เมื่อกล่าวถึง “อาหารอินเดีย” แล้ว สิ่งที่จะตามมานั้นก็คือกลิ่นเครื่องเทศอันโดดเด่นเป็นเสน่ห์ของ “อาหารอินเดีย” ที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนตกอยู่ในมนต์เสน่ห์นี้ เราไปดูกันดีกว่าว่ามีเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างไรกันบ้างนะจ้ะนายจ๋า
ความเป็นมา
ถ้าจะให้กล่าวถึงความเป็นมาของอาหารชาติใดชาติหนึ่งแล้ว ก็คงต้องเริ่มสืบกันตั้งแต่การตั้งรกรากของกลุ่มคนในบริเวณนั้น ๆ จนถึงมาการผลัดเปลี่ยน หลอมรวมกันของวัฒนธรรมต่าง ๆ อาหารอินเดียก็เช่นเดียวกัน ประวัติอาหารอินเดียก็มีการพัฒนาจากการติดต่อปฏิสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมจากชาวมองโกลในภาคเหนือของอินเดีย และการแลกเปลี่ยนค้าขายสินค้าประเภทเครื่องเทศกับชาวยุโรป และต่อมาในยุคอาณานิคมจึงทำให้เกิดการผสมผสานระหว่างอาหารยุโรปและอินเดียให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น และในปัจจุบันอาหารอินเดียก็ถือเป็นอาหารที่มีอิทธิพลติดอันดับโลกในระดับต้น ๆ

ลักษณะเด่นของอาหารอินเดียที่มีรวมกันก็คือ การใช้เครื่องเทศ หลากชนิดในการปรุงประกอบ อีกทั้งสภาพภูมิศาสตรที่เอื้อต่อการปลูกสมุนไพรและผักผลไม้ต่าง ๆ และด้วยความหลากหลายของประชากรในอินเดีย จึงมีกลุ่มที่ได้รับอิทธิพลจากศาสนาและความเชื่อ เช่น ชาวฮินดูที่มีบทบาทต่อการเปลี่ยนแปลงวิวัฒนาการของอาหารอินเดียอย่างมาก
อาหารฮินดู

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการนับถือศาสนามีผลต่อการดำรงชีวิตรวมไปถึงอาหารการกินของมนุษย์อย่างเรา การนับถือเทพเจ้าต่าง ๆ ของชาวฮินดูทำให้มีความเชื่อที่ต่างแตกกันไป ยกตัวอย่างเช่น
1.นมวัวถือเป็นอาหารศักดิ์สิทธิ์ใช้ทั้งดื่มและประกอบพิธีทางศาสนา
2.ชาวฮินดูผู้นับถือคัมภีร์พระเวทเชื่อว่า อาหารจะ"บริสุทธิ์"ก็ต่อเมื่อปรุงด้วย ฆี/กี(เนยใส)
3.อาหารมังสวิรัติของคุชราตกับเบงกอลนั้นจะไม่ใส่กระเทียม ขิง หอม และเครื่องเทศที่เสริม"ความร้อน" เพื่อไม่ให้ขัดกับหลักศาสนา
4.ชาวฮินดู ถือว่าโค เป็นพาหนะของพระศิวะ ดังนั้นการฆ่าโค (วัว) ถือเป็นบาปหนัก จึงส่งผลให้ชาวฮินดูไม่กินเนื้อวัว
5.การกินในต่างวรรณะ เช่น คนวรรณะสูงกว่า ห้ามกินอาหารจากคนที่มีวรรณะต่ำกว่าเป็นผู้ปรุง
“การัม มาซาล่า” คืออะไร

เอกลักษณ์ของอาหารอินเดียก็คงไม่พ้นกลิ่นและรสชาติที่ร้อนแรงที่ได้มากจากบดและผสมเครื่องเทศอินเดียหลากชนิดที่มีเรียกว่า “การัม มาซาล่า” ที่ประกอบด้วย
- ลูกผักชี (coriander seeds)
- กานพลู (cloves)
- อบเชย (cinnamon)
- ยี่หร่า (black cumin)
- ใบอบเชย (bay leaves)
- ดอกจันทน์เทศ (mace)
- ลูกจันทน์ (nutmeg)
- เม็ดพริกไทย (peppercorn) เป็นต้น
โดยการคั่ว หรืออบให้แห้ง และนำมาบดเพื่อใช้ในการปรุงรสอาหารและเพิ่มรสชาติให้เป็นเอกลักษณ์ถึงความเป็นอินเดีย ในทุกวันนี้สามารถหาซื้อ “การัม มัสซาลา” แบบสำเร็จรูปมีขายเป็นซองตามร้านค้าทั่วไป แต่ถ้าจะให้ได้รสชาติดีควรเอาเครื่องเทศดังกล่าวข้างต้นมาคั่วและบดเองเพื่อให้ได้“การัม มัสซาลา” ที่มีคุณภาพ ได้รสชาติและกลิ่นหอมตามต้องการ
ความต่างระหว่างภาคของอาหารอินเดีย

