Ortolan Bunting พิธีกรรมการกิน ”นกจิ๋ว”สุดดาร์ก ที่ฝรั่งเศสอยากลืม
ในโลกนี้มีอาหารหลายอย่างที่ถูกเล่าต่อเป็นตำนาน เพราะมันทั้งแปลก ทั้งโหด และทั้งหรูในเวลาเดียวกัน หนึ่งในนั้นคือ Ortolan bunting นกตัวเล็กขนาดไม่ถึงฝ่ามือ แต่ครั้งหนึ่งเคยถูกยกย่องว่าเป็น “เพชรเม็ดจิ๋วบนโต๊ะอาหารฝรั่งเศส” นกที่ถูกจับมาขุนให้อ้วนจนแทบระเบิด ก่อนจะถูกฆ่าในเหล้าอาร์มาญัก แล้วเสิร์ฟทั้งตัวให้กลืนลงไปในคำเดียวภายใต้ผ้าขาวคลุมหัว ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ตำนานในนิยาย แต่คือความจริงที่เกิดขึ้นมานานหลายศตวรรษ และกลายเป็นภาพจำของ “อาหารต้องห้าม” ที่ทั้งโลกเอาไปพูดถึงด้วยทั้งความขนลุกและความทึ่ง
จากโต๊ะโรมันสู่โต๊ะฝรั่งเศส
การกินนกตัวเล็ก ๆ อย่างออร์โทลองมีรากเก่าแก่ตั้งแต่สมัยโรมัน แต่ในฝรั่งเศสมันถูกดันขึ้นสู่จุดสูงสุดของ “ศิลปะการกิน” ในศตวรรษที่ 18–19 ช่วงเวลาที่ชนชั้นสูงฝรั่งเศสหลงใหลการกินมากพอ ๆ กับการเมืองและการปฏิวัติ
นักชิมผู้ยิ่งใหญ่อย่าง ฌอง แองเทล์ม บรียา-ซาวารอง ถึงกับบันทึกไว้ในหนังสือ Physiologie du goût ว่าการกินออร์โทลองคือประสบการณ์ที่ควรมีสักครั้งในชีวิต และเขาเป็นคนที่เล่าถึง “พิธีคลุมหัวด้วยผ้า” ที่บาทหลวงคู่หูของเขาแนะนำ เพื่อไม่ให้พระเจ้ามองเห็นบาปบนโต๊ะอาหาร ชนชั้นสูงบางกลุ่มถึงกับเปรียบว่า “ออร์โทลองคือพิธีกรรมผ่านพ้นของนักชิม” ถ้าไม่เคยลอง ถือว่ายังไม่ถึงขั้น
งานเลี้ยงใหญ่ ๆ เช่น Three Emperors Dinner ในปี 1867 ที่ปารีส มีออร์โทลองอยู่บนโต๊ะท่ามกลางเมนู 16 คอร์สสำหรับจักรพรรดิและกษัตริย์ มันไม่ใช่อาหารธรรมดา แต่คือเครื่องหมายแห่งรสนิยม ความมั่งคั่ง และการเข้าถึงสิ่งต้องห้ามที่คนทั่วไปไม่มีวันได้ลิ้มลอง
พิธีกรรมการกินที่ทั้งโหดและลึกลับ
การเตรียมออร์โทลองนั้นฟังแล้วชวนขนลุก นกตัวเล็กถูกจับในช่วงฤดูอพยพ ก่อนจะถูกขังในกล่องมืดเพื่อหลอกให้มันคิดว่ากลางคืนตลอดเวลา ผลคือมันกินไม่หยุดจนพุงกางเหมือนมนุษย์ติดบุฟเฟต์ บางบันทึกเล่าว่ามีการทำให้นก “ตาบอด” ด้วยซ้ำเพื่อบังคับให้มันกินได้มากขึ้น
เมื่อมันอ้วนได้ที่ ก็ถูกจุ่มลงในเหล้าอาร์มาญัก ทั้งเพื่อฆ่าและหมักไปในตัว ฟังดูโรแมนติกหน่อยก็เหมือน “ปล่อยให้นกตายด้วยความมึนเมา” แต่เอาเข้าจริงก็คือการทำให้ตายในอ่างเหล้าอย่างโหดเหี้ยมอยู่ดี จากนั้นก็ถอนขน โรยเกลือพริกไทย และอบในเนยเพียงไม่กี่นาที ก่อนจะเสิร์ฟทั้งซากวางบนจานเล็ก ๆ ร้อนฉ่า
