- หน้าแรก
/
- น้ำพริกถั่วลิสง ร้าน Nusara - นุสรา
อาหารไทยกับคอนเซ็ปต์ Colorful Thai Cuisine ที่ครองอันดับ 3 ในเอเชีย“นุสรา (Nusara)” ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งที่ตั้งอยู่ในอาคารอนุรักษ์ย่านท่าเตียนนี้เป็นอีกหนึ่งร้านของเชฟต้น - ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ผู้พาร้าน Le Du ขึ้นคว้า 1 ดาวมิชลินติดต่อกันมาหลายปี และน้องชายคือคุณตาม - ชัยสิริ ทัศนาขจร ที่ดูแลเรื่องงานบริการและเครื่องดื่ม สำหรับปีนี้ร้านนุสราก็ได้รับคัดเลือกเป็นอันดับ 3 ใน Asia’s 50 Best Restaurants 2023 อีกทั้งยังได้รับการแนะนำไว้ใน Michelin Guide และเชลล์ชวนชิมอีกด้วย เมื่อผนวกเข้ากับการตกแต่งร้านที่สวยหรู อวดวิววัดโพธิ์ที่ประดับแสงไฟยามค่ำคืนจากหน้าต่างกระจกบานใหญ่ จึงทำให้ร้านนี้กลายเป็นหมุดหมายที่น่ามาลองมากๆค่ะ
❤ Concept
ชื่อของร้านนี้ตั้งขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงคุณยายนุสราผู้ปลูกฝังความรักในอาหารไทยให้กับเชฟต้นและคุณตามมาตั้งแต่ยังเด็ก คอนเซ็ปต์ของร้านจึงเป็นอาหารไทยโบราณที่แต่งแต้มรายละเอียดให้ประณีตและมีสีสัน แต่ยังคงรสชาติไทยๆไว้ครบถ้วน เมนูของร้านจะมีการปรับเปลี่ยนตามฤดูกาล ซึ่งสำหรับช่วงนี้ไปจนถึง 23 ธันวาคม 2023 จะเป็นชุดนี้ค่ะ
✅ Amuse Bouche
เชฟนำอาหารไทยจากภูมิภาคต่างๆมาพรีเซนต์ได้อย่างน่าสนุก เริ่มจากคำแรกคือหมูสับผัดสะตอรสเผ็ดจัดจ้านของทางใต้ที่นำมาใส่กระทงทองกรุบกรอบท็อปด้วยกุ้งโบตัน (Botan Ebi) เนื้อหวานฉ่ำเด้ง ต่อด้วย “แกงกระด้าง” อาหารพื้นเมืองของล้านนาที่ทำจากหนังหมูเคี่ยวจนข้นแล้วทิ้งไว้ในที่เย็นจนเป็นเจลาติน จัดเสิร์ฟมาในรูปแบบขนมครกที่มีปลากะพง กุ้ง และปลาหมึกผสมอยู่ในเนื้อเจลด้วย คำถัดมาเป็นลาบเหนือที่นำเนื้อวากิว (หรือหอยเชลล์ฮอกไกโด) มาปรุงรสด้วยเครื่องเทศกับดอกกระเทียมแล้วใส่ลงในกรวยแป้งทาร์ตกรอบๆที่ทำจากมะเขือเทศ ปิดท้ายด้วยปั้นสิบที่เนื้อแป้งนุ่มบาง ใส่ไข่ปลาคาเวียร์ล้นๆพูนๆ ราดด้วยน้ำแกงต้มโคล้งรสละมุน เป็นการเริ่มต้นมื้อนี้ได้อย่างดีเยี่ยมทีเดียว
✅ อาหารเรียกน้ำย่อย
➡️ ต้มส้มปลาอินทรีย์ - น้ำแกงต้มส้มปรุงรสกลมกล่อม แต่งเติมความเปรี้ยวสดชื่นด้วยฟองโฟมเมอแรงค์ที่ได้จากการตีไข่ขาวกับมะนาวสด ท็อปด้วยพริกสด หอมแดง เสิร์ฟแบบเย็นๆเคียงกับชิ้นปลาอินทรีย์รมควันรสเค็ม ทานพร้อมๆกันในคำเดียวคือลงตัวเลย