ด้วยความที่ประเทศอินเดียมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก และความหลากหลายของภูมิศาสตร์จึงส่งผลให้มีวิถีชีวิตและการกินอาหารนั้นแตกต่างที่อาจจะมาจากวัฒนธรรมท้องถิ่นและภูมิศาสตร์ เช่น ทางภาคเหนือของอินเดียมีความหนาวเย็น การเลี้ยงแกะจึงเป็นที่นิยมและนำมาเป็นอาหาร ในส่วนของคาร์โบไฮเดรตนั่นนิยมกินเป็นโรตี หรือจาปาตี
- อาหารอินเดียเหนือ : โรตีนาน เซคเคบับ (เนื้อสับบนเหล็กเสียบไม้), ไก่ Tikka (ชิ้นเล็ก ๆ ของไก่หมักและย่าง), เนยไก่, ไก่ทันดูรี aloo muttar (แกงทำจากมันฝรั่งและถั่ว) rajma (แกงทำด้วยถั่วไตแดง) Chana Masala (แกงทำด้วยถั่วชิกพี), ซาโมซ่า daal makhani (daal ทำด้วยเนย)
- อาหารอินเดียใต้ : มีภูมิประเทศที่ทะเลจึงมากด้วยมะพร้าว อาหารของทางใต้ก็มีการนำมะพร้าวขูดมาทำอาหาร เนื้อสัตว์หลักจะเป็นพวกอาหารทะเล ส่วนของคาร์โบไฮเดรตก็เป็นข้าวบามาสติ ที่มีลักษณธเมล็ดเรียวยาวนั่นเอง
- ภาคตะวันออกและภาคตะวันตก : นั้นจะได้รับอิทธิพลที่แตกต่างกันไป ในภาคตะวันออกจะได้รับอิทธิพลจากอาหารของชาวมุสลิม แต่มีความพิเศษที่แตกต่างจากภาคอื่น ๆ คือจะมีมัสตาร์ดและโยเกิร์ตที่เป็นจุดเด่นของภาคนี้เลย อยากกระซิบว่าโยเกิร์ตของที่นี่เขาทำจากนมควายสายพันธุ์มูร์ราห์ด้วยเลยนะ
- อาหารตะวันออก : momos (นึ่ง, เนื้อสัตว์หรือผักที่เต็มไปด้วย wontons) และ Thukpa (ซุปใส) มะเขือเทศ Achaar (มะเขือเทศดอง), Machcher Jhol (แกงปลา) และ Jhaal-Muri (ขนมขบเคี้ยวเผ็ดที่ทำด้วยข้าวพัฟและน้ำมันมัสตาร์ด)
- ภาคตะวันตก : ก็จะมีความคล้ายอาหารตะวันตก เพราะมีคำว่าตะวันตกเหมือนกันก็ไม่น่าใช่(ล้อเล่นนะคะ) เพราะว่าได้นับอิทธิพลมาจากช่วงยุคล่าอาณานิคมของฝั่งตะวันตก นิยมรับประทานขนมปังที่ผ่ากลาง แล้วนำแกงมันฝรั่ง หรือแกงผัก ใส่ในขนมปัง คล้ายๆ แฮมเบอร์เกอร์ หรือจะทำเป็นโรล ตัดเป็นคำๆ แล้วหยิบรับประทานก็ได้
- บางภูมิภาคมีการรับประทานอาหารคู่น้ำจิ้มต่าง ๆ ซึ่งน้ำจิ้มก็มีหลากหลาย เช่น น้ำจิ้มผักชี น้ำจิ้มสะระแหน่ หรือบางที่จะนำเป็นมะม่วง พริก หรือ กระเทียมมาทำเป็นน้ำจิ้ม
Ref : https://www.posttoday.com/life/travel/431821
มองแล้วรู้เลยว่า คือ อาหารอินเดีย!




