“The Elephant Butcher & Eatery” สเต๊กเนื้อวากิวราคาไม่ถึงพัน!

#วงในบอกมา

• "สเต๊กเนื้อ Australian Wagyu" เกรดพรีเมียมชิ้นหนา มีให้เลือกหลายส่วน ราคาเริ่มต้นไม่ถึง 1,000 บาท!
  
• ทางร้านมีเมนูที่ใช้วัตถุดิบพรีเมียมแต่ราคาเข้าถึงได้ เช่นเมนู “Canadian Lobster" สด ๆ ราคาเริ่มต้น 990 บาท อีกทั้งเมนู "ซูชิฟัวกราส์” และ “Oyster King Size” ราคาไม่ถึง 100 บาท!
  
• ทางร้านมีอาหารหลากหลายชาติ ทั้ง ญี่ปุ่น, ไทยฟิวชั่น และอิตาเลียน
  

วันนี้หัวใจมันร้อนรุ่มดั่งไฟสุม อยากกินของเด็ดวัตถุดิบเลิศ เลยชวนเพื่อน ๆ สายกินมาหาร้านเด็ด ๆ เพื่อดับไฟกระหายให้จงได้ แต่ปัญหาก็เกิดขึ้น! ไอ้เรามันสายเนื้อตัวยงอยากกินสเต๊กเนื้อพรีเมียมดี ๆ แต่คนอื่นนี่สิ เป็นสายซาชิมิบ้าง เป็นสาวกซีฟู้ดบ้าง จะทำอย่างไรให้ลงตัว!? ก็ไปเจอร้านหนึ่งน่าสนใจ เพราะเขามีทั้งสเต๊กเนื้อ Australian Wagyu ราคาดี เริ่มต้นไม่ถึงพัน! แถมมีอาหารญี่ปุ่น อาหารอิตาเลียน อาหารไทย ที่บอกเลยว่าราคาน่ารักน่าคบหาดูใจ ว่าแล้วก็รีบไปร้าน “The Elephant Butcher & Eatery” กันเลย~

ร้าน “The Elephant Butcher & Eatery” ตั้งอยู่ที่ชั้น 1-2 ศูนย์การค้า Market Place เป็นร้านอาหารถนนนางลิ้นจี่ ที่ทั้งบรรยากาศดี มีความหรูหรา โมเดิร์น เน้นโทนสีน้ำตาลจากไม้และโซฟาเครื่องหนังชั้นดี มีโซนระเบียงด้านนอกแบบเปิดโล่ง โดยทางร้านมีอาหารหลากเชื้อชาติเพื่อคอยต้อนรับนักกินทั้งหลาย โดยจะเน้นหนักไปที่ “เนื้อวัว” เกรดพรีเมียม ซึ่งทางร้านจะมีเนื้อ 3 ระดับ คือ Black Angus, Australian Wagyu ยอดนิยม และ Japanese Wagyu A4 สุดพรีเมียม ทั้งหลากหลายและมีคุณภาพ เอ้า! สั่งแบบจัดหนัก ให้เหมือนไปกินรอบโลกเลยจ้า~

ขอเริ่มด้วยการเอาใจสายเนื้ออย่างเราด้วยเมนูเนื้อยอดนิยมอย่าง “Australian Wagyu” ที่มีมาให้เลือกกันถึง 4 ส่วนจุก ๆ ทั้ง “Striploin” “Rib Eye” “Tenderlion” และพี่ใหญ่อย่าง “Tomahawk” โดยราคาหลังลด 50% จะเริ่มต้นที่ 300 บาท ต่อ 100 กรัมเท่านั้น รวม ๆ แล้วจานหนึ่งก็เฉลี่ยที่ 300 กรัม แถมทุกจานจะเสิร์ฟซอส 2 สไตล์ คือ ซอสเกรวี่สุดกลมกล่อม และซอสแจ่วเปรี้ยวหวาน เผ็ดเล็กน้อย ว่าแล้วก็ไปกินทีละเมนูเลย!

ขอเริ่มด้วยส่วน “Striploin” (600 บาท/100 กรัม ลด 50% เหลือ 300 บาท/100 กรัม) ชิ้นใหญ่กำลังดี เนื้อนุ่ม สุกพอดี มีมันแทรกอยู่ในเนื้อตลอด และหอมกลิ่นพริกไทยดำสุด ๆ จิ้มซอสเกรวีเพิ่มความหอมกลมกล่อมได้อย่างดี และเมนูยอดนิยมอย่าง “Rib Eye” (700 บาท/100 กรัม ลด 50% เหลือ 350 บาท/100 กรัม) ชิ้นใหญ่สะใจ เนื้อมีความหนุบหนับ ไม่เหนียวแต่เคี้ยวเพลิน เคี้ยวเนื้อพร้อมมันที่แทรกมาก็ฟินสุด จิ้มซอสแจ่วเพิ่มความเผ็ดเล็กน้อย ถือว่าคุ้มแล้วที่เกิดมาเป็นสาวกเนื้อ!

