เรื่องของสิว มันไม่เคยเป็นเรื่องเล็กเลยละค่ะ เชื่อได้เลยว่าสาวๆ ทุกคนต้องเจอกับสิวที่ไม่อยากให้ขึ้น ไม่อยากให้มีอย่างแน่นอนค่ะ ทางออกของคนเป็นสิวคือการค้นหาวิธีการรักษา ไม่ว่าจะทั้งกินยา ทายา หาหมอ ผลลัพธ์ที่ได้หายบ้างไม่หายบ้าง!!!
ไม่ต้องนั่งเครียดให้สิวขึ้นหนักกว่าเดิม หน้าตาทรุดโทรมอีกต่อไปค่ะ เพราะถ้าเราได้รับการดูแลและรักษาให้ถูกวิธียังไงก็หาย ภายใน 1 เดือนแน่นอน ^^
►เข้าใจถึงสาเหตุของการเกิดสิว
สิวเกิดจากสาเกตุใด ?^.^..?
สิวมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ สิวอุดตัน และสิวอักเสบ ซึ่งการเกิดสิวถือเป็นเรื่องของโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดจากการผิดปกติของรูขุมขนค่ะ ที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของฮอร์โมน สภาพแวดล้อม การกิน การใช้เครื่องสำอางและการทำความสะอาดหน้า ต่างๆ นานา ซึ่งความรุ่นแรงของการเป็นสิวนั้นจะค่อยๆ ลดลงตามอายุและการดูแลรักษานั้นเองค่ะ สิวที่เกิดการอุดตันจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือสิวหัวปิด (จะเป็นสีขาว) และ สิวหัวเปิด (จะเป็นสีดำ) เมื่อไรก็ตามที่เกิดการสะสมของแบคทีเรียใต้ผิวหนังเยอะๆ ก็จะทำให้เกิดเป็นสิวอักเสบนั้นเองค่ะ
สำหรับเชื้อที่พบในสิวตามการศึกษาทางแพทย์จะแบ่งได้ทั้งหมด 4 ประเภท ..
MICROBIOLOGIC TESTING
◇ P.acne : gram-positive anaerobic rod
◇ Gram-negative folliculitis : Klecsiella, Serrate
◇ Pityrosporum folliculitis
◇ Staphylococcus aureus cutaneous infections
"สำหรับสิวตามปกติ จะเป็นการอักเสบของรูขุมขนที่เกิดจากเชื้อ P.acne แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่สิวรักษาแล้วไม่ดีขึ้นอาจจะต้องพิจารณาถึงเชื้ออื่นๆที่สามารถเป็นสาเหตุของรูขุมขนอักเสบได้เช่น Gram-negative folliculitis, Pityrosporum folliculitis, Staphylococcus aureus cutaneous infection ซึ่งตัวยาที่ใช้ในการรักษาก็ต่างกันออกไปค่ะ"
►ทำการรักษาอย่างต่อเนืองและปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์
เมือดูแลรักษาแบบเบื้องต้นไม่ได้ ก็ต้องให้แพทย์ช่วยค่ะ สาวๆ หลายๆ คนอาจจะเริ่มกลัวการรักษาสิวตามคลินิกต่างๆ เพราะกลัวการเลี้ยงเชื้อบ้าง ดื้อยาบ้างต่างๆ นานา ส่งผลให้การรักษาสิว วนเป็นวงเวียนเดิม สุดท้ายก็กลับมาเป็นสิวเหมือนเดิม ซึ่งที่ที่เราจะพาไปดูการรักษาวันนี้ก็คือ THERA Clinic ตั้งอยู่ที่สุขุมวิท 55 ระหว่าง ซอย 3 และ 5
โดยการรักษาของที่นี่จะ"เริ่มด้วย"การกดหัวสิวไปตรวจด้วยเครื่องตรวจเชื่อสิว Microbiologic testing for ACNE อยู่ภายใต้การรักษาของแพทย์หญิงขวัญจิรา วงศ์เกียรติขจร แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง ที่จะเป็นคนวิเคราะห์หาสาเหตุจริงๆ ว่าสิวเกิดจากเชื้ออะไร และต้องทำการรักษาแบบไหน
