
4.3

มาพักผ่อนริมนา กับบ้านฝนระรึมที่พักริมทุ่งนาที่อยู่ห่างออกมาจากตัวเมืองค่อนข้างจะไกลมากๆ ครับ เนื่องจากคราวก่อนเคยมาทานอาหารที่ร้านนี้และเห็นที่พักน่าพักมาก เลยลองเสิร์จหาดูใน FB ก็มาเจอกับลิ้งที่ใช้จองบ้านพัก ซึ่งเหมือนจะทำออกมาต่างหากเอง ดังนั้นหากลองหาใน Agoda หรือเว็บไซต์หาที่พักอื่นๆ จะไม่เจอเลยครับ วิธีการจองก็ไม่ยาก เลือกวันที่จะไป แล้วในเว็บก็จะบอกว่ามีบ้านหลังไหนว่างบ้างครับ
สำหรับรอบนี้เลยขอลองบ้านใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จปลายปีที่แล้วอย่างบ้าน “ฝนระรึม” บ้านหลังเดียวที่เหมือนบ้านเดี่ยวในรีสอร์ทแห่งนี้อีกที พร้อมกับอ่างแช่น้ำที่มองออกไปจะเป็นวิวทุ่งนาสุดลูกหูลูกตา ในราคา 3200 บาท ไม่บวกอะไรเพิ่ม พร้อมกับสามารถชำระผ่านบัตรเครดิตได้ด้วยเช่นกัน (หรือถ้าใครจะโอนเงินก็มีครับ)
การเดินทางมาที่รีสอร์ทแห่งนี้สามารถใช้เส้นทางได้ประมาณ 2 ทางหลักๆ ทางนึงจะมาทางโบนันซ่า เขาใหญ่ ซึ่งทางนี้ไม่แนะนำเพราะเส้นทางยังเป็นหลุมบ่อเยอะมากครับ แต่ถ้ามาทางเส้นถนนมิตรภาพ แล้วเลี้ยวเข้าทางหนองสาหร่าย ทางนี้จะมีหลุมเฉพาะบริเวณทางเข้า แต่ถ้าขับเข้าไปเรื่อยๆ แล้ว หลุมจะน้อยและมีซ่อมถนนไปแล้วพอสมควรครับ
เมื่อมาถึงแล้ว สามารถเข้าเช็คอินที่ล๊อบบี้ได้เลยครับ โดยมี Welcome Drink อย่างน้ำใบเตยสำหรับดับร้อนโดยเฉพาะ และหลังจากนั้นพนักงานก็พาเดินไปที่ห้องพัก ซึ่งจะต้องผ่านโซนร้านอาหาร แล้วข้ามคลองไป โดยจะมีกล้องวงจรปิดอยู่ครับ ซึ่งโซนนี้จะเข้าได้เฉพาะลูกค้าของรีสอร์ทเท่านั้นครับ
บริเวณโซนที่พักตรงนี้ จะมีของเล่นสำหรับเด็กๆ แปลงปลูกผักออร์แกนิคที่จะนำไปทำอาหารขายต่อเต็มไปหมดครับ ถ้าใครสายถ่ายรูปอาจจะถูกใจเพราะที่ถ่ายรูปเยอะมากๆ ครับ แต่ละหลังจะอยู่ค่อนข้างห่างกันพอสมควร ไม่รบกวนกันสักเท่าไร แต่ถ้าใครต้องการความสงบ จะแนะนำบ้าน 2 ชั้นที่อยู่ห่างออกไปไกลจากคนอื่น บ้านนั้นเงียบที่สุดครับ
สำหรับห้องพักวันนี้ มีชื่อว่าบ้าน “ฝนระรึม” เป็นบ้านเดียวที่มีรั้วล้อมเหมือนว่าเป็นบ้านส่วนตัวครับ มองจากข้างนอกจะไม่เห็นอะไรครับ ตัวบ้านจะยกสูง สามารถเดินขึ้นได้ หรือถ้าเป็นรถเข็นก็เข็นขึ้นเช่นกัน จะมีเตียงตาข่ายไว้นอนเล่นได้ และมีที่นั่งด้านนอกในส่วนนี้เช่นกัน ภายในบ้านจะมีบันไดลิงขึ้นไปเตียงเสริมได้ด้วยครับ บนนั้นจะมีพัดลมให้ 1 ตัวเปิดตอนนอนด้วยครับ และในห้องหลักจะมีอุปกรณ์ให้ค่อนข้างครบครัน ทั้งมินิบาร์ เตียงนอน ที่นั่ง ลำโพงและวิทยุ รวมทั้งพร๊อพถ่ายรูปที่สามารถหยิบจากในห้องออกไปใช้ด้านนอกต่อได้เลย แทบไม่ต้องพกอะไรมาอีก แถมยังมีเสื้อคอกระเช้าและผ้าขาวม้า เพื่อให้เข้ากับธีมด้วยเช่นกัน และมีระเบียงด้านหลัง ซึ่งเปิดออกไปจะเห็นทุ่งนาและต้นมะพร้าว 1 ต้น เป็นวิวที่สวยที่สุดจากห้องนี้ครับ
ส่วนของห้องน้ำจะแบ่งเป็นอีก 2 ส่วน คือส่วนห้องน้ำที่แบ่งผักบัว และชักโครก รวมทั้งอ่างล้างอื่นอย่างเป็นสัดส่วน ไดร์เป่าผม อุปกรณ์อาบน้ำครบครัน ตกแต่งด้วยดอกไม้แห้งและของที่ทำจากไม้เยอะพอสมควร อีกส่วนเป็นระเบียง ที่จะมีอ่างน้ำที่ทางรีสอร์ทนำดอกไม้มาโรยเต็มอ่างให้แล้วครับ แนะนำว่ายังไงอาจจะต้องเอาดอกไม้ออกก่อนแล้วปล่อยน้ำทิ้งเพื่อความสะอาดครับ ตรงโซนนี้จะมีผ้าม่านกั้นอยู่ครับ แต่แนะนำว่าควร Protect ตัวเองด้วยก่อนออกมาแช่ครับ
