เมืองไทยเป็นเมืองผลไม้ และเชื่อว่าในหลาย ๆ ครั้งเรามักกินไม่ทันจนมันเน่าเสีย ได้แต่มองก็เสียดาย ใครมีเหตุการณ์แบบนี้บ่อย ๆ วันนี้ทีมงาน Wongnai ขอนำเสนอวิธีการแปรรูปผลไม้ ให้กลายเป็นแยมรสหวาน ไร้สารกันบูดกันค่ะ กับ “สูตรแยมผลไม้” ใครที่ทำอาหารไม่เป็น ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะทำตามง่ายมาก ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ จะเอาแยมไปทา หรือชงกินกับน้ำร้อนก็เข้าท่า
สูตรแยมผลไม้โฮมเมด กินไม่ทันจับแปรรูปให้หมด!

สูตรแยมสตรอว์เบอร์รี รสเบสิกถูกปากทุกคน

ส่วนผสมแยมสตรอว์เบอร์รี
- สตรอว์เบอร์รีสด (หรือแช่แข็ง) 500 กรัม
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 300 กรัม
- เจลาตินชนิดแผ่น 2 แผ่น (แช่น้ำเย็นจนนิ่ม)
วิธีทำแยมสตรอว์เบอร์รี
- ใส่สตรอว์เบอร์รีลงในหม้อ จากนั้นตั้งไฟอ่อน เติมน้ำ ตามด้วยน้ำตาลทราย
- เคี่ยวจนสตรอว์เบอร์รีเริ่มนิ่ม แล้วกรองเอาเฉพาะเนื้อออกมาพักไว้
- เคี่ยวน้ำต่อจนเริ่มงวด แล้วยกลงจากเตา
- ใส่เจลาตินแผ่นที่แช่น้ำเย็นจนนิ่ม คนให้เข้ากัน
- ใส่เนื้อสตรอว์เบอร์รีที่พักไว้ลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
- ทิ้งไว้ให้เย็น ตักใส่ขวด แล้วแช่ตู้เย็น
Tips : สามารถเพิ่มเจลาตินลงไปได้ถ้าอยากให้เนื้อแยมแน่นมากขึ้น หรือใครจะไม่ใส่เลยก็ได้เช่นกันแต่ต้องเคี่ยวให้นานขึ้น
สูตรแยมสับปะรด เปรี้ยวนิด หวานหน่อย

ส่วนผสมแยมสับปะรด
- สับปะรดสับ 500 กรัม
- น้ำตาลทราย 300 กรัม
- เลมอน หั่นบาง 1/2 ลูก
- น้ำเปล่า 1 ถ้วย
วิธีทำแยมสับปะรด
- ใส่สับปะรดลงในหม้อ ตั้งไฟอ่อน ตามด้วยน้ำตาลทราย เลมอน และน้ำเปล่า
- จากนั้นเคี่ยวจนน้ำตาลทรายละลาย ส่วนผสมเหนียวข้น ปิดไฟแล้วยกลงจากเตา
- ทิ้งไว้ให้เย็น ตักใส่ขวด แล้วแช่ตู้เย็น
Tips : ใส่เลมอนเพิ่มเพื่อให้รสชาติมีมิติ เนื่องจากสับปะรดบางลูกอาจจะหวานมากเกินไป
สูตรแยมผิวส้ม เปรี้ยวนำ หอมสดชี่น

ส่วนผสมแยมผิวส้ม
- ส้ม 3 ผล
- น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 2 ถ้วยตวง
- เกลือ ครึ่งช้อนชา
วิธีทำแยมผิวส้ม
- หั่นส้ม โดยแยกเนื้อส้ม กับซอยผิวส้ม
- เอาเนื้อส้มและผิวส้มใส่หม้อ เปิดไฟอ่อน ใส่น้ำตาลทราย เกลือ
- เคี่ยวประมาณ 1 ชั่วโมง จนส่วนผสมงวด
- ทิ้งไว้ให้เย็น ตักใส่ขวด แล้วแช่ตู้เย็น
สูตรแยมลูกหม่อน เปรี้ยวหวานเปี่ยมวิตามิน

