบนชั้นสองของสาขาริมแม่น้ำปิง
เกริ่นหัวมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าการรีวิวในวันนี้เป็นอะไรที่...ฟินที่สุดในวัดเกต เอ้ยย! ฟินที่สุดเลยเว้ยแก เพราะเราจะพาทุกคนไปร้านอาหารเชียงใหม่ชื่อดัง เพื่อกิน พิซซ่าถาดใหญ่เครื่องแน่น เบอร์เกอร์ชิ้นยักษ์เต็มคำ สเต๊กเนื้อนุ่มละลายหายวั๊บไปบนลิ้น ฯลฯ ถ้าทุกคนพร้อมแล้วเราก็ออกเดินทางไปที่ร้าน The Duke’s เชียงใหม่ กันเลย!
หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อของร้าน The Duke’s เชียงใหม่ กันอยู่แล้ว เพราะร้านอาหารเชียงใหม่ร้านนี้เมนูอาหารยุโรปเขาดังมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นสลัด, พิซซ่า, สเต๊ก, เบอร์เกอร์ ฯลฯ และมีสาขาให้เราไปมาถึง 5 สาขา (ริมน้ำปิง, เมญ่า, พรอมเมนาดา, เชียงใหม่ไนท์บาซาร์ และ ลำพูน)
เอาละมาถึงคิวของการรีวิวอาหารแล้ว วันนี้ผมก็ขอนำเสนอเมนูแรกเป็น “Greek Salad” (225 บาท) สลัดจานนี้คือความดีงาม ด้วยการใช้ผักสดกรอบ ๆมาคลุกเคล้าในน้ำสลัดใส เติมมะเขือเทศ, หอมหัวใหญ่, แตงกวา, มะกอก, เคเปอร์ และเฟตาชีส จากนั้นก็เติมอาติโชกดองลงไป เพื่อให้สลัดจานนี้มีทั้งความหวานมันแล้วยังมีออกรสเปรี้ยวสดชื่นชุ่มปากด้วย นอกจากนี้ยังมี Focaccia ที่เป็นขนมปังกระเทียมอบกรอบในแบบของ The Duke’s มาให้ด้วย
“The Big Nacho” (175 บาท) จานนี้เป็นของกินเล่นจานโปรดของผมเลย แป้งตอติญาโฮมเมดทอดกรอบ ราดด้วยเชดดาชีสเยิ้ม ๆ เติมรสชาติด้วยพริกฮาลาพินโญเปรี้ยว ๆ เผ็ด ๆ แล้วทีเด็ดเลยคือกินพร้อมซาวครีมสูตรเฉพาะของร้านที่หอมมันสุด ๆ ทำให้จานนี้เป็นของกินเล่นที่ทำให้เราหยุดปากไม่อยู่เลย
เริ่มขยับเข้าสู่ความจริงจังในการกินกับเมนู “BBQ Pork Ribs” (Half Rack 345 บาท / Full Rack 495 บาท) ซี่โครงหมูบาร์บีคิวที่ไม่ได้มีดีแค่ความใหญ่ แต่ยังมีชุ่มอยู่ในเนื้อซี่โครงอันนุ่มล่อน และรสชาติที่เข้มข้นของบาร์บีคิวซอสสูตรเฉพาะ ด้วยรสเปรี้ยวอมหวานและกลิ่นหอมอันยากจะคาดเดา จึงทำให้จานนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่อยากจะแนะนำให้สั่งติดโต๊ะกันไว้นะจ้ะ
"Kansas City Burger" (345 บาท) เบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่สไตล์เมืองแคนซัส ที่ตรงกลางระหว่างขนมปังอัดแน่นไปด้วย เนื้อบดชิ้นใหญ่แสนชุ่มฉ่ำ หอมใหญ่ย่าง, โคลสลอว์ และ เบคอน เติมความหอมมันด้วยเกาดาชีส และบาร์บีคิวซอสสูตรเด็ดประจำร้าน
ถ้าเนื้อเมื่อกี้ยังไม่ใหญ่พอก็ขอแนะนำให้จัด “Boneless Rib Eye” (1,450 บาท) สเต๊กเนื้อริบอายขนาด 400 ก. ชิ้นนี้ใช้เนื้อวัวส่งตรงจากอเมริกา ส่วนความฟินนั้นไม่ต้องอธิบายมาก เนื้อหวานชุ่มสัมผัสนุ่มทั้งปาก กัดตรงไหนก็มีน้ำหวานพุ่งออกมาแบบท่วมท้น ยิ่งเจอส่วนไขมันเข้าไปนะ อืมหืม...กลิ่นหอมของเนื้อวัวนี้พุ่งออกมาแบบเน้น ๆ เลยจ้า เอาเป็นว่าดีงามสุด ๆ สายเนื้อทั้งหลายห้ามพลาดนะบอกเลย!