➡️ ยำปลาหมึก - ปลาหมึกหอมแล่เป็นแผ่นบางเชี้ยบ เนื้อนุ่มมาก วางคลุมมาบนแตงกวาและมะเขือเทศแอร์ลูมหลากสีหั่นเต๋า แช่น้ำยำที่หอมน้ำปลา รสชาติเค็มแทรกหวานสมดุลกันดี เวลาทานให้ตลบแผ่นปลาหมึกห่อเครื่องไว้เหมือนข้าวเกรียบปากหม้อ เพื่อให้ได้รับรสของทุกองค์ประกอบในคำเดียว
➡️ พล่าลูกรอก – ใช้ลูกรอกที่ทางร้านทำเองจากไส้หมูและเต้าหู้สด วางมาบนพล่าถั่วพู ท็อปด้วยหอมเจียวกรอบๆและลูก gooseberry เปรี้ยวๆ ค่ะ
➡️ แกงปูใบชะพลูกรอบ - เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของที่นี่เลย เนื้อปูก้อนเคล้ากับเครื่องแกงหอมขมิ้นรสเผ็ดร้อน เสิร์ฟมาบนแผ่นใบชะพลูทอดกรอบ โรยไข่แมงดากรุบๆมันๆ อร่อยน้ำตาจิไหล
➡️ ยำเอ็นหอย - ใช้เนื้อหอยเชลล์ฮอกไกโด ผ่าครึ่งแล้วซ่อนไข่ปลาริวกิวเม็ดเต่งๆที่สุกกำลังดีขบปุ๊บแตกโพล๊ะในปาก ยำกับน้ำผิวมะกรูดหอมๆ เสิร์ฟคู่กับซุปข้าวโพดใส่ไข่แดงเค็มที่เชฟทำเองจากไข่เป็ดรสควันด้วยไม้สน รสนุ่มละมุนลิ้น ทานเพลินจริงๆ
➡️ ต้มข่าปลาสลิด – น้ำแกงของต้มข่าใช้หัวกะทิข้นๆ ใส่เห็ด แล้วปรุงรสเปรี้ยวเค็มกลมกล่อมแทรกรสเผ็ดจากพริกขี้หนูสวน เวลาเสิร์ฟจะนำน้ำซุปมาเทลงบนเนื้อกั้งกระดานจากจังหวัดตราดที่ย่างมาจนหอมและปลาสลิดที่ซุยเนื้อทอดจนกรอบฟู โรยพริกแห้งที่ซอยเป็นเส้นบางๆจนดูคล้ายหญ้าฝรั่น เพิ่มความเผ็ดร้อนบางๆช่วยชูรสให้อร่อยขึ้นอีก ชอบค่ะ
✅ อาหารจานหลัก
คอร์สนี้เสิร์ฟมาเป็นกับข้าวจานย่อมๆหลายๆอย่าง ทานพร้อมข้าวหอมมะลิที่มีให้เลือกทั้งข้าวขาวและข้าวกล้อง หุงกับน้ำลอยดอกมะลิให้หอมกรุ่นขึ้นไปอีก และยังมีน้ำปลาพริกสูตรของทางร้านเสิร์ฟมาไว้เผื่อให้ปรุงรสเพิ่มได้อีกด้วย
➡️ น้ำพริกถั่วลิสง – เป็นน้ำพริกสูตรโบราณที่ปรุงรสด้วยน้ำเคยดี ใส่เครื่องน้ำพริกทั้งหอม กระเทียม กุ้งแห้ง ชูรสถั่วลิสงคั่วบดหยาบกรอบๆหอมๆได้เป๊ะปัง ทานคู่กับผักสดกรอบทานเพลินดีมากๆ
➡️ กุ้งแม่น้ำย่างซอสซาเตี๊ยะ – ใช้กุ้งแม่น้ำตัวอวบเนื้อแน่นๆ ปรุงด้วยซอสซาเตี๊ยะหวานๆ ทานกับสับปะรดย่างชิ้นโตหั่นเป็นแว่น ตรงกลางคว้านแล้วใส่ซอสมันกุ้ง เคียงด้วยกระเทียมและหอมแดงที่ทำมาในรูปแบบครีม puree เนื้อนุ่มๆทานง่ายดีค่ะ
➡️ แกงเขียวหวานไก่รมควันสูตรโบราณ – รสชาติคือแกงเขียวหวานแบบดั้งเดิม แต่เพิ่มเติมลูกเล่นด้วยการนำเนื้อไก่ไปรมควันเพิ่มความหอมให้มีมิติมากขึ้น แล้วจัดวางมาบนแผ่นเลือดไก่ที่ซ่อนอยู่ใต้น้ำแกงแบบสวยๆค่ะ
