“รอยยิ้ม” เปรียบเสมือนสัญลักษณ์เชิงบวกที่ใช้แทนความรู้สึกมีความสุข และยังบ่งบอกถึงความเป็นมิตรได้อย่างชัดเจน เพราะเพียงแค่ส่งรอยยิ้มให้กัน ก็สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทุกคนควรให้ความสำคัญกับการยิ้มที่จริงใจจากภายใน เพื่อเสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูดีและมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
วันนี้ Wongnai Beauty จึงถือโอกาสนำทริคสร้าง Perfect Smile ศาสตร์การยิ้มที่จริงใจจากภายในมาแนะนำกัน ถ้าอยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไรล่ะก็ รีบตามมาดูกันเลยค่ะ
จุดกำเนิด “รอยยิ้ม”

รอยยิ้มไม่ได้มีที่มาจากความสุขเท่านั้น แต่ยังมีจุดกำเนิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อ 2 มัดใหญ่ คือ ไซโกเมติก เมเจอร์ (Zygomatic Major) กล้ามเนื้อที่ใช้แสดงสีหน้า ทำหน้าที่ดึงมุมปากให้ยกขึ้นไปหาโหนกแก้ม ทำงานร่วมกับออร์บิคิวลาริส ออคิวไล (Orbicularis Oculi) หรือกล้ามรอบดวงตา ช่วยดึงเนื้อแก้มและเบ้าตาให้ยกขึ้น จึงเกิดเป็นรอยยิ้มขึ้นนั่นเอง
ความสัมพันธ์ระหว่าง “รอยยิ้ม” และ “ความสุข”

ทุกคนเคยสงสัยกันมั้ยคะ? ว่าทำไม “รอยยิ้ม” ถึงเป็นสัญลักษณ์ของความสุข มีผลการวิจัยจากนักวิชาการพบว่า การยิ้มเป็นสมมติฐานการตอบสนองทางใบหน้า กล่าวคือ รอยยิ้มที่เกิดจาก “ความสุข” เกิดขึ้นได้สองทิศทาง คือ เราไม่ได้ยิ้มเพราะมีความสุขเท่านั้น แต่การยิ้มยังกระตุ้นอารมณ์เชิงบวกในสมอง ซึ่งทำให้เรามีความสุข เพราะทุกครั้งที่ยิ้ม สมองจะหลั่งสารสื่อประสาทที่ทำให้รู้สึกดีออกมาเป็นจำนวนมาก เช่น โดปามีน (Dopamine), เอ็นดอร์ฟินส์ (Endorphins) และ เซโรโทนิน (Serotonin) สารเคมีเหล่านี้จะทำงานร่วมกันเพื่อลดระดับความเครียด บรรเทาอาการปวด และสร้างความรู้สึกมีความสุข ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ “รอยยิ้ม” มีความสัมพันธ์โดยตรงกับ “ความสุข” นั่นเอง
ทริคสร้าง Perfect Smile
ทำความรู้จัก “Duchenne Smile” รอยยิ้มที่จริงใจ

“รอยยิ้มที่จริงใจ” และ “รอยยิ้มที่เสแสร้ง” มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งข้อเท็จจริงนี้ได้รับการพิสูจน์โดย “Guillaume Duchenne” นักประสาทวิทยาชาวฝรั่งเศสผู้ศึกษาเรื่องกล้ามเนื้อของมนุษย์ และกล้ามเนื้อที่ควบคุมการแสดงออกทางสีหน้า จนเขาได้ค้นพบความจริงเกี่ยวกับความแตกต่างกันระหว่าง “รอยยิ้มที่จริงใจ” และ “รอยยิ้มที่เสแสร้ง” ซึ่งสามารถสังเกตได้จากการหดตัวของกล้ามเนื้อรอบดวงตา (Orbicularis Oculi) โดยทั่วไปแล้วรอยยิ้มจะเกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อไซโกเมติก เมเจอร์ (Zygomatic Major) ทำหน้าที่ดึงมุมปากให้ยกขึ้นไปหาโหนกแก้ม ซึ่งรอยยิ้มที่จริงใจจะมีลักษณะเฉพาะ คือมีการหดตัวของกล้ามเนื้อรอบดวงตาเพิ่มเข้ามา ทำให้ผิวหนังรอบดวงตาย่นจนเกิดเป็นรอยตีนกา ด้วยเหตุนี้จึงมีการตั้งชื่อรอยยิ้มที่จริงใจตามชื่อคนค้นพบว่า “Duchenne Smile” นั่นเอง
ยิ้มสวยด้วย “ตะเกียบ”

