
ถ้าพูดถึงจมูกเรียวเล็ก ปลายเชิด ละมุน อาจไม่ใช่ความต้องการของทุกคน โดยเฉพาะกับผู้ชายหลายคน ที่อยากเสริมให้ดูคม ชัด สมส่วน แต่บางครั้ง ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ได้ตรงกับที่คิดไว้ วันนี้ Beauty Research จะพาไปดูว่า ‘การแก้จมูกผู้ชาย’ ต้องรู้อะไรบ้างก่อนตัดสินใจ? ตั้งแต่ปัญหาที่ต้องเจอ วิธีแก้ไข ไปจนถึงประสบการณ์จริง เพราะการแก้จมูกไม่ได้มีแค่เรื่องรูปหน้า แต่มันคือเรื่องของความมั่นใจและการใช้ชีวิต นี่คือ Beauty Research เราเชื่อว่าความรู้ คือบิวตี้ไอเท็มที่ขาดไม่ได้

หลายคนอาจคิดว่า การทำจมูก คือการเลือกทรงสวย ๆ แล้วรอให้หมอเสกให้จบเลย แต่จริง ๆ แล้ว การทำจมูกคือศิลปะและวิทยาศาสตร์ ที่ต้องบาลานซ์กันพอดี รวมถึงผู้ที่อยากแก้ก็ควรทำความเข้าใจการทำจมูกให้ดีก่อนตัดสินใจแก้ วันนี้เราพามาทำความเข้าใจการทำจมูกและแก้จมูกแบบคร่าว ๆ โดยพื้นฐาน แบ่งได้เป็น 2 แบบใหญ่ ๆ คือ
การเสริมแบบใช้ซิลิโคนล้วน เป็นวิธีที่รู้จักกันมานาน เพราะช่วยกำหนดทรงจมูกให้ตรง สวย เช่น สร้างสันเรียว หรือยกปลายจมูกได้แม่นยำ ใช้เวลาผ่าตัดไม่นาน แต่มีข้อควรระวังคือ เมื่อเวลาผ่านไป 5-10 ปี อาจเกิดอาการหดรั้ง เลื่อน หรือปลายบางลงจนทะลุ
- การเสริมแบบซิลิโคนร่วมกับการปรับทรงโดยใช้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันหรือเนื้อเยื่อเทียมหรือกระดูกอ่อนเช่น ซี่โครง หลังหู ทั้งจากของร่างกายเคสเองหรือบริจาค เป็นเทคนิคที่ปัจจุบันนิยมมาก เพราะใช้ซิลิโคนช่วยสร้างสันจมูกให้ตรงชัดในขณะที่ใช้ส่วนเสริมรองปลาย ช่วยทำให้ปลายดูนุ่มเนียนกว่าการเสริมด้วยซิลิโคนเพียงอย่างเดียวและลดความเสี่ยงจากปลายทะลุหรือซิลิโคนทะลุ
และแบ่งเทคนิคการเสริมจมูก แก้จมูกหลัก ๆ เป็น 3 เทคนิคคือ Open / Semi-Open และ Close


- เทคนิค Close การเสริมด้วยซิลิโคนเพียงอย่างเดียว แพทย์จะทำการเปิดแผลเล็ก ๆ อยู่ในรูจมูกข้างเดียวเท่านั้น จากนั้นก็นำซิลิโคนที่เหลาจนรับกับใบหน้าคนไข้ใส่เข้าไป ข้อดีคือ ไม่ทิ้งแผลภายนอก บวมน้อย และฟื้นตัวเร็ว เหมาะกับการทำจมูกครั้งแรกมากกว่า หรือใช้แก้ไขในบางกรณีที่มีปัญหาน้อย
- เทคนิค Semi-Open เป็นเทคนิคที่เปิดแผลเล็ก ๆ ภายในจมูกทั้ง 2 ข้าง และเปิดเพื่อให้หมอได้เห็นโครงสร้างบางส่วนพอสมควร คล้าย Open แต่ไม่ต้องตัดผิวด้านนอกใต้จมูก และสามารถปรับโครงสร้างจมูกได้มากกว่าแบบ Close อาจเสริมด้วยซิลิโคนร่วมกับการใส่เนื้อเยื่อเทียม เหมาะกับเคสแก้ที่ไม่ได้มีปัญหาซับซ้อนมาก และแพทย์มีประสบการณ์สูง
