- หน้าแรก
/
- รูป ตึกราชินี

5.0

บรรยากาศ
สถานตากอากาศแห่งแรกในประเทศไทยสมัยรัชกาลที่ 5ตึกราชินี หรือ ตึกแดง ตั้งอยู่ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ตั้งอยู่ริมทะเล บริเวณโค้งถนนเลียบชายทะเลอ่างศิลา ทางเข้าตลาดเก่าอ่างศิลาเลยครับ
ท่านที่จะไปเยี่ยมชมรบกวนจอดรถไว้ริมถนนทางเข้าตลาดเก่าอ่างศิลานะครับ เพราะภายในบริเวณ ตึกราชินี หรือ ตึกแดง ไม่มีที่จอดรถครับ
อ่างศิลา เป็นหมู่บ้านประมงริมฝั่งทะเล เดิมชื่อ อ่างหิน เนื่องจากมีแอ่งหินแกรนิตผสมหินทรายขนาดใหญ่ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้าน เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสชลบุรีและได้ประทับแรมที่ อ่างศิลา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชกระแสรับสั่งว่า
“ บริเวณอ่างศิลานี้มีแผ่นดินสูงเป็นเนิน มีศิลาก้อนใหญ่ ๆ เป็นศิลาดาด และเป็นสระยาวรีอยู่ 2 แห่ง เห็นเป็นประโยชน์ที่ชาวบ้านสามารถรองรับน้ำฝนไว้ใช้กันได้”
จริงๆแล้ว ตึกราชินี หรือ ตึกแดง มี ตึกขาว หรือ ตึกมหาราช สร้างคู่กันมาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 4 โดย สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์สมุหกลาโหม ได้สร้าง ตึกหลังใหญ่ขึ้นหลังหนึ่งเพื่อใช้เป็นที่พักฟื้นผู้ป่วย เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (เจ้าคุณกรมท่า) จึงได้ก่อสร้างตึกอีกหลังหนึ่ง แต่มีขนาดเล็กกว่าของเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ ต่อมาได้ชำรุดทรุดโทรมลง สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีในระหว่างที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อซ่อมแซมอาคาร เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จนิวัติพระนครจากการเสด็จพระพาสยุโรปแล้ว จึงพระราชทานนามให้อาคารทั้ง 2 หลัง โดยโปรดเกล้าให้เรียกอาคารหลังใหญ่ว่า ตึกมหาราช และอาคารหลังเล็กเรียกว่า ตึกราชินี
ต่อมาภายหลังคนทั่วไปเรียกกันว่า ตึกมหาราช – ตึกขาว ตึกราชินี - ตึกแดง คงเป็นเพราะเรียกตามสีที่ใช้ทาตึกทั้งสองหลัง ตึกมหาราช ทาสีขาวทั้งตึก จึงเรียกว่า ตึกขาว ตึกราชินี ทาสีแดงทั้งตึก จึงเรียกว่า ตึกแดง
ปัจจุบันทั้ง ตึกมหาราช – ตึกขาว และ ตึกราชินี - ตึกแดง จัดตั้งเป็น พิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราช ตึกราชินี - ตึกแดง ได้ทำการบูรณะซ่อมแซมแล้ว ใช้เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ ส่วน ตึกมหาราช – ตึกขาว อยู่ในขั้นตอนการบูรณะซ่อมแซม
ตึกราชินี หรือ ตึกแดง เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น ทาสีแดงทั้งหลัง ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบโคโลเนียลแบบที่นิยมในสมัยรัชกาลที่ 4 หลังคาทรงปั้นหยา ยกจั่ว มีส่วนที่เป็นระเบียงติดกับพื้นดินรองรับส่วนหน้าของอาคารที่สัมพันธ์กับพื้นที่ดินที่เอียงลาด มีมุขยื่นออกมาทั้งชั้นล่างและชั้นบน บริเวณมุขชั้นล่างเป็นผนังทึบ มีประตูรูปซุ้มโค้งส่วนบนเป็นกระจกช่องแสง ส่วนล่างเป็นบานลูกฟักทำจากไม้ ลักษณะหน้าต่างเป็นบานคู่ส่วนบนเป็นกระจกช่องแสง ลูกกรงและระเบียงเป็นปูนปั้นลูกมะหวด ส่วนของเฉลียงระเบียงลูกกรงนั้นใช้เป็นทางสัญจรและที่รับลมซึ่งมีลักษณะเหมือนบ้านกงสุลอังกฤษ และโปรตุเกสในสมัยนั้น