ตอนนี้แหละคือพิธีกรรม ผู้กินหยิบ ผ้าลินินสีขาวมาคลุมหัว คลุมทั้งหน้าเหมือนกำลังเล่นซ่อนแอบกับพระเจ้า แล้วค่อยหยิบนกเข้าปากทั้งตัว หันเท้าเข้าปากก่อน เคี้ยวจนเนื้อและไขมันหวานมันไหลซ่านในปาก ผสมกับความขมของเครื่องในและกระดูกเล็ก ๆ ที่แตกเสียงกรอบ รสชาติที่นักชิมรุ่นหลังบรรยายว่า “เหมือนถูกยกไปอีกมิติหนึ่ง”
ว่ากันว่ามีสามเหตุผลหลักที่ต้องคลุมหัว หนึ่ง เพื่อกักกลิ่นหอมเอาไว้ไม่ให้หาย สอง เพื่อปกปิดสภาพเลือดไหลน้ำมันกระเด็นที่อาจไม่งามบนโต๊ะหรู และสาม เพื่อซ่อนบาปจากพระเจ้า…เรียกได้ว่าเป็น “ผ้าคลุมบาป” เวอร์ชันหรู
มื้อสุดท้ายของประธานาธิบดี
เรื่องเล่าที่ทำให้ออร์โทลองกลายเป็นตำนานคือมื้อสุดท้ายของ ฟร็องซัวส์ มิตแตร์รองด์ อดีตประธานาธิบดีฝรั่งเศส ขณะป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เขาจัดงานเลี้ยงสิ้นปี 1995 กับครอบครัวและมิตรสหาย และใช่ บนโต๊ะนั้นมีออร์โทลอง มันเป็นการฝืนกฎหมายที่ห้ามการล่านกแล้ว แต่เขายืนยันจะลิ้มรส “อาหารต้องห้าม” ก่อนตาย เล่ากันว่าในมื้อนั้นเขากินไปถึงสองตัวใต้ผ้าคลุมสีขาว แล้วไม่กี่วันต่อมาเขาก็สิ้นใจ
ภาพจำนี้ทำให้ออร์โทลองไม่ใช่แค่อาหารอีกต่อไป แต่มันกลายเป็น “คำสั่งลา” ของนักการเมืองที่เลือกจะเผชิญบาปรสเลิศใต้ผ้าลินิน
เมื่อกฎหมายเข้ามาขวาง
แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้ไม่รอดพ้นสายตานักอนุรักษ์ ประชากรออร์โทลองในธรรมชาติลดฮวบลงจนใกล้สูญพันธุ์ สหภาพยุโรปจึงออกกฎหมายคุ้มครองตั้งแต่ปี 1979 และฝรั่งเศสห้ามจับ ขาย หรือเสิร์ฟเด็ดขาดในปี 1999 โทษปรับสูงถึงหมื่นยูโรและจำคุก แต่กฎหมายนี่แหละที่ทำให้มันยิ่งดู “ต้องห้าม” จนกลายเป็นของลับในตลาดมืด ราคาตัวละ 100–150 ยูโร มีการใช้คำรหัสในวงการอาหารเรียกมันอีกด้วย
ข่าวเล่าว่ายังมีร้านอาหารลับที่แอบเสิร์ฟให้ลูกค้าวงในเท่านั้น การกินออร์โทลองจึงกลายเป็นเหมือน “การเล่นชู้” ของวงการอาหารฝรั่งเศส ทุกคนรู้ว่าผิด แต่ก็ยังมีคนทำอยู่ใต้ผ้าห่มขาว ๆ ใบเดิม
อาหาร หรือกระจกสะท้อนศีลธรรม?
สำหรับเชฟชื่อดังอย่าง อแลง ดูคาส หรือ มิเชล เกราร์ พวกเขายังยืนยันว่า ทุกคนควรได้ลองออร์โทลองสักครั้งในชีวิต เพื่อไม่ให้วัฒนธรรมนี้หายไป แต่สำหรับนักอนุรักษ์และคนทั่วไป ออร์โทลองคือ “รอยแผล” ที่สะท้อนว่ามนุษย์ยอมทำทุกอย่างเพื่อความสุขสั้น ๆ บนลิ้น
บางคนบอกว่า มันคือการกลืนกินฝรั่งเศสทั้งประเทศในหนึ่งคำ บางคนมองว่ามันคือบทเรียนว่าศีลธรรมไม่ควรถูกห่อหุ้มด้วยผ้าลินิน แต่ไม่ว่าจะมองทางไหน ออร์โทลองก็ยังคงอยู่ในความทรงจำของโลกในฐานะอาหารที่ทั้งหรู ทั้งโหด และทั้งบาปในเวลาเดียวกัน
#Wongnai #WongnaiStory #เกร็ดความรู้