แล้วตอนนี้เราก็มาถึงไฮไลต์ของวันนี้กับพิซซ่า ซึ่งมีให้เลือกมากถึง 15 หน้าด้วยกัน โดยมีให้เลือก 3 ขนาด เล็ก 12” กลาง 14” และใหญ่ 16” พิซซ่าทั้งหมดในร้านเป็นพิซซ่าในแบบของรัฐ Chicago ที่เรียกกันว่า Tavern Style ซึ่งจะต่างกับพิซซ่าสไตล์อิตาเลียนที่หลายคนรู้จักกันดี จะเป็นเรื่องแป้งก็ดี การตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมก็ใช่ ไปถึงเรื่องซอสมะเขือเทศที่ใช้ทาก็ยังมีกลิ่นหอมที่ต่างกันไปโดยสิ้นเชิง สำหรับตัวที่ผมเลือกมาแนะนำเพื่อน ๆ วันนี้ก็เป็น “Meat Lover Pizza” ( S 295 บาท / M 445 บาท / L 545 บาท) เมนูที่หลายคนชื่นชอบด้วยการรวมไว้ทั้ง ไส้กรอกอิตาเลียน, เป็ปเปอโรนี, แฮม และ มีตบอล มาวางไว้บนแผ่นแป้งหนานุ่ม ซอสมะเขือเทศสูตรเฉพาะและชีสหนา ๆ
นอกจากของคาวแล้วพวกขนมหวานก็เป็นอะไรที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน ถ้าใครชอบกินชีสเค้กก็ต้องไม่พลาดกับ “Caramel Cheese Cake” (165 บาท) ที่ได้ความหอมมันในแบบนิวยอร์กชีสเค้กแท้ ๆ พร้อมความหอมหวานของคาราเมล และส่วนเหล่าบรรดาคนรักช็อกโกแลตก็แนะนำเป็น “Chocolate Cupcake” (85 บาท) คัพเค้กช็อกโกแลตราคาไม่ถึงร้อย แต่ความฟินนี่เกินร้อยเลยจ้า! ช็อกโกแลตด้านบนอย่างหนา ส่วนเนื้อเค้กด้านล่างก็เต็มไปด้วยความฉ่ำของช็อกโกแลตแบบเน้น ๆ
นี่นั่งเขียนรีวิวไปก็หิวไป เอาเป็นว่าผมขอทิ้งทุกคนไปกินพิซซ่าตอนนี้เลยก็แล้วกัน และถ้าใครอยากกินบ้างก็แวะมาร้านอาหารเชียงใหม่ ที่มีพิซซ่าถาดใหญ่เครื่องแน่น สเต๊กเนื้อนุ่ม เบอร์เกอร์ไซส์พี่บิ๊ก อย่างร้าน The Duke’s เชียงใหม่ ทั้ง 5 สาขากันได้เลยนะครับ สุดท้ายนี้ก่อนจากกันไปก็ฝากไว้เหมือนเดิมเลยครับ กับการกดไลก์แฟนเพจ น้าอ้วนชวนหิว by Wongnai และตั้งให้เห็นโพสต์ก่อน เท่านี้เพื่อน ๆ ก็จะไม่พลาดเรื่องราวของกินที่ชวนฟินจนน้ำลายไหล และ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ทั้งในเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงแล้ว
การเดินทาง
- ใครอยากไปร้าน The Duke’s สาขาริมน้ำปิง เชียงใหม่ ก็ไม่ยากเลยครับ จากตัวเมืองเมื่อถึงสี่แยกไฟแดงตรงสะพานนวรัฐ ให้เลี้ยวขวาเลยโรงเรียนเชียงใหม่คริสเตียนไปประมาณ 200 ม. ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ
- เวลาเปิด-ปิด :: เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 11:00 - 22:30 น.
- เบอร์ติดต่อ :: 053-249-231