หน้าสวย เด้งง่าย ๆ ด้วยไขมันตัวเอง
  1. หน้าสวย เด้งง่าย ๆ ด้วยไขมันตัวเอง

หน้าสวย เด้งง่าย ๆ ด้วยไขมันตัวเอง

พออายุเริ่มมากขึ้น สาวหลายคนคงคิดถึงหน้าใส ๆ วัยมัธยมของตัวเองอยู่ล่ะสิ แต่เมื่อเราไม่สามารถจะย้อนเวลากลับไปได้ ก็มาย้อนวัยให้หน้าเราด้วยการฉีดไขมันตัวเองกัน!
writerProfile
17 พ.ย. 2017 · โดย
Ad ·
สนับสนุนโดย PMED Clinic จตุจักร
(รายละเอียดเพิ่มเติม)

การจะย้อนวัยให้หน้านั้นมีหลากหลายวิธี
แต่ถ้าอยากให้เห็นผลเร็ว การฉีดสารเติมเต็ม หรือ ฟิลเลอร์
ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยลดเลือนริ้วรอย และทำให้หน้าของเราดูเด็กลง

แต่การฉีดสารต่างๆ เข้าไปในร่างกายนั้น

แม้ว่าจะมีผลวิจัยออกมาแล้วว่าสารนั้นปลอดภัย
แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรกันล่ะว่าสารนั้นปลอดภัย 100%
ดังนั้นจึงมีเทคนิคใหม่ที่ใช้ไขมันส่วนเกินของตัวเอง
หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Fat Grafting เกิดขึ้น ปลอดภัยกว่าเป็นไหนๆ

ฉีดไขมันตัวเอง

เรามาลองศึกษาข้อมูลการทำ Fat Grafting จากคุณหมอของ Pmed Clinic กันดูค่ะ...

Fat Grafting เป็นวิธีที่ศัลยแพทย์จะทำการดูดไขมันในส่วนของร่างกายที่มีไขมันมากและต้องการกำจัดออก เช่นจากบริเวณหน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก แล้วจึงนำมาฉีดกลับเข้าไปใหม่ยังส่วนบริเวณที่ต้องการเติมเต็ม เช่นในส่วนต่างๆ บนใบหน้า เติมเต็มหน้าอกให้อวบอิ่ม เป็นต้น

ฉีดไขมันตัวเอง

ข้อดีก็คือ ไขมันที่ได้เป็นของตัวเราเอง จึงไม่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย ในการทำแต่ละครั้งสามารถฉีดไขมันได้ในปริมาณมากๆ ผลลัพธ์ที่ได้เป็นธรรมชาติ

ข้อเสียก็มีอยู่บ้างนะ คือในอดีตคือไขมันที่ฉีดเข้าไปจะมีส่วนที่ตายเป็นจำนวนมาก ทำให้การกำหนดปริมาณและขนาดทำได้ยาก ผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่ดีเท่าที่ควร

ฉีดไขมันตัวเอง

แต่ด้วยวิวัฒนาการทางด้านศัลยกรรมความงามที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ทำให้ Fat Grafting ได้ถูกพัฒนาเทคนิคและวิธีการ จนสามารถทำลายข้อจำกัดและข้อเสียของวิธีการแบบเดิมๆ ลงไปได้แทบจะทั้งหมด

นั่นก็คือกระบวนการในการเตรียมเซลล์ไขมันที่ดูดออกมาให้มีสมรรถภาพมากขึ้น และมีความพร้อมที่จะมีชีวิตอยู่ได้ยืนยาวขึ้น ทำให้หลังฉีดไปแล้วไขมันมีการตายน้อยลง แพทย์จึงสามารถประเมินผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างชัดเจน

หนึ่งในวิธีของเทคนิคดังกล่าวคือการนำไขมันมาผ่านกระบวนการปั่นแยกค่ะ เพื่อแยกส่วนผสมของไขมันที่ดูดออกมาออกจากกัน โดยผ่านกระบวนการทางเครื่องมือ (Lipo-aspiration process) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ทำให้ได้ไขมันที่มีชีวิตและคุณภาพสูง

