[คู่มือ] เดิน "เจเจกรีน" แหล่งช็อปสุดชิค ราคาโคตรถูก!!

ถ้าพูดถึงแหล่งช็อปปิ้ง ที่รวบรวมเสื้อผ้า ของตกแต่งบ้าน สินค้ามือสอง สินค้าวินเทจ ของแฮนด์เมค รวมไปถึงร้านอาหารอร่อย ๆ เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึงที่นี่เลยค่ะ ตลาดนัด "เจเจกรีน" อยู่ห่างจากตลาดนัดจตุจักรแค่นิดเดียวเท่านั้น วันนี้ Wongnai Beauty จะพาทุกคนไปตะลุยแหล่งช็อปแห่งนี้กัน จะมีร้านไหนควรค่าแก่การเสียทรัพย์บ้าง ไปชมกันเลยค่ะ

ตลาดนัด "เจเจ กรีน"

เจเจ กรีน (JJ Green) ที่เราเรียกกันคุ้นหู จริง ๆ แล้วชื่อเต็ม ๆ มาจาก "จตุจักรกรีน" ค่ะ ตั้งอยู่บนถนนกำแพงเพรช 3 อยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์เด็ก มีเนื้อที่ 21 ไร่ โดยรวบรวมร้านค้าและร้านอาหารมากกว่า 200 ร้าน เน้นขายสินค้าวินเทจ สินค้าแฟชั่น ของแฮนด์เมค ซึ่งที่นี่มีคอนเซ็ปต์ว่า Shop in the park ทำให้การช็อปปิ้งของที่นี่รายล้อมไปด้วยต้นไม้และธรรมชาติที่ร่มรื่น บรรยากาศโล่ง โปร่ง เย็นสบาย เรียกได้ว่าหาแบบนี้ที่ไหนไม่ได้แล้วในกรุงเทพฯ ค่ะ

Note : บางคนอาจสงสัยว่า "เจเจกรีน" กับ "ตลาดนัดจตุจักร" ตอนกลางคืนต่างกันอย่างไร จริง ๆ แล้ว แม้จะเป็นตลาดเหมือนกันแต่ของขายไม่เหมือนกันนะคะ โดยตลาดนัดจตุจักรจะเน้นขายเสื้อผ้าแฟชั่นมือหนึ่ง ราคาส่ง แถมเปิดเฉพาะวันศุกร์ตอนกลางคืน แต่ในขณะที่เจเจกรีน เน้นขายเสื้อผ้าแฟชั่นมือสอง ของวินเทจ เป็นส่วนใหญ่ค่ะ

วิธีเดินทางมา "เจเจกรีน"

วิธีที่ง่ายที่สุด และไม่หลงชัวร์ ๆ ให้มาตั้งต้นที่หน้าสวนจตุจักร อยู่ฝั่งถนนพหลโยธินค่ะ โดยสามารถมาได้ทั้งรถเมล์, BTS และ MRT

BTS : ลงสถานีปลายทาง "หมอชิต" ทางออก 1
MRT : ลงสถานี "สวนจตุจักร" ทางออก 1
รถเมล์ : ลงป้ายรถเมล์สวนจตุจักร
- รถธรรมดา : 3, 8, 27, 28, 44, 52, 77, 96, 104, 108, 122, 126, 145 และ 182
- รถปรับอากาศ : ปอ.3, ปอ.28, ปอ.29, ปอ.34, ปอ.39, ปอ.44, ปอ.59, ปอ.63, ปอ.77, ปอ.104, ปอ.126, ปอ.134, ปอ.138, ปอ.145 และ ปอ.502

Note : สายรถเมล์ที่วิ่งตลอดคืน สาย 8, 7, 59 และ 134

เมื่อลงหน้าสวนจตุจักรแล้ว สามารถไปต่อได้ 2 วิธี คือต่อวินมอเตอร์ไซค์หรือเดินค่ะ ถ้าไม่รีบหรือมากับเพื่อนเยอะ ๆ แนะนำให้เดินมากกว่า เพราะจากประสบการณ์นั่งวินมอเตอร์ไซค์แต่ละครั้ง ราคาไม่เคยเท่ากันเลย โดยใครที่เดินให้ใช้ทางลัดตรง MRT ประตู 1 จะมีประตูเล็ก ๆ เชื่อมเข้าสวนจตุจักร (สวนที่คนมาวิ่งและนั่งพักผ่อนกัน) จากนั้นเดินตามถนนมาเรื่อย ๆ จนมาออกถนนกำแพงเพรช 3 ไม่ต้องกลัวเปลี่ยวเลยค่ะ เพราะคนเดินกันเยอะมาก เดินป็นทางตรงประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงด้านหน้าทางเข้าแล้วค่ะ

