“ชีส” อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์นมที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เพราะรสชาติอันนุ่มละมุน ที่สามารถกินได้ทั้งแบบสด ๆ หรือนำไปประกอบเมนูอาหารต่าง ๆ แต่เพื่อน ๆ รู้ไหมว่าชีสทำยังไง มาจากไหน และมีกี่แบบให้เลือกกิน ถ้าอยากรู้ไปดูกันเลย
1ชีสคืออะไร ?
ชีส คือ ผลิตภัณฑ์จากนมชนิดหนึ่งซึ่งผ่านกระบวนการต่าง ๆ ทำให้โปรตีนในนมจับตัวเป็นก้อน และนำไปบ่มตามต้องการ

2ชีสทำอย่างไร ?
- คั้นน้ำนมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น วัว, แพะ หรือแกะ
- ทำการพาสเจอร์ไรส์นมดิบ เพื่อทำลายเชื้อโรคในนม
- ใส่เชื้อแบคทีเรียสำหรับทำชีสลงไป จากนั้นเติมเอนไซม์ที่เรียกว่า เรนเนต ตามลงไปเพื่อให้โปรตีนนมจับตัวเป็นก้อน
- ตัดโปรตีนนมที่จับตัวเป็นก้อนแล้ว แยกออกจากเวย์โปรตีน
- จากนั้นกรองเวย์โปรตีนออก ให้เหลือแต่ก้อนเคิร์ด
- นำก้อนเคิร์ดที่ได้มาอัดให้เข้ากันในถังไม้ทรงกลม หรือทรงที่ต้องการ
- แสตมป์เลขประจำตัวของผู้ทำชีส และวันที่ให้เรียบร้อย
- แล้วใช้ถัง หรือวัตถุที่มีน้ำหนักสูงกดชีสเอาไว้ข้ามคืน เพื่อให้น้ำในชีสออกให้มากที่สุด
- จากนั้นนำชีสที่ได้ไปเข้าห้องบ่มที่ควบคุมอุณหภูมิ และความชื้น แล้วทำการบ่ม (aging) เท่าที่ต้องการ

3ประเภทของชีส
1. ชีสแข็ง (Hard Cheese)
- ชีสพามิจาโน เรจจาโน (Parmigiano Reggiano Cheese)
ลักษณะ : มีรสชาติเข้มข้น และเนื้อสัมผัสที่แข็งเพราะผ่านการบ่มเป็นเวลานาน
ประเทศ : อิตาลี
เมนู: เหมาะสำหรับทำซอส ขูดเพื่อโรยบนพิซซ่า พาสต้า หรือสลัด

- ชีสกรูแยร์ (Gruyere Cheese)
ลักษณะ : มีรสชาติครีมเข้มข้น หอมมัน มีความหวานและเค็มในตัว ซึ่งชื่อ Gruyere เป็นชื่อที่มีต้นกำเนิดจากเมืองกรูแยร์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั่นเอง
ประเทศ : สวิตเซอร์แลนด์
เมนู : แซนด์วิช กินคู่กับแครกเกอร์ หรือผลไม้แห้ง

2. ชีสกึ่งแข็ง (Semi-Hard Cheese)
- ชีสเท็ต เดอ มอน (Tete De Moine Cheese)
ลักษณะ : เป็นชีสทรงกระบอกที่มีเนื้อแข็ง การรับประทานจะต้องใช้อุปกรณ์ที่ชื่อว่า เครื่องจีรอล (Girolle) มาขูดชีสให้เป็นดอกไม้ (Rosette) มักอยู่บนชีสบอร์ด และนิยมรับประทานสดเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดของชีส
ประเทศ : สวิตเซอร์แลนด์
เมนู : เหมาะสำหรับโรยสลัด หรือทานคู่กับไวน์ขาว

