หลังจากที่วงการเครื่องสำอางในบ้านเราปั่นป่วนกันมาสักพักกับสารที่เคลมว่าให้ความขาว ขาวใส ขาวกระจ่างใส ขาวออร่า แต่ดันอันตรายร้ายแรงซะนี่ วันนี้เราเลยมาแจก สารสกัดที่ช่วยในเรื่องผิวขาวโดยเฉพาะแถมไม่อันตราย จำแล้วนำไปใช้ได้เลยค่า!
Arbutin
- จะมีทั้งแบบ Alpha Arbutin (สังเคราะห์) และ Beta Arbutin (ได้จากธรรมชาติ เช่น Cranberries และ Blueberries)
- มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง
- ไม่มีการทำลายเชลล์สร้างสีผิว และไม่ทำให้เกิดฝ้าถาวร
- แอบมีข้อเสียนิดนึงตรงที่ราคาแพง และใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไปถึงจะเห็นผล
Kojic Acid
- พบในกระบวนการหมักข้าวมอลต์ เช่น ในสาเกญี่ปุ่น
- ช่วยลดความหมองคล้ำและจุดด่างดำ
- โดยตัวนี้จะช่วยลดเม็ดสีในชั้นผิว ด้วยการยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ใช้สร้างเม็ดสีทำให้ผิวคล้ำขึ้นนั่นเองค่ะ
- ทำให้ขาวใสได้อย่างรวดเร็วและได้ผลในระยะยาว
- ไม่ทำให้ผิวบาง และไม่ทำให้ผิวไวต่อแสง ใช้ต่อเนื่องได้โดยไม่มีผลข้างเคียง
- จะมีอีกตัวคือ Kojic Acid Dipalmitate ที่จะคล้ายกับ Kojic Acid แต่ซึมลงผิวได้มากกว่า
Licorice Extract
- เป็นสารสกัดจากรากชะเอมเทศ
- มีสาร Grabidin 40% ในการช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ช่วยปรับให้ผิวขาวใส
- ยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase โดยไม่กระทบกับกระบวนการสำคัญระดับเซลล์อื่น ๆ
- นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว และมีสารอนุมูลอิสระช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยของผิวได้ด้วย
L-Ascorbic Acid (Vitamin C)
- ได้จากผลไม้ประเภท Citrus และผักใบเขียว
- ตัว Vitamin C จะไปรบกวน DHICA Oxidation เพราะถ้าไม่เกิดกระบวนการนี้เมลานินหรือเม็ดสีในผิวก็จะไม่เพิ่มขึ้น ทำให้ผิวดูสว่างสดใสขึ้นนั่นเองค่ะ
- ยังเป็นตัวกระตุ้นให้ผลิตคอลลาเจนได้มากขึ้น ผิวจึงนุ่ม เด้ง สุขภาพดีขึ้นด้วย
- บวกกับความเป็น Antioxidant ที่ทำให้ริ้วรอยดูลดลงด้วย
Ascorbyl Palmitate (Vitamin C Ester)
- เหมือนกับ Vitamin C เลย แต่ตัวนี้จะมาเป็นรูปแบบของน้ำมัน
มีความเสถียรสูงกว่า L-Ascorbic Acid เนื่องจากไม่ละลายในน้ำ จึงซึมผิวได้มากกว่าและเข้าไปช่วยได้ตรงจุดมากกว่า - เมื่อผสมในผลิตภัณฑ์ จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิว ช่วยปรับให้ผิวขาวกระจ่างใส
- เหมาะสำหรับผสมในครีมที่มี L-Ascorbic Acid และ Vitamin E จะช่วยปรับให้ผิวขาวกระจ่างใสยิ่งขึ้น
Soybean Extract
- เป็นสารสกัดจากถั่วเหลือง
- มีประสิทธิภาพยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ที่เป็นเอนไซม์ที่เป็นตัวการสร้างเม็ดสีได้อย่างดี
- เป็นตัวกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ทำให้ความชุ่มชื้นใต้ผิวเพิ่มขึ้น
- และยังยับยั้งการผลิตเม็ดสี (Melanin) ทำให้ผิวขาวใสขึ้นค่ะ
Lactic Acid
- พบในผลิตภัณฑ์กลุ่มนม เช่น นม โยเกิร์ต ชีส
- เป็น AHA ชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ขจัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
- ยับยั้งทั้งเอนไซม์ Peroxidase และ Tyrosinase ไม่ให้ผลิตเม็ดสีเพิ่มขึ้น จึงทำให้ผิวดูขาวใสขึ้นได้นั่นเอง
- ให้ความชุ่มชื่นกับผิวด้วยนะ เหมาะมากกับคนที่ผิวแห้งแต่อยากขาว
- ระคายเคืองน้อยสุดในบรรดา AHA เลยด้วย
Resorcinol
- เป็นสารสกัดที่พบได้ในธรรมชาติ โดยเฉพาะในธัญพืช
- มีประสิทธิภาพในการยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสี ช่วยลดการเกิดฝ้า ปรับผิวให้ขาวสว่างกระจ่างใส
- ยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ที่มีหน้าที่สร้างเมลานินและมีฤทธิ์ในการช่วยผลัดเซลล์ผิว
- ข้อแม้ของตัวนี้คือห้ามใช้ในคนท้องเด็ดขาด!
- สามารถใช้ร่วมกับ Vitamin B3 และ N-acetyl Glucosamine จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการปรับให้ผิวขาวกระจ่างใสมากขึ้น
Tetrahydrocurcuminoids
- เป็นสารสกัดจากขมิ้น
- มีความบริสุทธิ์สูงมากเป็นพิเศษ ทำให้ไม่มีสีเหลืองเข้มจากขมิ้นเลย
- ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีของผิว
- มีประสิทธิภาพในการต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่า Vitamin C ปกติถึง 3 เท่า
- พบในส่วนผสมสำคัญกลุ่ม Repair ทุกรุ่นของ Paula’s Choice
Alpha Tocopherol (Vitamin E)
- ได้จากกลุ่มผัก ถั่ว และน้ำมันพืช
- ช่วยยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase และช่วยเพิ่มสาร Glutathione ที่เป็นตัวหลัก ๆ ในเรื่องผิวขาวกระจ่างใสเลยก็ว่าได้
- นอกจากนี้ Vitamin E ยังโดดเด่นในเรื่องลดริ้วรอยและรอยแผลเป็นต่าง ๆ
- นิยมใช้ร่วมกับ Vitamin C เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และปรับให้ผิวขาวใสยิ่งขึ้น
Source : 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10
เป็นยังไงกันบ้างคะ คราวหน้าสาว ๆ ลองพลิกส่วนผสมดูว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่มีส่วนผสมเหล่านี้อยู่บ้างหรือเปล่า ถ้ามีก็ถือว่ามาถูกทางแล้วค่ะ เราจะได้มีผิวสวย ขาวใสอย่างปลอดภัยกันถ้วนหน้าค่า
อยากรู้เพิ่มว่า AHA หรือ BHA ตัวไหนใช้แล้วขาวกันแน่
อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/beauty-tips/aha-vs-bha