ซึ่ง"กระบวนการ"รักษาของที่นี่ จะใช้ชื่อว่า Beauty Journey โดยที่คุณหมอจะเริ่มนั่งวิเคราะห์พูดคุยกับเราตั้งแต่การใข้ชีวิต แต่งหน้า ทาครีม พฤติกรรมต่างๆ ราวๆ 30 นาที - 1 ชั่วโมงต่อเคส (*สามารถนำ Skincare เครื่องสำอางที่ใช้มาให้คุณหมอดูได้)
ซึ่งเคสที่เข้าไปรักษานี้มีอาการสิวเรื้อรังมาเป็นเวลานาน รักษาโดยการทายา และกินยามาแต่ไม่ดีขึ้นเลย คุณหมอเลยได้ทำการกดหัวสิวไปตรวจ ซึ่งจะสามารถรู้สึกสาเหตุได้เลยใน 5 นาที แล้วจึงพบว่า สิวนี้มีเชื้อยีสต์ เกิดได้จากสภาพแวดล้อมแล้วการใช้ชีวิตของคนไทยเราเลยละค่ะ จากนั้นคุณหมอก็จะให้การรักษาแบบตรงจุดเลย ไม่ว่าจะเป็นเลเซอร์แสงสีฟ้า ฉายแสงสีแดง ต่างๆ นานา ซึ่งคุณหมอบอกเลยค่ะว่า "ถ้ามาตามนัด"และปฏิบัติตัวตามหมอสั่งแล้วนั้น 1 เดือนสิวหาย ลดลงอย่างเห็นได้ชัดแน่นอนค่ะ
คอร์ส Acne Clear เริ่มต้นที่ 3,900 บาท
►ดูแลตัวเองยังไงให้ห่างไกลจาก "สิว!"
สิว เมื่อเลี่ยงที่จะให้เกิดไม่ได้ 100% ก็ต้องหาวิธีดูแล รักษาที่ถูกต้องควบคู่กันไปค่ะ เริ่มจากหลีกเลี่ยงการจับหน้า แกะเกา นวด ขัดถู ที่เกิดการเสียดสี เช่นการ ปล่อยผมหน้าม้า ใส่หมวก ใส่mask เพราะนอกจากที่จะทำให้เกิดสิวแล้ว ยังทำให้รอยสิวได้เพิ่มมากขึ้นด้วยค่ะ
นอกจากนี้ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ควรเป็นสูตร "sensitive skin", "gentle cleanser", "pH5.5", "soap free" และไม่มีสครับที่จะมาทำลายชั้นผิว ทำให้หน้าของเราบางลง หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางค์ ครีมรองพื้น เบสรองพื้น แป้งผสมรองพื้น เลือกใช้เพียงแค่แป้งฝุ่นจะดีที่สุดค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก เพจ.. หมออุ๋ม - แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง
Cr ♥
►พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนสำคัญต่อระบบต่างๆ ในร่างกายจริงๆ ค่ะ เมือไรก็ตามที่เรานอนพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากร่างกายจะไม่เต็ม 100% แล้ว ยังส่งผลให้สิวขึ้นตามหน้าผาก คิ้ว ต่างๆ นานาอีกด้วย เพราะฉะนั้นแล้ว ควรพักผ่อนให้เพียงพอ วันละ 6 - 8 ชั่วโมงต่อวันนะคะสาวๆ ขา
สำหรับสาวๆ คนไหนที่เป็นสิวเยอะแยะมากมาย รักษาแบบไหนไม่หายซักที แนะนำเลยว่าควรรักษาให้ตรงจุด ปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์ควบคู่ไปกับการดูแลตัวเอง เพราะการเป็นสิวเกิดได้ทั้งปัจจัยภายนอก และภายใน ซึ่งต้องใช้ความอดทนไปด้วย รับรองได้เลยว่า เรื่องสิวจะกลายเป็นเรื่องง่ายๆ ไปเลยละค่ะ
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ... ◇
Thera Clinic Thornglor
◇ Facebook : therabangkok