➡️ ซี่โครงหมู/เนื้อ ซอสกะเพราแดง – เมนูนี้จะใช้เนื้อวากิวไทยส่วน short ribs แต่สำหรับคนไม่ทานเนื้อเชฟจะใช้เป็นซี่โครงหมูแทน โดยจะนำเนื้อซี่โครงไปซูวีด์จนนุ่มแล้วรมควันด้วยไม้สน หั่นชิ้นหนาๆสวยๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับผัดกะเพราเนื้อ/หมูสับ เพื่อให้ได้รสสัมผัสทั้ง 2 แบบ ส่วนเครื่องปรุงจะใช้พริกถึง 3 ชนิดด้วยกัน คือพริกเสฉวน พริกขี้หนู และพริกแห้ง เผ็ดร้อนจัดจ้านถึงใจเลยทีเดียว
➡️ ซุปเนื้อหรือปลา – เป็นซุปใส consommé รสละมุน ช่วยตัดรสจัดจ้านของอาหารจานอื่นๆได้อย่างลงตัว
✅ ของหวาน
➡️ ไอศกรีมฝรั่งชมพูพันธุ์ทิพย์ซอสกระเจี๊ยบ – เมนูนี้นำ sour cream แช่แข็งมาเสิร์ฟกับซอสกระเจี๊ยบและไอศกรีม sorbet รสฝรั่งชมพูพันธุ์ทิพย์เนื้อเนียนนุ่ม รสชาติโดยรวมคือเปรี้ยวนำ ไม่หวานจัด ท็อปด้วยแผ่นเมอแรงค์บางกรอบ ตกแต่งด้วยกลีบกุหลาบ อร่อยสดชื่นมากๆเลยล่ะค่ะ
➡️ สาคูมะพร้าวอ่อน – เป็นเมนูที่ได้รับคัดเลือกให้เสิร์ฟในชั้น Business Class ของ Qatar Airway ใช้สาคูแท้ต้มกับน้ำมะพร้าว เสิร์ฟกับเนื้อมะพร้าวอ่อน เผือกต้มหั่นเต๋า ไอศกรีมน้ำตาลมะพร้าวหอมๆ หัวกะทิ แล้วท็อปด้วยเกาลัดที่ฝานเป็นแผ่นบางอบกรอบๆ อร่อยเด็ดจริงสมกับที่เป็นเมนูแนะนำค่ะ
✅ Petit Fours
ของหวานชิ้นขนาดพอดีคำที่เสิร์ฟมาพร้อมๆกันในคราวเดียว มีทั้งกล้วยทอด / แซนด์วิชไอศกรีมสับปะรดที่เหมือนเป็นคุ้กกี้สอดไส้ไอศกรีม / วุ้นมะพร้าวอ่อน / ขนมชั้นใบเตย / และโฮมเมดช็อกโกแลตสอดไส้เนยถั่วและเสาวรส โดยไส้ข้างในช็อกโกแลตนี่จะเย็นๆเหมือนไอศกรีมเลย ได้รสเปรี้ยวและกลิ่นหอมของเสาวรสชัดเจนค่ะ
✅ ผลไม้
ปิดท้ายด้วยผลไม้สดตามฤดูกาล เสิร์ฟพร้อมพริกกับเกลือที่ใส่ผงบ๊วยและมีความฉ่ำคล้ายน้ำปลาหวาน เป็นการจบมื้อนี้ลงแบบสดชื่นค่ะ
🍫 ก่อนกลับ ทางร้านยังมีของที่ระลึกแจกอีกด้วย เป็น Dark Chocolate 80% จากจังหวัดจันทบุรี รสชาติเข้มข้น แพ็กเกจก็สวยหรูดูดีมากเลยล่ะ
💸 ราคา : 5,990 ++ บาท
🙏 Special Thanks: มื้อนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม Wongnai Tasting ที่ทาง Wongnai จัดให้สมาชิกได้มาสังสรรค์กัน ต้องขอขอบคุณทาง Wongnai และทีมงานที่มาช่วยดูแลไว้ ณ.ที่นี้ด้วยค่ะ
13 Likes0 Comment