เป็นเรื่องปกติที่ใบหน้าทั้งสองฝั่งของคนเรามักจะไม่เท่ากัน ซึ่งส่งผลให้ริมฝีปากทั้งสองฝั่งไม่เท่ากันตามไปด้วย เวลายิ้มจึงอาจจะทำให้ริมฝีปากดูเบี้ยว ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วย “ตะเกียบ” โดยเป็นเทคนิคที่ใช้ปรับกล้ามเนื้อมุมปาก นอกจากจะช่วยสร้างรอยยิ้มที่ดูสมมาตรแล้ว ยังช่วยให้ยิ้มง่ายและดูเป็นธรรมชาติขึ้นด้วย เริ่มจากการคาบตะเกียบ 1 คู่ไว้หลังฟัน จากนั้นจึงค่อย ๆ ยกตะเกียบ พร้อมยกมุมปากขึ้นค้างไว้ประมาณ 60 วินาที แนะนำให้ฝึกทำหน้ากระจกเป็นประจำ รับรองเลยว่าจะต้องมีรอยยิ้มที่สดใสอย่างเป็นธรรมชาติแน่นอน
สร้างรอยยิ้มผ่อนคลายด้วยคำว่า “Money”

ใครที่เคยฝึกยิ้มจากคำว่า “Cheese” แล้วรู้สึกว่ารอยยิ้มดูฝืน ๆ แข็งกระด้าง ดูไม่เป็นธรรมชาติ แนะนำให้ลองเปลี่ยนเป็นคำว่า “Money” แบบไม่มีเสียง โดยค้างไว้ที่คำว่า -ney เพียงเท่านี้ ก็จะได้รอยยิ้มที่ดูเป็นธรรมชาติ และรูปปากโค้งสวยแบบไม่ฝืน แถมยังช่วยลดความเกร็งของใบหน้าได้เป็นอย่างดี
4 STEP สร้างรอยยิ้ม Perfect Smile

สำหรับใครที่รู้สึกไม่มั่นใจเวลายิ้มกว้าง แนะนำให้ลองใช้ลิ้นแตะเพดานปาก จากนั้นจึงค่อย ๆ ฉีกยิ้มแบบเห็นเฉพาะฟันบน โดยให้ริมฝีปากบนแตะบริเวณโคนฟันพอดี เพื่อไม่ให้เห็นเหงือกเยอะจนเกินไป พร้อมแยกฟันบนกับฟันล่างออกจากกันเล็กน้อย หลีกเลี่ยงการเกร็งบริเวณดวงตา หรือพยายามทำตาโต เพราะอาจจะทำให้รอยยิ้มดูปลอม แนะนำให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตา วิธีนี้ไม่เพียงแค่ช่วยให้รอยยิ้มดูเป็นธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังทำให้หน้าของคุณดูเรียวขึ้นด้วย
พิสูจน์แล้วว่ารอยยิ้มที่จริงใจ ไม่เพียงแค่ช่วยเสริมบุคลิกภาพและปรับลุคให้ดูเป็นมิตรเท่านั้น แต่ทุกครั้งที่ยิ้ม สมองจะหลั่งสารสื่อประสาทที่ทำให้รู้สึกดีออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้เรามีความสุขจากภายใน ซึ่งจัดเป็นการส่งเสริมสุขภาพจิตให้แข็งแรงรูปแบบหนึ่งด้วย