เวลาเปิด-ปิด

ตลาดนัดเจเจกรีน โซนที่เป็นตลาดขายเสื้อผ้า จะเปิดเฉพาะวันพฤหัสบดี - วันอาทิตย์ ตั้งแต่ 06.00 - 01.30 น. โดยช่วงเวลาที่คนเดินเยอะสุด คือสองทุ่ม ไปจนถึงสี่ทุ่ม แม้ตลาดจะเปิดถึงตีหนึ่งครึ่ง แต่ช่วงประมาณห้าทุ่มกว่า ๆ ร้านค้าหลายร้านก็เริ่มทยอยปิด กันแล้วค่ะ

แผนผังการเดิน "เจเจ กรีน"

ZONE : A เริ่มต้นด้วยของวินเทจ

ใครที่กลัวหลงแนะนำให้เริ่มเดินตั้งแต่โซนนี้ก่อนค่ะ เพราะเป็นทางเข้าหลัก ด้านหน้ามีซุ้มเขียนว่า 'จุดเริ่มต้น' เริ่มต้นเข้ามาที่โซนนี้ จะเจอกับสินค้าวินเทจมากมาย ตั้งแต่เสื้อผ้า สินค้าตกแต่งบ้าน หรือแม้แต่ขนมของกินสมัยตอนเราเด็ก ๆ ก็มีขายนะคะ นอกจากนี้ยังมีสินค้ามือหนึ่ง ที่ออกแบบให้ดูเป็นแฟชั่นยุค 90 ด้วยค่ะ เราชอบโซนนี้ตรงที่ทางเดินกว้างกว่าโซนอื่น ๆ ทำให้เดินสบาย ไม่ต้องเบียดกัน

ZONE : B สินค้าแฟชั่นมือหนึ่ง

โซน B เป็นโซนช็อปปิ้งที่วางแผนผังเป็นแนวนอน ขนาดโซนนี้ไม่ใหญ่มาก มีสินค้าแฟชั่นประเภทมือหนึ่งทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับมากมาย แต่ก็ยังมีสินค้ามือสองปะปนอยู่บ้าง สินค้าเริ่มต้นของโซนนี้อยู่แค่หลักสิบเท่านั้นเองค่ะ

ZONE : C สินค้าแฟชั่นสุดแนว

สินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า มือหนึ่ง มือสอง ชุดกีฬาแนว ๆ กระเป๋าผ้า กระเป๋าแฟชั่น รองเท้ามือสอง เครื่องประดับ แว่นตา เคสโทรศัพท์ ของตกแต่งบ้าน ตุ๊กตา โปสเตอร์ หมวกกันน็อกแนว ๆ อยู่ในโซนนี้หมดเลยค่าาา เป็นโซนที่ใหญ่ที่สุด ของเยอะสุด ร้านรองเท้ามือสองมีไม่ต่ำกว่า 4-5 ร้าน โซนนี้มีเสื้อผ้ามือสองวินเทจสวย ๆ เยอะเลยนะคะ รับรองว่าแต่ละร้านของไม่ซ้ำกันเลย เรายกให้เป็นโซนที่เดินแล้วเมาของที่สุดค่ะ นอกจากนี้ยังมีโซนที่ขายอาหาร อยู่ทางริมสุดด้านขวา มีทั้งของกินเล่นเพลิน ๆ ไปจนถึงของกินแบบอิ่มท้องกันเลย

ZONE : D ศูนย์อาหาร ยกมาทุกสัญชาติ

ศูนย์อาหารแห่งนี้เป็นทั้งจุดแวะพักทานอาหาร และจุดนั่งพักให้หายเหนื่อย ที่นี่มีของกินละลานตามากค่ะ มีทั้งอาหารแบบไทย อาหารญี่ปุ่น อาหารเกาหลี หรือใครจะนั่งแวะดื่มน้ำ เขาก็มีร้านน้ำให้เลือกมากมาย ร้านที่เราแนะนำคือ ร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ยางมะตูม กับร้านเนื้อย่างเลยค่ะ โดยที่นี่จะใส่อาหารมาในจานพลาสติกหรือโฟม เราสามารถซื้อเดินกินหรือเอากลับบ้านได้เลย ส่วนใครที่นั่งทานก็อย่าลืมเก็บจานที่ทานแล้วไปทิ้งด้วยนะคะ คนอื่น ๆ ที่คอย เขาจะได้มีที่นั่งสะอาด ๆ กันค่ะ