ส่วนผสมแยมลูกหม่อน
- Mulberry หรือ ลูกหม่อน 300 กรัม
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลทรายแดง 300 กรัม
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- แป้งมันสำปะหลัง 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำแยมลูกหม่อน
- นำลูกหม่อนล้างน้ำด้วยเกลือให้สะอาด
- ใส่ลูกหม่อนลงในหม้อ ตั้งไฟกลาง ตามด้วยน้ำเปล่า
- กวนให้เนื้อเข้ากัน แต่ไม่ต้องละเอียดมาก เบาไฟแล้วใส่น้ำตาลทรายแดง เกลือ คนต่อจนข้น
- นำแป้งมันสำปะหลังผสมน้ำเล็กน้อย คนให้เข้ากันแล้วเทลงในหม้อ จากนั้นคนจนงวด
- ทิ้งไว้ให้เย็น ตักใส่ขวด แล้วแช่ตู้เย็น
Tips : เราสามารถใช้แป้งมันสำปะหลังผสมน้ำแทนเจลาตินได้
สูตรแยมมะม่วง เนื้อนุ่มละมุนลิ้น

ส่วนผสมแยมมะม่วง
- เนื้อมะม่วงสุก 500 กรัม (หั่นเป็นชิ้น)
- น้ำตาลทราย 400 กรัม
- น้ำมะนาว 70 กรัม
วิธีทำแยมมะม่วง
- เอาเนื้อมะม่วงผสมกับน้ำตาล พักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที
- นำมะม่วงที่พักไว้ลงหม้อ เริ่มจากเปิดไฟกลาง จากนั้นหรี่เป็นไฟอ่อน แล้วใส่น้ำมะนาว
- เคี่ยวต่อประมาณ 20-30 นาที แล้วปิดเตา
- ทิ้งไว้ให้เย็น ตักใส่ขวด แล้วแช่ตู้เย็น
Tips : ใส่น้ำมะนาวเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม และตัดรสชาติที่หวานของมะม่วง
Tips เพิ่มเติมสำหรับสูตรทำแยม
- หมั่นคนเป็นระยะเพื่อไม่ให้ส่วนผสมติดหม้อ ไม่งั้นอาจจะมีรสขมได้
- ถ้าอยากได้กลิ่นหอมหวานเพิ่มขึ้น แนะนำให้เพิ่มน้ำผึ้งแทนการใช้น้ำตาลที่ให้รสหวานเพียงอย่างเดียว
- ควรทิ้งแยมให้เย็นก่อนกิน เพราะถ้าแยมร้อนอยู่เนื้อจะเหลวไม่จับตัว
- หากอยากให้เนื้อแยมเป็นลิ่มตักง่ายเหมือนที่เราซื้อกิน ให้ใส่เจลาตินเพิ่มได้ตามชอบ หรือจะใช้เพคตินที่ทำให้ส่วนผสมหนืดขึ้น (หาซื้อได้ตามร้านเบเกอรี) หรือนำแป้งมันสำปะหลังผสมน้ำเล็กน้อยแล้วเทลงหม้อก็ได้
- แนะนำให้เก็บรักษาในตู้เย็น และเก็บได้ 1 เดือน
สูตรแยมผลไม้ ที่เราเอามาแชร์ให้เพื่อน ๆ ในวันนี้เป็นผลไม้ที่หาได้ง่ายในไทย และราคาไม่แรงมาก นอกจากผลไม้ 5 อย่างที่เราว่ามา ก็สามารถเอาผลไม้อื่น ๆ มาทำแยมได้ เช่น เลมอน องุ่น เสาวรส เชอร์รี แอปเปิล เป็นต้น โดยเราสามารถเพิ่มรสชาติให้แยมดูน่าสนใจมากขึ้นจากการผสมผลไม้สองชนิดขึ้นไป (อาจจะต้องดูด้วยว่ารสชาติเข้ากันไหมนะ) อย่างเช่น ส้ม+เสาวรส ก็ได้จะแยมส้มเสาวรสรสเปรี้ยวนำหวานตาม สตรอว์เบอร์รี+บลูเบอร์รี แยมเบอร์หวานอมเปรี้ยวมีกลิ่นหอมน่ากิน เป็นต้น ส่วนบทความหน้าจะเป็นอะไร ติดตามกันนะคะ /อยู่บ้านไม่น่าเบื่ออีกต่อไปแล้ว