- เทคนิค Open เป็นเทคนิคที่จะตัดผิวหนังขนาดเล็กระหว่างรูจมูกแล้วพับเปิดผิวหนัง เพื่อเข้าถึงโครงกระดูกและกระดูกอ่อนใต้ผิว ทำให้เห็นโครงสร้างอย่างชัดเจน สามารถทำการปรับรูปได้แม่นยำ สามารถเสริมด้วยซิลิโคนร่วมกับการใส่กระดูกอ่อน เหมาะกับเคสที่มีปัญหาเยอะ ซับซ้อน เช่น โครงสร้างจมูกพัง พังผืดเยอะ
สาเหตุเบื้องต้นที่ต้องทำให้อยากแก้จมูก
- จมูกเป็นทรงที่ไม่ได้ตามที่ต้องการหรือไม่เข้ากับรูปหน้า เช่น ไม่เรียว ปลายจมูกไม่สวย ดูแข็งไป โด่งไป
- ความเสียหายที่เกิดจากการเสริมจมูกมาหลายปี เช่น ปลายบางใกล้ทะลุ จมูกเริ่มผิดทรง หดรั้ง เบี้ยว เอียง บวม หรือแม้แต่การติดเชื้อ
- ในบางรายอาจเป็นปัญหาทางสุขภาพหรือการหายใจ เช่น บางคนมีปัญหาจมูกอุดตัน หายใจไม่สะดวก ต้องแก้เพื่อให้จมูกกลับมาทำงานได้ปกติ

วันนี้คุณหมอณัฐ นพ.ณัฐวุฒิ กลั่นเรืองแสง จาก Goodwill Clinic ที่มากประสบการณ์กับเคสแก้จมูกมานับไม่ถ้วน มาช่วยแบ่งปันข้อมูลให้เข้าใจง่ายขึ้น อย่างปัญหาที่เจอบ่อยที่สุดมักเป็นเรื่องของทรงจมูก เพราะหลายครั้งที่คนไข้ไปเสริมกับคุณหมอที่ถนัดทรงผู้หญิง พอมาทำเคสผู้ชาย เลยทำให้ทรงจมูกออกมาดูหวาน ขัดกับโครงสร้างใบหน้าผู้ชาย
และเมื่อพูดถึงโครงสร้างใบหน้าผู้ชายมักเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ในขณะที่ผู้หญิงควรเป็นรูปหัวใจหรือรูปไข่ นอกจากนี้โครงสร้างรายละเอียดยังมีความแตกต่างกัน เช่น การมีกระดูกเบ้าตา (เนินคิ้ว) ที่นูนเห็นชัด จมูกที่มีความใหญ่ โหนกแก้มด้านข้างที่ชัด คางที่ยาวมีเนื้อและเป็นรูปตัดไม่แหลม สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้ชายดูหล่อดูเข้มแข็ง ส่วนในผู้หญิงจะเน้นที่หน้าผาก แก้มมีความโค้งนูน จมูกเล็กเรียว ปลายคางเล็ก ทำให้เวลาเสริมจมูกออกมาควรจะออกแบบให้รับกับโครงสร้างที่แตกต่างกัน
แต่สำหรับเคสที่แก้มาแล้วหลายครั้ง จะมีผลต่อโครงสร้างจมูกไหมนั้นขึ้นอยู่ว่าแก้แบบไหน ถ้าแก้แบบ Open ปรับโครงสร้างอาจทำให้โครงสร้างเปลี่ยน แต่ถ้าเอาแบบปกติ แบบที่เสริมด้วยซิลิโคน จะมี 2 ส่วนที่เปลี่ยน
1. โครงสร้างกระดูกเปลี่ยนจากการถูกตะไบ เยื่อหุ้มกระดูกอาจฉีกขาดหายไป โอกาสที่ซิลิโคนจะลอยก็สูงขึ้น กระดูกอ่อนปลายจมูกโดนตัดขาดอาจทำให้ปลายจมูกยุบบุ๋มหรือรูจมูกผิดรูป
2. เนื้อเยื่อที่คลุมซิลิโคนส่วนใหญ่จะบางลงและขาดความยืดหยุ่นเพราะมีพังผืดแทรกอยู่ในเนื้อเยื่อ