ยังไม่จบกับเมนูเนื้อ! ต่อด้วย “Tenderloin” (800 บาท/100 กรัม ลด 50% เหลือ 400 บาท/100 กรัม) เสิร์ฟมาเป็นชิ้นกลม ๆ กินคนเดียวกำลังดี มันแทรกอยู่ไม่มากเพราะเน้นเนื้อเต็ม ๆ เคี้ยวสนุก และหอมกลิ่นพริกไทยดำเช่นเคย แต่จุดพีคมันต่อจากนี้ต่างหาก! กับเมนู “Tomahawk”(700 บาท/100 กรัม ลด 50% เหลือ 350 บาท/100 กรัม) พระเอกของงานที่ขอยืนยันว่ามันยักษ์จริง ๆ น่าจะกินกันได้ทั้งหมู่บ้าน หั่นออกมาคือหอมแรง! เนื้อนุ่มสุด ๆ ยิ่งกินส่วนที่ติดนี่อยากจนลงไปกราบจริง ๆ ถ้าใครมาเป็นแก๊งแนะนำให้สั่งเดี๋ยวนี้!

มาต่อกันด้วยซีฟู้ดสำหรับสายทะเลลึกกันดีกว่า อย่างเมนู “Fresh Lobster Thermidor” (990 บาท/600 กรัม และ 1,990 บาท/1 กิโลกรัม) เสิร์ฟมาทั้งตัว เนื้อล็อบสเตอร์หั่นมาพอดีคำ นำไปผัดกับเนยหอม ๆ ต่อด้วยชีสอบยืด ๆ ขอบอกว่ามันดีมาก โดยเฉพาะส่วนที่เป็นมันกุ้งใหญ่ ๆ เคลือบด้วยชีสยืด ๆ คือสุดจัด! กินพร้อมซอสเบอร์บล็อง หอมมัน และ น้ำจิ้มซีฟู้ดที่จัดจ้าน ซึ่งตัวที่เรากินจะเป็นไซส์​ 600 กรัม ที่บอกเลยว่าคุ้มค่ากับราคามาก ๆ แถมสดสุด ๆ อีกด้วย

ต่อด้วยอีกเมนูราคาน่ารักแต่วัตถุดิบสุดเลอค่า อย่างเมนู “Fin De Claire” (99 บาท/1 ตัว) เป็นหอยนางรมสดขนาด King Size เบอร์ 2 นำเข้าจากฝรั่งเศส ตัวใหญ่ สด หนุบหนับ เสิร์ฟพร้อมซอส Mignonette ที่เป็นหอมแดงซอยหมักใน Red Wine Vinegar เปรี้ยวนำ และได้กลิ่นหอมแดงชัดเจน ราคาน่ารักสุด ๆ กินตัวเดียวก็จ่ายเพียง 99 บาท คุ้มค่ามากกก~

มาถึงคิวสำหรับสายญี่ปุ่น โก ทู เจแปน กับเมนู “Sashimi Set” (890 บาท) กับความสดที่เสิร์ฟมาอย่างคับคั่งทั้ง ท้องปลาแซลมอนสด ๆ ,โอโทโร, กุ้งหวาน, หอยเชลล์, ปลาฮามาจิ และไข่ปลาแซลมอน บอกเลยว่าวัตถุดิบแต่ละอย่างทั้งมีคุณภาพและสดจริง ๆ

และขอแนะนำเมนูซูชิพรีเมียมกับราคาที่จับต้องได้ง่ายสุด ๆ กับเมนู “Foie Gras Sushi” (95 บาท/1 คำ) ตัวชิ้นฟัวกราส์ก็ให้มาใหญ่พอควรเลย เป็นฟัวกราส์เบิร์นไฟที่ทำให้ผิวด้านนอกมีความกรอบเกรียม แต่ด้านในทั้งมัน ทั้งหอม และเมนู “Jumbo Wagyu Foie Gras Sushi” (180 บาท/1 คำ) เป็นซูชิหน้าเนื้อวากิวแล่บางชิ้นใหญ่ แถมมีมันแทรกอยู่อย่างสวยงาม ท็อปด้วยฟัวกราส์ เบิร์นไฟมาทำให้สุกกำลังดี กินเข้าไปคือหอมทั้งเนื้อและฟัวกราส์ แถมได้ความหวานจากซอสที่ราดมาอีกด้วย

แต่ถ้าใครยังไม่สาแก่ใจ ทางร้าน “The Elephant Butcher & Eatery” ก็ยังมีเมนูอีกมากให้มาลิ้มลอง อย่างอาหารอิตาเลียนก็จะมี “พิซซ่า” ถาดยักษ์ และ “สปาเกตตี” หรือจะเป็นอาหารไทยฟิวชั่นอย่าง “ข้าวกะเพราเนื้อวากิว” อาหารจานเดียวสำหรับมื้อกลางวันก็มี! แถมในวันหยุดทางร้านยังเปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้า เพื่อเสิร์ฟ “Breakfast” และกาแฟอีกต่างหาก! บอกเลยว่าร้านนี้ทั้งหลากหลาย แถมราคายังจับต้องได้ง่าย ๆ ทำให้เรากินวัตถุดิบดี ๆ แบบนี้ได้บ่อยมากขึ้นอีกด้วย ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารดี ๆ หรือร้านสเต๊กเนื้อถนนนางลิ้นจี่ก็ลองเข้ามาที่ร้าน “The Elephant Butcher & Eatery” เลยจ้า~

การเดินทาง

ร้าน “The Elephant Butcher & Eatery” ตั้งอยู่ที่ชั้น 1-2 ศูนย์การค้า Market Place นางลิ้นจี่ มีที่จอดรถรองรับครับ