หากพูดถึงหนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยมมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นจะต้องมี “การเติมไขมัน” ติดโผรวมอยู่ในลิสต์ด้วยอย่างแน่นอน เพราะไม่เพียงแค่ช่วยปรับรูปหน้าเท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มวอลุ่มให้หน้าอิ่มฟูและแลดูเด็กลงด้วย แต่ในข้อดีก็มีข้อจำกัดบางประการที่ทำให้หลายคนพับโปรเจกต์ที่จะเติมไขมันไว้ก่อน เนื่องจากไม่มีเวลาพักฟื้นนาน

ซึ่งปี 2025 ที่กำลังจะมาถึงนี้ มีการคาดการณ์ว่าพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความสนใจเกี่ยวกับการศัลยกรรมเสริมความงาม มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไป กล่าวคือผู้บริโภคอาจมองหาการศัลยกรรม หรือการทำหัตถการเสริมความงามที่ใช้เวลาพักฟื้นน้อย หรือสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เลยหลังทำ จึงเกิดคำถามว่า “การเติมไขมันในปี 2025 ยังน่าทำอยู่ไหม?” วันนี้ Wongnai Beauty จะพาทุกคนมาหาคำตอบไปพร้อมกันค่ะ
การเติมไขมันในอดีต : ความนิยมและปัญหาที่พบ

การเติมไขมัน (Fat Grafting) เคยเป็นหนึ่งในวิธีการเสริมความงามที่ได้รับความนิยม เนื่องจากช่วยเพิ่มวอลุ่มและฟื้นฟูผิวได้ดี การใช้ไขมันจากร่างกายของตัวเองช่วยลดความเสี่ยงจากอาการแพ้ อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีในอดีตยังมีข้อจำกัดหลายประการ เช่น
- อาการบวมมาก : หลังการเติมไขมัน ผู้รับบริการต้องใช้เวลานานกว่าจะฟื้นตัว
- อัตราการติดของไขมันต่ำ : ไขมันที่ฉีดอาจไม่ติดหรือสลายไปภายในไม่กี่เดือน
- การเกิดก้อนแข็ง : ไขมันที่ไม่สม่ำเสมออาจจับตัวเป็นก้อน ทำให้ผิวไม่เรียบเนียน
นวัตกรรมในปี 2025 : LipoCube
ในปี 2025 การเติมไขมันได้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยเทคโนโลยี LipoCube ที่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เคยพบในอดีต

LipoCube ทำงานอย่างไร?
LipoCube คืออุปกรณ์ที่ช่วยคัดกรองไขมันให้มีขนาดเล็กและสม่ำเสมอ พร้อมเพิ่มปริมาณ Stromal Vascular Fraction (SVF) ซึ่งเป็นเซลล์สำคัญที่ช่วยเพิ่มการติดของไขมันและฟื้นฟูผิว

คุณสมบัติของ LipoCube

- ตะแกรงคัดกรองไขมัน 3 ชั้น ทำให้ไขมันมีขนาดเล็กและสม่ำเสมอ
- กระตุ้นการสร้าง SVF ที่เข้มข้นมากกว่าเทคนิคเดิมถึง 3 เท่า
- ลดระยะเวลาการพักฟื้น ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยลดอาการบวมและช้ำ

SVF คืออะไร?

Stromal Vascular Fraction (SVF) คืออะไร?

Stromal Vascular Fraction (SVF) คือ เซลล์ที่ได้มาจากไขมันส่วนเกิน ซึ่งประกอบด้วยเซลล์ต้นกำเนิดไขมัน (Adipose Mesenchymal Stem Cells) และเซลล์ที่มีศักยภาพในการฟื้นฟูเซลล์เนื้อเยื่อต่าง ๆ โดยมีบทบาทสำคัญในการ
- เพิ่มอัตราการติดของไขมัน
- ฟื้นฟูผิว ลดเลือนริ้วรอย
- กระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่และเส้นเลือดในชั้นผิว

เติมไขมัน VS เติมสารเติมเต็ม : เลือกแบบไหนดี?
การตัดสินใจระหว่างการเติมไขมันและเติมสารเติมเต็ม ควรพิจารณาจากความต้องการส่วนตัวและลักษณะการใช้งาน

ข้อดีของการเติมไขมันด้วย LipoCube

- อัตราการติดของไขมันสูง : การใช้ SVF เพิ่มอัตราการติดของไขมันถึง 70 - 90%
- ผลลัพธ์ที่เรียบเนียน : ลดความเสี่ยงของการเกิดก้อนแข็งหรือผิวไม่สม่ำเสมอ
- ลดอาการบวมและช้ำ : การฟื้นตัวเร็วขึ้น ทำให้กลับมาทำกิจกรรมได้ไวกว่าเดิม
- ฟื้นฟูผิว : เซลล์ SVF ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ ลดริ้วรอย และเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
ข้อเสียที่ควรพิจารณา
- ค่าใช้จ่ายสูง : การใช้เทคโนโลยีใหม่มีต้นทุนที่สูงกว่า
- ต้องการความชำนาญของแพทย์ : การฉีดไขมันด้วย LipoCube ต้องใช้แพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
สรุป : เติมไขมันในปี 2025 คุ้มค่าหรือไม่?
ด้วยนวัตกรรม LipoCube การเติมไขมันในปี 2025 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมความงามที่ได้ผลลัพธ์ชัดเจนและยั่งยืน เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มอัตราการติดของไขมัน แต่ยังฟื้นฟูสภาพผิวและลดปัญหาที่เคยพบในอดีต อย่างไรก็ตามการตัดสินใจควรขึ้นอยู่กับคำปรึกษาของแพทย์เฉพาะทาง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด!

ทั้งหมดนี้เป็นข้อสรุปของคำถามที่ว่า “การเติมไขมันในปี 2025 ยังน่าทำอยู่ไหม?” สำหรับปี 2025 ใครมีแพลนจะเติมไขมันเพื่อปรับรูปหน้า หรือลดอายุผิวให้หน้าแลดูเด็กลง แนะนำให้เลือกคลินิกเสริมความงามที่น่าเชื่อถือ และที่สำคัญต้องดูแลโดยแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทาง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั่นเองค่ะ
.
นอกเหนือจากนี้สำหรับท่านที่สนใจเราได้รวบรวมสถานพยาลที่มี LIPOCUBE ให้บริการดังนี้
“ Amara Clinic ที่เดียวและที่แรกในประเทศไทย”
- โทร : 062-789-1999 สาขา รัชโยธิน กด1 สาขา ราชพฤกษ์ กด 2
- เว็บไซต์: https://bit.ly/407Xn4s
- LINE : https://lin.ee/r8dBxMY
- Facebook: https://bit.ly/3PdVxIU
- ที่ตั้ง : 1893/1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
- Redeker Aesthetics Zugerstrasse 51, 6330 Cham, Switzerland
- London Regenerative Institute Corinthia London Whitehall Place,London United Kingdom
- Maharis Clinic Barito II ,Kramat Pela Kebayoran Baru