สัญญาณเตือนว่าถึงเวลาต้องแก้จมูกแล้ว ส่วนมากจะเป็นปัญหาผิวบาง บางทีปลายจมูกบางแดงจนจะทะลุก็มี อีกกลุ่มก็จะเป็นเรื่องของการติดเชื้อเรื้อรัง เช่น จมูกบวมอักเสบ แต่ต้องบอกเลยว่าก่อนจะแก้จมูก ควรเริ่มต้นจากการศึกษาข้อมูลพื้นฐานและเตรียมตัวให้ดี ที่ต้องเตรียมตัวให้ดีก่อนมาเจอหมอ เพราะจะทำให้แพทย์สามารถประเมินเคสตนเองได้อย่างแม่นยำ ไม่ตกหลุมพรางโฆษณาทำอะไรที่ไม่จำเป็น และลดความเสี่ยง เรียกคืนความมั่นใจก่อนลงมีดจริง
โดยสามารถพิจารณาตรวจดูรูปทรงจมูกปัจจุบันและปัญหาของตัวเองแบบละเอียด เช่น มีฮัมป์ เบี้ยว บวม ปลายบาง หรือหายใจลำบาก เตรียมรูปภาพของทรงจมูกที่ชอบ ชี้จุดที่อยากแก้ หรือฟีลลิ่งที่ต้องการให้หมอทราบ คิดเรื่องผลลัพธ์ให้สมจริง ถามตัวเองว่าต้องการแค่ไหน ความคม ความโด่ง ปลายจมูกเป็นแบบไหน ศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิก โรงพยาบาล และหมอที่มีประสบการณ์ หาข้อมูลรีวิวและผลงานของแพทย์ให้ละเอียด
และคุณหมอณัฐยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการแก้จมูก เพราะคนส่วนใหญ่มักอยากจะให้โด่งขึ้นยาวขึ้นกว่าเดิมที่เคยเสริมซิลิโคนอยู่ จนหลงลืมความพอดี และจมูกเดิมถูกวางซิลิโคนยืดจนผิวบางแล้ว และซิลิโคนยังมีข้อจำกัดอยู่ ถ้าใส่หนาเต็มที่แล้วอยากให้โด่งกว่าเดิมก็ต้องเปลี่ยนวิธีการหรือวัสดุในการเสริม / เรื่องเทคนิค ทำ Open มาไม่จำเป็นต้องแก้ด้วย Open เสมอไป


และถ้าพูดถึงหัวใจในการแก้จมูกของ Goodwill Clinic จะเน้นเรื่องการออกแบบทรงจมูกเพื่อให้คนไข้ได้จมูกที่ชอบที่สุด และเข้ากับรูปหน้า ตลอดจนคำนึงถึงบุคลิกและหน้าที่การทำงานของคนไข้ที่จมูกใหม่อาจส่งผลถึงด้วย โดยทางคลินิกจะมีตัวเลือกในการแก้ไขให้คนไข้พิจารณาควบคู่ไปกับแพทย์ เพราะหลายครั้งวิธีแก้จมูกที่ Advanced ซับซ้อน และราคาสูง อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดเสมอไป ดังนั้นการคุยเพื่อให้ตกผลึกในเรื่องผลลัพธ์กับความคาดหวังของคนไข้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทางคลินิกใส่ใจมากกว่า
และควรถามคุณหมอทุกประเด็นที่อยากรู้ โดยครอบคลุมถึงข้อดี ข้อเสียของแต่ละวิธี ค่าใช้จ่าย และหากเกิดปัญหาจะแก้ไขอย่างไร ที่สำคัญอาจจะต้องลองปรึกษาแพทย์สัก 2-3 คนดูก่อน แล้วค่อยตัดสินใจทำ)
เคสแก้จมูกที่คุณหมอณัฐเจอค่อนข้างบ่อย
1. ฐานจมูกกว้าง แนะนำให้ทำการตอกฐานกระดูกเพื่อให้แคบลง
2. ปลายจมูกใหญ่ ต้องดูว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ทั่วไปแล้วเกิดจาก 3 สาเหตุ คือ เนื้อจมูกหนาเยอะ (พบมากสุดในคนไทย) ต้องเลาะเนื้อพังผืดที่หนา ๆ ออก, กระดูกอ่อนปลายจมูกส่วนล่างใหญ่ ต้องตัดแต่งตัวกระดูกอ่อน และกระดูกอ่อนตรงปลาย Domme อ้าออกจากกัน จะต้องเย็บให้ชิด ๆ กัน (Come Suture)