ZONE : E ร้านนั่งชิลกับเพื่อน

นอกจากสินค้าแฟชั่น ตกแต่งบ้านแล้ว ที่นี่ยังมีร้านอาหารสำหรับนั่งชิลล์กับเพื่อนได้ด้วยค่ะ มีทั้งแบบร้านอาหาร ร้านกาแฟ ชา นมปั่น รวมไปถึงร้านสังสรรค์ที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บางร้านมีดนตรีสดให้ฟังด้วยนะ ซึ่งแต่ละร้านก็มีจุดเด่นต่างกันไป ส่วนตัวเราชอบร้านที่ให้ซื้อของกินเข้าไปได้ เพราะของกินที่นี่อร่อย มีให้เลือกเยอะจนไม่รู้จะซื้ออะไรเลยค่ะ

ZONE : F แฟชั่นหลากสไตล์ ราคาเอื้อมถึง

โซนนี้เรียกได้ว่าเป็นโซนแฟชั่นหลากหลายสไตล์เลยค่ะ ทั้งมือหนึ่ง มือสอง สินค้าวินเทจ หมวก กระเป๋า เครื่องประดับมีครบ แถมราคาไม่แพงด้วย โซนนี้เป็นทางเดินตรงไปเรื่อย ๆ ทางค่อนข้างแคบและคนเดินเยอะ เราโหวตให้โซนนี้เป็นโซนที่เดินเบียดที่สุดค่ะ แต่โซนนี้หากเดินดี ๆ จะเจอร้านเคสโทรศัพท์และร้านขายเสื้อผ้ายีนส์ ที่แหวกแนว ไม่ซ้ำใครในตลาดนี้เลยค่ะ

นัดเจอเพื่อนตรงไหน ไม่ให้หลง

เวลานัดเจอเพื่อนที่เจเจกรีนทีไร หากันยากมากเลยค่ะ ไม่รู้ว่าต้องบอกว่าตัวเองจุดไหน หันไปตรงไหนก็มีแต่ร้านค้า แถมที่นี่ไม่ได้มีล็อกร้านค้าชัดเจน ใครที่ไม่เซียนในการเดิน รับรองว่ามีหลง ต้องเดินวนอยู่ในนั้นแน่ ๆ เราเลยลองทำลิสจุดนัดเจอเพื่อน เอาเป็นว่านัดเจอกันตามนี้ ไม่หลงแน่นอนค่ะ

ศาลพระภูมิหรือพระบรมรูปทรงม้า : ทั้งศาลพระภูมิและพระบรมรูปทรงม้า เป็นจุดที่หาเจอได้ง่าย เพราะอยู่ใกล้ทางเข้า - ออก แต่มีข้อเสียคือจุดนี้คนจะเยอะ บางทีไม่มีที่จะยืนด้วยซ้ำ

ศูนย์อาหาร : เป็นจุดนัดเจอที่ดีเลยค่ะ มีที่นั่งรอ แถมมีอาหารให้ทานด้วย แต่จะอยู่ข้างในหน่อย ใครที่ไปไม่ถูก ถามแม่ค้าแถวนั้นได้เลยค่ะว่าไปทางไหน ทุกคนรู้จักหมด

ลานกิจกรรม : ใครที่มาจากทางฝั่งทางเข้าโซน A แนะนำให้รอตรงนี้ พื้นที่โล่ง หาเจอง่าย มีที่ยืนด้วย

Hidden Spot ร้านยีนส์ราคาถูก

ในเจเจกรีน ร้านขายยีนส์มีหลายร้านเลยค่ะ แต่ร้านที่ของเยอะ ขายถูกจริง ต้องยกให้ร้านนี้เลยค่ะ Rosy Quilt มีขายตั้งแต่กางเกงยีนส์ เอี๊ยม เสื้อกั๊ก เสื้อคลุม เสื้อแขนกุด มีแบบให้เลือกเยอะมาก ๆ เข้ามาด้านในร้าน จะเจอกองเสื้อผ้ายีนส์วางเต็มร้านเลยค่ะ โดยราคาเริ่มต้นของร้านนี้อยู่ที่ 100 บาทเท่านั้นเอง แต่บอกไว้ก่อนนะคะว่าร้านนี้เป็นสินค้ามือสองทั้งร้าน