จากนั้นแพทย์อาจจะแบ่งไขมันส่วนหนึ่งไปแยกสกัดเอาเซลล์เปลือกไขมัน ซึ่งมีสเต็มเซลล์ไขมันปนอยู่ แล้วนำไปผสมกับเนื้อเยื่อไขมันที่เตรียมไว้ แล้วจึงนำไปฉีดเติมยังบริเวณที่ต้องการ เป็นการทำให้ไขมันรอดชีวิตมากขึ้นหลังจากฉีด

ฉีดไขมันตัวเอง

โดยเรียกเทคนิคใหม่นี้ว่า CAL (cell-assisted lipotransfer) เทคนิคนี้จะใช้เซลล์เปลือกไขมันในจำนวนน้อย เพื่อไปช่วยส่งเสริมการมีชีวิตรอดของเนื้อเยื่อไขมันที่ปลูกถ่าย ด้วยเทคนิคใหม่นี้ จากการเตรียมความพร้อมของไขมันที่ดีขึ้น รวมถึงองค์ประกอบทางเทคนิคด้านอื่นๆ เช่น การใช้หัวดูดที่ทันสมัยมากขึ้น ใช้ความดันในการดูดน้อยลง หลังดูดใช้การปั่นแยกเซลล์ไขมัน แทนการบีบและกรองแบบเก่า ทำให้โอกาสที่ไขมันจะถูกกระทบกระเทือนน้อยลง รวมถึงเทคนิคการฉีดที่จะทำเป็นจุด และกราฟเล็กๆ ไม่ใส่ไขมันเข้าไปเป็นกระจุกใหญ่ สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ไขมันคงอยู่ได้มาก ทำให้ผลลัพธ์ดีขึ้น

Fat Grafting สามารถนำมาแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?

เติมเต็มบริเวณส่วนต่างๆ ของร่างกายให้อวบอิ่ม เช่นบริเวณขมับ ร่องแก้ม ใต้ตา รอบดวงตา มุมคาง หน้าผาก เต้านม ฯลฯฟื้นฟูสภาพผิวพรรณที่เสื่อมลงเติมเต็มบริเวณหลังมือเติมเต็มร่องรอยความไม่เรียบหลังการดูดไขมัน ฯลฯ

ข้อดีไม่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกายไขมันที่ฉีดเข้าไปและเหลืออยู่หลังจากผ่านไป 6 เดือนจะอยู่ได้ถาวรผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติสามารถเติมเต็มไขมันได้ในปริมาณมากในการทำแต่ละครั้ง (อาจทำสองถึงสามครั้ง)ไขมันเป็นฟิลเลอร์ที่มีชีวิต สามารถฟื้นฟูสภาพความมีชีวิตชีวาของผิวหน้าได้ เพราะไขมันมีสเต็มเซลล์ไขมันปนอยู่

ฉีดไขมันตัวเอง

ข้อเสียเป็นการผ่าตัดชนิดหนึ่งมีอาการบอบช้ำมากกว่าการทำฟิลเลอร์ทั่วไป ต้องใช้เวลาพักฟื้นไม่สามารถทำในคนที่ผอมมากๆแม้ว่าผลการเติมเต็มไขมันจะดีขึ้นกว่าเดิม แต่ยังมีการสลายตัวบางส่วน ปริมาณการสลายตัวของไขมันนั้นไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับธรรมชาติแต่ละคน และในแต่ละตำแหน่งของร่างกายที่ตอบสนองแตกต่างกัน

ซึ่งก่อนจะเข้ารับการรักษา เราต้องมีการเตรียมตัวดังต่อไปนี้ค่ะ

- ต้องมีเวลาพอสำหรับการพักฟื้นในช่วง 1- 3 สัปดาห์หลังทำ- งดวิตามิน อาหารเสริม ยาบำรุง และยาต้านเกร็ดเลือดทุกชนิด ไม่ต่ำกว่า 1สัปดาห์

สำหรับกระบวนการขั้นตอนในการผ่าตัดมีดังนี้ค่ะ

  1. เลือกตำแหน่งที่ต้องการดูดไขมัน เช่น หากต้องการเสริมหน้าอก หรือเติมเต็มบริเวณใบหน้า ศัลยแพทย์มักจะเลือดดูดไขมันบริเวณหน้าท้อง ต้นขาด้านใน หรือด้านนอก ซึ่งเป็นบริเวณที่สามารถนำไขมันออกมาได้สะดวกที่สุด
  1. ฉีดยาชาไปยังบริเวณที่จะทำการดูดไขมัน
  1. ใช้เข็มดูดไขมันออกมา ซึ่งมีข้อดีกว่าการใช้เครื่องดูด เพราะจะสามารถควบคุมความดัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาไขมันที่สลายและตายจำนวนมาก
  1. หลังจากได้ไขมันครบตามที่ต้องการแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมไขมัน ด้วยกระบวนการ lipo- aspiration process โดยเครื่องปั่นทางการแพทย์ เพื่อแยกเนื้อเยื่อไขมันที่มีชีวิต และแยกชั้นไขมัน