ตึกราชินี หรือ ตึกแดง นับเป็นที่พักตากอากาศแห่งแรกไทย เนื่องจากพระราชชายาเจ้าดารารัศมี พระสนมเอกในรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จมาพักรักษาพระองค์ที่ ตึกราชินี หรือ ตึกแดง เมื่อปีพุทธศักราช 2449 เพื่อรักษาโรคพระปัปผาสะพิการในระยะเริ่มแรก (โรคปอด) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้แพทย์หลวงรักษาโดยด่วนและได้เสด็จไปประทับที่ ตึกราชินี ที่ ต.อ่างศิลา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์เพื่อรักษาพระองค์ ระหว่างที่เจ้าดารารัศมีประทับรักษาพระองค์ที่อ่างศิลา ได้ทรงมีดำริว่า ที่ตำบลอ่างศิลาเป็นที่กันดารน้ำจืด จึงได้กราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตสร้างบ่อน้ำจืดพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงพระราชทานชื่อบ่อว่า “บ่อนพรัฐ” และมีพระราชดำรัสให้กรมสมมตอมรพันธ์ทำจารึกไว้ที่บ่อ พร้อมกับจัดงานพิธีฉลองบ่อด้วย จึงนับได้ว่า ตึกราชินี หรือ ตึกแดง เป็นที่พักตากอากาศแห่งแรกของไทย
ด้านบน ตึกราชินี หรือ ตึกแดง มีการแบ่งเป็นห้องต่าง ๆ โดยรักษาบรรยากาศเดิมๆเอาไว้ มีการจัดแสดงภาพและนิทรรศการต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องราวของอ่างศิลา บางส่วนของ ตึกราชินี หรือ ตึกแดง สามารถเดินชมได้ภายนอกเท่านั้น
เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จฯ ประพาสเมืองชลบุรี ได้ประทับพักค้างแรมที่ค่ายหลวงอ่างศิลา ได้มีพระราชหัตเลขา ลงวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2419 พรรณนา อ่างศิลา ไว้ตอนหนึ่งว่า ...
“ ... เรียกชื่อว่า อ่างศิลา นั้น เพราะมีแผ่นดินสูงเป็นลูกเนิน มีศิลาก้อนใหญ่ๆ เป็นศิลาดาด และเป็นสระยาวรีอยู่ 2 แห่ง ๆ หนึ่ง ลึก 7 ศอก กว้าง 7 ศอก ยาว 10 วา แห่งหนึ่งลึก 6 ศอก กว้าง 1 วา 2 ศอก ยาว 7 วา เป็นที่ขังน้ำฝน น้ำฝนไม่รั่วไม่ซึมไปได้”
เจ้าพระยาทิพากรวงษ์มหาโยธาธิบดีเห็นว่าจะเป็นประโยชน์แก่คนทั้งปวง จึงให้หลวงศักดิ์ฤทธิ์ชลเขตร ปลัดเมืองชลบุรีเป็นนายงาน ก่อเสริมปากบ่อกั้นน้ำมิให้น้ำที่สกปรกไหลกลับลงไปในบ่อได้ ราษฎร ชาวบ้าน หรือชาวเรือ ผ่านไปมาได้อาศัยน้ำฝนในอ่างศิลานั้นบริโภคดื่มกิน
ใกล้ๆกับบ่อน้ำ มีกินก้อนหนึ่ง มีรอยคล้ายรอยเท้าคนเหยียบเอาไว้ ชาวบ้านจึงเอาไปผูกกับนิทานพื้นบ้านว่าเป็นรอยเท้าของพรานบุญ บางคนก็ว่าเป็น รอยพระพุทธบาท
คนเฒ่าคนแก่ที่เป็นชาวอ่างศิลาโดยกำเนิดเล่าต่อๆกันมาว่า เมื่อครั้งที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จฯ ประพาสเมืองชลบุรี ใน พ.ศ. 2419 ได้ประทับพักผ่อนพระอิริยาบทบนก้อนหินก้อนนี้ครับ
เปิดวันจันทร์ - วันอาทิตย์ 09.00 - 16.30
0 Like0 Comment