รวมร้านน่าซื้อในเจเจกรีน

ร้านวินเทจ โซน A

เข้ามาร้านนี้เหมือนเจอขุมทรัพย์เลยค่ะ เพราะร้านนี้มีทั้งเสื้อผ้า กางเกง เสื้อคลุม กระเป๋า สไตล์วินเทจ มีแต่เท่ ๆ ทั้งนั้นเลย แม่ค้าก็น่ารัก ใจดีมาก ให้เราเลือกของได้นาน ๆ ไม่มีบ่น แถมแม่ค้าเป็นคนเลือกของเข้าร้านเองด้วยนะคะ ใครอยากเจอของดี ถูกใจ ลองแวะมาที่ร้านนี้ได้เลยค่ะ

พิกัด : โซน A

RUST BRAND

ร้านกระเป๋าสไตล์มินิมอล ดีไซน์ของกระเป๋าร้านนี้ส่วนใหญ่ จะไม่มีลวดลายค่ะ เน้นที่สีสันของกระเป๋าแทน โดยวัสดุที่ใช้จะเป็นหนัง PU หรือผ้า มีทั้งแบบสะพายข้าง กระเป๋าเป๋ กระเป๋าแฟชั่นใบเล็กใบใหญ่ หลากหลายดีไซน์เลยค่ะ

พิกัด : โซน A

Premjai

สาวกกระเป๋าผ้า ต้องปลื้มร้านนี้แน่ ๆ ค่ะ ยิ่งถ้าใครชอบผ้ายีนส์อยู่ด้วยแล้ว พลาดไม่ได้เลย เพราะร้านนี้เขาทำกระเป๋าผ้าจากยีนส์ ดีไซน์เอง ตัดเย็บเองด้วย ลายกระเป๋าแต่ละใบก็ไม่ซ้ำใคร ใครอยากได้ลุคเท่ ๆ หรือสตรีทหน่อย ตอบโจทย์ค่ะ

พิกัด : โซน D

sa.deed.sa.ding

สาววินเทจต้องหลงรักร้านนี้เลยค่ะ เพราะมีไอเทมสินค้าวินเทจให้เลือกเยอะมาก โดยเฉพาะกางเกงยีนส์ มีให้เลือกหลายแบบ หลายไซซ์ นอกจากนี้ยังมีไอเท็มสวย ๆ อย่างเข็มขัด เอาเป็นว่าจากที่เดินมา ของร้านนี้ไม่ซ้ำกับร้านไหนในนี้แน่นอนค่ะ แถมแม่ค้าเป็นคนคัดสินค้าเองทุกชิ้นด้วยนะคะ

พิกัด : โซน D

ENSHIPAE

ใครชอบเครื่องประดับร้านนี้เลยจ้า ENSHIPAE เขามีทั้งแหวน ต่างหู กิ๊บติดผม แว่นตา ใครชอบแว่นตาทรงวินเทจหน่อย ร้านนี้ก็มีนะคะ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 35 บาท อยากได้ของสวย ๆ ต้องหา ๆ หน่อยนะคะ เพราะมันจะมีลายซ้ำบ้าง แต่รับรองสวยหลายแบบเลยค่ะ

พิกัด : โซน D

ช็อปเจเจกรีนคืนนี้ พกเงินแค่ 1,000 บาท

สำหรับการเดินเจเจคืนนี้ เราตั้งงบไว้ไม่เกิน 1,000 บาท ตั้งใจไว้ว่าต่อให้เจอของสวยถูกแค่ไหน ก็จะใช้ไม่เกินนี้ (เพราะมีอยู่แค่นี้จริง ๆ 55) จะมีอะไรที่เราซื้อกลับมาบ้างนั้น มาดูกันเลย ทาดาาาาาา

เสื้อยีนส์แขนกุด 100 บาท (ชอบตัวนี้ตรงที่ ชายเสื้อมีสายยาว ๆ เอาไว้พันรอบเอว แล้วผูกเป็นโบว์ได้ค่ะ)
เสื้อแขนกุดผ้ายืด 89 บาท
นาฬิกา 250 บาท
แหวน 3 วง 100 บาท
กระเป๋า ตาข่ายดักฝัน 100 บาท (ชอบมาก ซื้อมาไว้ก่อน ยังไม่รู้จะใส่กับอะไรเลย)

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เริ่มอยากไปกันหรือยัง ใครที่ชอบของมือสอง ของวินเทจ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ส่วนใครที่ยังติดใจการช็อปปิ้งย่านสวนจตุจักรอยู่ เราแนะนำให้ลองเดิน ตลาดนัดจตุจักรกลางคืน กันดูค่ะ ส่วนครั้งหน้า Wongnai Beauty จะพาไปที่ไหนกันนั้น อย่าลืมมาติดตามกันนะคะ