"การแยกชั้นเพื่อเลือกไขมันที่มีโอกาสมีชีวิตรอดมากที่สุดมาใช้
ตัดปริมาณสารที่ตายแล้วออก โดยสิ่งที่ตายแล้วจะลอยอยู่ด้านบน
ซึ่งมักจะเป็นพวกน้ำมัน เซลล์ไขมันต่างๆ ที่แตกตัว ก็จะถูกคัดทิ้งไป"

  1. นำไขมันที่ได้ไปสกัดเพื่อให้ได้เซลล์ไขมันที่ต้องการ ด้วยวิธีการที่เรียกว่า Cal (Cell-Assisted Lipotransfer) ซึ่งวิธีนี้ก็จะช่วยทำให้ไขมันที่จะมีชีวิตอยู่มีปริมาตรแน่นอน สามารถประเมินได้อย่างชัดเจนว่าต้องใส่ไขมันปริมาณเท่าใด
  1. นำไขมันที่ได้มาผสมกับเซลล์ แล้วนำไปฉีดในบริเวณที่ต้องการด้วยเทคนิคที่เรียกว่า Structural Fat Graft เป็นการปลูกถ่ายไขมันเพื่อฟื้นคืนรูปทรงตามธรรมชาติ แบบสามมิติของแต่ละส่วนย่อยของร่างกาย
  1. เข็มที่ใช้ในการฉีดแพทย์จะใช้เข็มปลายทู่ เพื่อลดการกระทบกระเทือนแก่อวัยวะข้างเคียงขณะฉีด เพราะสิ่งที่ต้องระมัดระวังคือเส้นประสาท เส้นเลือด กล้ามเนื้อ และต่อมน้ำลายข้างแก้ม หากได้รับการกระทบเทือนอาจเกิดปัญหาตามมาได้
ฉีดไขมันตัวเอง

"ในการฉีดแพทย์จะแทงเข็มเข้าไปยังตำแหน่งที่ต้องการ
ลักษณะการแทงเข็มจะขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์แต่ละท่าน
ซึ่งการทำให้เรียบเนียนและการทำให้เซลล์ไขมันที่ใส่เข้าไปสูญเสียน้อยที่สุด
อาจต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการทำค่อนข้างมาก
เนื่องจากต้องเข้าใจและรู้จักเซลล์ไขมันเป็นอย่างดี
เพราะเซลล์ไขมันค่อนข้างบอบบางและตายได้ง่ายมาก"

หลังจากเข้ารับการรักษา เราควรดูแลตัวเองดังต่อไปนี้ค่ะ

  1. ประคบเย็น 48-72 ชั่วโมงเพื่อลดอาการบวมและอาการเขียวช้ำ
  1. ช่วงแรกอาจจะยังคลำเจอไขมัน และไม่ค่อยเรียบเนียนนัก คนไข้ยังไม่ต้องกังวล แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและให้คำแนะนำ ซึ่งอาการเหล่านี้ก็จะดีขึ้น โดย 1- 3 สัปดาห์หลังทำ เพราะจะมีการบวม มีรอยเขียวช้ำ โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรก และจะเริ่มดีขึ้นในอาทิตย์ที่ 3-4 ซึ่งใบหน้าจะดูเข้ารูปมากขึ้น เห็นความอ่อนเยาว์ชัดเจนขึ้น

ทั้งนี้ก่อนการทำ Fat Grafting ควรจะศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน เลือกสถานพยาบาล และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถเชื่อถือได้ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดทั้งก่อนและหลังทำนะคะ

แผนที่

349 ถ.พหลโยธิน วิภาวดี-รังสิต
static-map

การติดต่อ

PMED Clinic จตุจักร
Phone number : 065-558-7055
Line : @pmed
Instagram : pmedclinic
SJ Infinite l Business Complex ชั้น 2 349 ถนน วิภาวดี รังสิต,จตุจักร