3. ปัญหาจมูกบางใกล้ทะลุ ถ้ายังไม่ทะลุไม่มีการติดเชื้อ ผมจะแก้จมูกเลย แต่จะนำเนื้อเยื่อเกี่ยวพันบริเวณหลังหูหรือก้นกบ มารองตรงปลายจมูกร่วมด้วย เพื่อให้เกิดการซ่อมแซมของเนื้อบริเวณที่บาง
ข้อควรระวังหลังจากแก้จมูกที่ควรทำอย่างต่อเนื่อง 2-4 สัปดาห์

- งดการโดนน้ำหรือซาวน่า อย่างน้อย 1 สัปดาห์แรก
- สังเกตอาการอย่างใกล้ชิดว่ามีอะไรผิดไปจากที่หมอแนะนำหรือเปล่า
- ดูแลแผลอย่างถูกวิธี และเฝ้าระวังการติดเชื้อ รวมถึงกินยาตามแพทย์สั่ง
- ลดอาการบวม-ช้ำ ตามคำแนะนำ เช่น ประคบเย็น, ยกศีรษะสูง, ควบคุมอาหารประเภทที่ต้องห้าม
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดการกระแทก เช่น การออกกำลังกายหนัก
และสัมผัสกดทับ จับหรือกดจมูกแรง ๆ รวมถึงแกะถูแผลในจมูก
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 1 เดือน
- ติดตามนัดแพทย์ตามกำหนดและประเมินอาการระยะยาว (ชา, หายใจ, ปวด)
หลังจากได้เจาะลึกเรื่องข้อควรระวังในการแก้จมูกกันไปแล้ว เนื้อหาที่ไม่ควรพลาดเลยคือ การเลือกหมอและสถาบันที่ไว้ใจได้ เพราะนี่คือกุญแจสู่ผลลัพธ์ความสวยแบบที่ปลอดภัยกับเราค่ะ
- คลินิกหรือโรงพยาบาลต้องมีมาตรฐาน ตามนี้เลยค่ะ
- มีใบอนุญาตประกอบกิจการและใบประกอบวิชาชีพที่ถูกต้อง
- มีรีวิวและผลงานจริงจากผู้เข้ารับบริการ
- มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและประสบการณ์สูงในด้านศัลยกรรมจมูก
- มีการให้คำปรึกษาอย่างละเอียดก่อนทำการรักษา
- มีมาตรฐานความปลอดภัยในการผ่าตัด ทั้งห้องผ่าตัด วัสดุอุปกรณ์มีมาตรฐานตรวจสอบได้ และความสะอาดภายในสถานพยาบาล และมีการดูแลหลังผ่าตัดที่ดี ช่วยให้ฟื้นตัวเร็วและลดโอกาสเกิดปัญหา
แพทย์ที่เราเลือกต้องได้รับการรับรองจากแพทยสภา มีความรู้และทักษะที่ถูกต้องในการประเมินโครงสร้างจมูกและเลือกวิธีการเสริมที่เหมาะสม ลดความเสี่ยงในการเกิดแผลติดเชื้อ บวม หรือผิดรูป แพทย์ที่มีประสบการณ์จะเข้าใจสัดส่วนของใบหน้าแต่ละคน ทำให้ใช้เทคนิคในการแก้จมูกที่เสริมออกมาดูสมดุลและเหมาะกับใบหน้าของแต่ละบุคคล สามารถให้คำแนะนำและติดตามอาการหลังทำ เพื่อแก้ไขหรือปรับแก้ทรงจมูกหากมีปัญหา

คุณหมอณัฐยังแนะนำสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจแก้จมูก ควรทำการบ้าน ตรวจสอบใจตัวเองก่อนว่าชอบจมูกแบบไหนหรือต้องการให้ อารมณ์และภาพลักษณ์ของตัวคนไข้แสดงออกมาแบบไหน หลายครั้งคนไข้ชอบเอาตามใจเพื่อนหรือ เอาตามทรงนิยม ซึ่งอาจจะไม่ได้ตรงกับความต้องการของตัวเองจริง ๆ ทำให้ต้องแก้จมูกบ่อย ๆ บางครั้งคนไข้ที่มาปรึกษาเรื่องจมูกกลับพบว่าคนไข้ไม่ได้ต้องการทำจมูก แต่ต้องการทำให้หน้าตัวเองเล็กและได้ทรงหน้าแบบผู้ชาย ซึ่งอาจต้องไปทำหัตถการ หรือศัลยกรรมตกแต่งแบบอื่น หรือบางครั้งอยากได้ปลายพุ่งมาก ๆ แต่โครงสร้างมีปัญหาก็ต้องเสริมแบบ Open แก้โครงสร้าง เพราะถ้าทำซิลิโคนผ่านไปสักพักปลายจมูกงุ้มตกก็ต้องมาแก้กันอีก ดังนั้นการที่ชัดเจนในความต้องการของตัวเองจะช่วยป้องกันการแก้จมูกบ่อย ๆ ได้
ข้อควรระวังจากหมอในเรื่องการแก้จมูก
1. การแก้จมูกในราคาที่สูง หรือทำด้วยวิธีที่ซับซ้อนอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด ควรแก้ตามปัญหาของจมูกที่เรามีแต่พอดี ดีที่สุด
2. การเข้าใจความต้องการของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะได้ไม่ต้องแก้จมูกหลายรอบ
3. โครงหน้าและเนื้อของเรามีการปรับเปลี่ยนเมื่ออายุมากขึ้น หากอยากเสริมจมูกแล้วอยู่ไปนาน ๆ ควรเลือกทรงที่พอดี ๆ ไม่โด่งหรือพุ่งเว่อร์จนเกินไป

สุดท้ายนี้ถ้าคุณกำลังคิดจะแก้จมูกสิ่งที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ
1. ต้นเหตุจริง ๆ ของปัญหา อย่าไปแก้เฉย ๆ จนกว่าจะรู้ว่าซิลิโคนเคยผิดรูปไหม เคยทะลุ หรือมีผลกับการหายใจอย่างไร ถ้าไม่เช็กให้ดีก่อน ไม่งั้นก็อาจกลับมาเป็นอีกครั้งได้
2. เลือกเทคนิคให้ตรงกับปัญหา ไม่จำเป็นต้องแก้ด้วยเทคนิคเดิมหรือเทคนิคแพง ๆ เสมอไป
3. การเลือกวัสดุมีผลกับผลลัพธ์ระยะยาว อย่าตัดสินใจทำเพียงเพราะหมอบอกให้ทำ แต่ควรหาข้อมูลให้ดีก่อน
4. การดูแลหลังผ่าตัดมีผลชัดเจน อย่าคิดว่าดูแลเล่น ๆ หรือละเลยแล้วผลลัพธ์จะไม่ต่างกัน สุดท้าย สิ่งสำคัญที่สุดคือ ‘หมอและคลินิก’ ที่ได้รับการรับรอง มีมาตรฐาน มีห้องผ่าตัดที่ดี สะอาด และขอดูผลงานจริง ถามคำถามให้เคลียร์
ทั้งหมดนี้คือภาพรวมของการแก้จมูกผู้ชาย ที่ไม่ได้แค่ทำครั้งเดียวแล้วจบ แต่ต้องคิด จัดการ และดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ ถ้าคุณคิดจะเลือกวิธีไหน ควรเลือกอย่างมีข้อมูล อย่าเลือกตามราคา และอย่าลืมตรวจเช็กทุกจุดก่อนลงมีดค่ะ พบกันใหม่ในตอนหน้า Beauty Research เราจะค้นเพื่อให้คุณพร้อมและมั่นใจที่สุด
ช่องทางติดต่อ
- FB : ศัลยกรรมเสริมจมูก แก้จมูก by goodwill clinic กู๊ดวิลล์ คลินิก
- IG : goodwill clinic
- Line OA : @goodwillclinic
- Website : www.goodwillaesthetic.com
- สาขา The Season mall 089 4296656
- สาขาเชียงใหม่ 093 6016656
- Tiktok : goodwill clinic
- Youtube : goodwillclinic official