ความพิเศษของบ้านนี้จะมีตรงที่ บ้านนี้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการจ่ายไฟเข้าที่แอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านทุกชิ้น รวมทั้งก๊อกน้ำทั้งหมดครับ อย่างไรก็ดี ถ้าหากวันนั้นไม่มีแดด จะใช้ไฟจากการไฟฟ้าเหมือนเดิม ซึ่งโชคร้ายตรงที่วันที่มาไฟฟ้าไม่จ่ายมาในช่วงบ่ายพอดี แดดก็ไม่มี และที่บ้านนี้เองก็ไม่ได้มีตั้งแบตเตอรี่ไว้เก็บพลังงานด้วย ทำให้ไฟดับเหมือนบ้านอื่นๆครับ สุดท้ายก็ต้องรอไฟมาครับ
และถ้าหากตอนเย็นไม่อยากออกไปไหน (แนะนำว่าไม่ออกจะดีกว่าเพราะเส้นทางค่อนข้างอันตราย) ที่รีสอร์ทเองก็มีอาหารเย็นจำหน่ายด้วยเช่นกัน โดยสามารถสั่งได้ตั้งแต่ตอนเช็คอิน และทางพนักงานจะเตรียมโต๊ะริมสวนไว้ให้ครับ เมนูหลายๆ อย่างเคยทานตอนมารอบที่แล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่รู้สึกได้เลยคือปริมาณอาหารที่เยอะกว่ามากๆ ในราคาที่เท่าเดิมครับ เพียงแต่รสชาติของที่นี่จะหนักเค็มพอสมควรครับ อาจจะต้องบอกกับทางรีสอร์ทไว้ครับ
สิ่งหนึ่งที่จะตามมาเลยหากมาพักริมนาแบบนี้ คือแมลงครับ แนะนำว่าให้รีบเปิดและปิดประตู รวมทั้งปิดไฟรอบๆ บ้าน ซึ่งสวิทช์ไฟของที่นี่จะงงๆ หน่อยครับ ถ้ามีระบุไว้หน่อยจะดีมากครับ ส่วนอ่างน้ำ แนะนำว่าให้แช่ตอนบ่ายที่ไปถึงเลย หรือตอนเช้าหลังจากล้างบ่อเรียบร้อย เพราะชอบมีแมลงลงไปนอนตายครับ
ในส่วนของอาหารเช้า สามารถเดินไปทานที่ล๊อบบี้ของรีสอร์ทครับ เพียงแค่บอกว่าพักที่ห้องไหนก็พอครับ เมนูอาหารจะไม่ได้เยอะมากครับ จัดตามจำนวนของผู้เข้าพักเป็นหลักครับ หลักๆ เลยที่เห็นทำสดๆ จะเป็นครัวซองค์จิ๋ว ซึ่งจะอบใหม่เรื่อยๆ ครับ มีสลัดผักที่วัตถุดิบส่วนใหญ่ปลูกเองครับ ข้าวเหนียวหมู ข้าวต้ม ไข่ดาว ข้าวผัด และอื่นๆ ครับ ส่วนใหญ่เป็นอาหารที่ทานง่ายๆ รองท้องมากกว่าครับ รสชาติโดยรวมก็ค่อนข้างโอเครอยู่ครับ
หลังจากพักผ่อนเรียบร้อย ก็ถึงเวลาเช็คเอาท์ครับ ในห้องพักจะมีสมุดอยู่เล่มนึง ที่เตรียมไว้ให้เราเขียนความรู้สึกเกี่ยวกับที่พักแห่งนี้ครับ ถ้าอยากจะติชมอะไร ก็สามารถเขียนลงในนี้ได้เลยครับ ตอนเช็คเอาท์ทางรีสอร์ทมีลดให้อีก 20% เนื่องจากเมื่อคืนที่พักนั้นไฟดับอีกแล้ว และทางการไฟฟ้าไม่ได้แจ้งรีสอร์ทไว้เช่นกัน จึงลดให้เป็นกรณีพิเศษครับ
โดยรวมแล้วการพักรีสอร์ทแห่งนี้ ถือเป็นอีกโมเม้นต์นึงที่หาไม่ค่อยได้สักเท่าไร ซึ่งการท่องเที่ยวลักษณะแบบนี้กำลังมาค่อนข้างแรง แต่พอเจอโควิทแล้ว ก็เลยกลับมาซบเซา อย่างไรก็ดี ถ้าหากเราอยากได้ประสบการณ์ใหม่ ที่ที่อื่นไม่สามารถให้เราได้ รีสอร์ทแห่งนี้ถือว่าตอบโจทย์เลยครับ การบริการค่อนข้างดี เพียงแค่พนักงานอาจจะเป็นคนในพื้นที่ การบริการอาจจะไม่ Perfect เหมือนเราไปพักโรงแรมหรูๆ หรือรีสอร์ทแพงๆ แต่มันก็ดีตรงที่ ทำให้คนในพื้นที่มีงานทำที่มากขึ้น และกระจายรายได้ ไปสู่ชุมชนได้มากขึ้นนั่นเอง
ปล. ที่พักไม่มี TV และ Wifi แต่ถ้าสัญญาณเน็ตละก็ มีทุกค่ายครับ
💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻
🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin
🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha
1 Like0 Comment