- ชีสเกาด้า (Gouda Cheese)
ลักษณะ : ชีสก้อนใหญ่ที่มีรสชาตินมเข้มข้นมาก มีเนื้อสัมผัสที่เนียนและนุ่ม ผลิตในเมืองเกาด้า ประเทศเนเธอร์แลนด์
ประเทศ : เนเธอร์แลนด์
เมนู : นำไปทำซอส ซุป หรือเสิร์ฟคู่กับสลัดผัก

3. ชีสกึ่งนุ่ม (Semi-Soft Cheese)
- ชีสบลู หรือชีสร็อคฟอร์ท (Blue Cheese or Roquefort Cheese)
ลักษณะ : ชีสที่มีลายสีเขียวแกมน้ำเงิน เกิดจากการเติมเชื้อราที่กินได้ ทำให้มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ประเทศ : ฝรั่งเศส
เมนู : นำไปทำซอส หรือกินคู่กับไวน์หวาน หรือไวน์ที่มีรสชาติหวาน

4. ชีสนุ่ม (Soft Cheese)
- ชีสบรี (Brie Cheese)
ลักษณะ : ชีสนุ่มสีเหลืองคลุมด้วยเชื้อราที่กินได้สีขาว มีเนื้อสัมผัสนุ่ม และมีรสชาติครีมเข้มข้น อุดมด้วยแคลเซียมและโปรตีน
ประเทศ : ฝรั่งเศส
เมนู : กินคู่กับขนมปัง ผลไม้อบแห้ง กล้วยหอม หรือถั่ว

- ชีสมอสซาเรลลา (Mozzarella Cheese)
ลักษณะ : ชีสสดที่ไม่ผ่านการบ่ม กลิ่นไม่แรง รักษาความสดและชุ่มชื่นโดยการแช่ในน้ำ
ประเทศ : อิตาลี
เมนู : เสิร์ฟคู่กับสลัดมะเขือเทศ และราดด้วยน้ำมันมะกอก หรือกินสด ๆ

5. ชีสประเภทอื่น ๆ
- ชีสฟองดูว์ (Fondue Cheese)
ลักษณะ : เป็นชีสที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสวิตเซอร์แลนด์ ทำจากชีสสองชนิดขึ้นไปนำมาผสมกันกับเหล้าเชอร์รีหรือไวน์ขาว
ประเทศ : สวิตเซอร์แลนด์
เมนู : กินคู่กับขนมปังฝรั่งเศส หรือ แฮมและไส้กรอก

- ชีสเชฟเร่ (Chevre Cheese)
ลักษณะ : ชีสจากนมแพะ เนื้อนุ่มละมุน มีกลิ่นและรสชาติที่เข้มข้น
ประเทศ : ฝรั่งเศส
เมนู : กินคู่กับถั่ว หรือผลไม้อบแห้ง

- ชีสเฟต้า (Feta Cheese)
ลักษณะ : ชีสสดที่ได้จากนมแกะ มีเนื้อนุ่ม และรสชาติเค็มอ่อน ๆ
ประเทศ : กรีซ
เมนู : กรีกสลัด

และนี่ก็คือชาร์ตสรุปรวมชีสชนิดต่าง ๆ

Did you know ?
รูของชีสไม่ได้เกิดจากหนูกัด แต่เกิดจากกระบวนการบ่มชีสของส่วนผสมต่างๆ เช่น แบคทีเรียในถังนม นมวัวดิบ เกลือ น้ำย่อยในกระเพาะวัว จึงทำให้เกิดรูในชีส และจะขยายใหญ่ขึ้นตามระยะเวลาในการบ่ม

ได้รู้เรื่องราวของชีสกันไปแล้ว สำหรับใครที่อยากไปลิ้มลองชีสประเภทไหนก็สามารถหาซื้อชีสนำเข้าคุณภาพจาก KCG Corporation ได้ที่ Central Food Hall, Tops, Villa Market, Foodland หรือ Gourmet Market ทุกสาขา หรือเพื่อความสะดวกก็สามารถใช้บริการ KCG Cheese Selection บริการ Delivery สั่งซื้อชีสส่งฟรีถึงบ้านโดยการสั่งผ่าน Line@

Cited-list