- หน้าแรก
/
- รูป ตลาดน้ำท่าคา


บรรยากาศ
ล่องเรือชมสวนตาล ชิมอาหารปรุงจากเรือ สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านริมคลองแบบดั้งเดิมตลาดน้ำท่าคา – เป็นตลาดน้ำเล็กๆที่ยังคงวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านในชุมชนไว้ได้เป็นอย่างดี แม้ปัจจุบันนี้จะได้รับความนิยมมากขึ้น แต่ก็ยังนับเป็นที่เที่ยวที่ปรุงแต่งน้อยกว่าตลาดน้ำที่อื่นๆ เหมาะกับคนที่อยากมาสัมผัสสภาพชีวิตริมคลองแบบไทยๆอย่างแท้จริงค่ะ
****-เวลาทำการ-****
ตลาดนี้แปลกอยู่อย่างคือเปิดเฉพาะในวันขึ้นหรือแรม 2 ค่ำ 7 ค่ำ 12 ค่ำ (ทุก ๆ 5 วัน) ตามขนบดั้งเดิมของที่นี่ เดาว่าสาเหตุน่าจะเกี่ยวกับเรื่องของน้ำขึ้น-น้ำลงในคลองนั่นเอง ส่วนปัจจุบันได้เพิ่มวันเสาร์-อาทิตย์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย โดยเปิดตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00–12.00 น. ตลาดวายค่อนข้างไว ไปยิ่งเช้ายิ่งดีนะคะ
สำหรับคนที่อยากสัมผัสวิถีค้าขายแบบชาวบ้านที่แท้ทรูจริงๆ ให้เลือกไปวันธรรมดาที่ตรงกับวันขึ้นหรือแรม 2 ค่ำ 7 ค่ำ 12 ค่ำ ข้อดีคือได้เห็นการค้าขายดำรงชีวิตตามธรรมชาติของคนที่นี่ อาหารปรุงขายกันบนเรือ เก็บพืชผักสวนครัวตามแต่จะมีในสวนในบ้านมาใส่เรือพายขาย ของสดพวกเนื้อหมูเนื้อไก่ก็มี ชั่งขายกันอยู่บนเรือนั่นล่ะ ส่วนบนฝั่งนั้นมีโต๊ะ เก้าอี้ให้นั่งทานอาหารได้ แต่ข้อเสียคือร้านรวงต่างๆจะปิดแทบทั้งหมด เหลือไว้แต่ร้านโชห่วยพอให้แวะซื้อน้ำซื้อขนมได้ ไม่ต้องมองหาเสื้อผ้า ของที่ระลึกอะไรกันเลย ไปเพื่อกิน ถ่ายรูป สัมผัสความสงบร่มรื่นเท่านั้น ซึ่งสำหรับบางคนอาจมองว่าเงียบเหงาไปน่ะค่ะ
ถ้าคนที่อยากไปชมบรรยากาศตลาดแบบมีความครึกครื้นขึ้นอีกนิดก็ควรไปช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ที่จะมีร้านมาเปิดตามริมฝั่งยาวไปถึงบริเวณที่จอดรถด้วย ส่วนถ้าอยากมาเห็นตลาดในยามที่จัดเต็มสุดๆไปเลยก็ให้เลือกมาวันเสาร์-อาทิตย์ที่บังเอิญตรงกับวันขึ้นหรือแรม 2 ค่ำ 7 ค่ำ 12 ค่ำ ด้วย รับรองมากันทุกเจ้า ร้านค้าเปิดครบทุกร้านแน่นอนค่ะ
****-อาหารการกิน-****
สำหรับเราเลือกไปวันธรรมดา บรรยากาศจะดูเงียบๆหน่อย มีอาหารทำในเรือให้เลือกอยู่ 3-4 เจ้า ราคาเบาๆที่ 10-20 บาท (ถูกเว่อร์) เราลองขนมเบื้องญวน ข้าวเกรียบปากหม้อ และกระเพาะปลา โดยรวมก็รสชาติกลางๆแบบชาวบ้านทำกันเอง แต่ได้อารมณ์ตลาดน้ำดีจริงๆล่ะ
****-ล่องเรือ-****
ที่ท่าเรือใกล้ๆร้านนิทานกาแฟจะมีเรือรับจ้างมาผูกอยู่ เป็นเรือของชาวบ้านที่เอามาพายรับนักท่องเที่ยว โดยเจ้าของเรือจะพายเอง เป็นไกด์ให้ด้วยเสร็จสรรพ เรือจะแล่นให้ชมบ้านเรือนเรือกสวนสองข้างทางไปเรื่อยๆ แล้วไปหยุดแวะให้ชมสวนตาล ดูชาวบ้านตัดจาวตาล กวนน้ำตาลโตนดสดๆใหม่ๆ ทราบมาว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพหลักของคนที่นี่ ถึงขนาดได้ชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตน้ำตาลปี๊บที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียว แน่นอนว่าต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับมาด้วยไม่มีพลาด น้ำตาลปี๊บสดๆจากสวนนี่ทั้งหวานทั้งหอมอย่าบอกใครเชียว
โดยรวมก็เป็นตลาดเล็กๆที่มีเสน่ห์น่าสัมผัส โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบเที่ยวแบบ Off the Beaten Path และไม่ชอบที่ๆผู้คนพลุกพล่านมากนัก สำหรับเราที่เลือกไปวันธรรมดานั้นดูว่ามันจะ Authentic ซะจนมีอะไรๆให้ดูน้อยไปหน่อย (แม้จะไม่ชอบอะไรที่ touristy มาก แต่เรียบง่ายไปก็แอบดูเหงาๆนะ) ถ้ามีโอกาสไปอีกว่าจะลองไปเสาร์-อาทิตย์ดูบ้าง น่าจะสนุกกว่านี้ค่ะ
48 Likes0 Comment



