- หน้าแรก
/
- รูป Mighty Private Dining


บรรยากาศ
ที่สุดแห่งความเป็นส่วนตัว ที่ Mighty Private DiningMighty Private Dining
.
..
ครั้งนี้ก็ได้มาเปิดประสบการณ์มื้อพิเศษแบบส่วนตัวกับทาง Wongnai อีกครั้งกับกิจกรรม Wongnai Chef’s Table ประจำปี 2018 ครั้งที่ 3 ที่ร้าน Mighty Private Dining รับประทานอาหารสไตล์ Fine Dining แบบ Exclusive ร้านนี้ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง สุขุมวิท 49 แยก 14 (ซอยประเสริฐสิทธิ)
.
ทางร้านจะรับลูกค้าเพียง 2 รอบ คือ ช่วงเวลามื้อเช้า และมื้อเย็น โดยแต่ละรอบที่รับจอง จะจำกัดจำนวนคนไม่เกิน 12 คนเท่านั้น เป็นแบบ Private Room ทำครัวแบบเปิดสามารถมองเห็นบรรยากาศการทำอาหารดูน่าตื่นตาตื่นใจทีเดียวค้าบ โดยเมนูของทางร้านจะเปลี่ยนตามฤดูกาล ทางร้านจะไม่ได้กำหนดสไตล์ไว้ชัดเจน แต่เน้นการใช้วัตถุดิบคุณภาพดีมาทำอาหาร
.
นอกจากความไพรเวทแล้ว ทางร้านยังแบ่งพื้นที่ของร้านเป็น 3 โซน ได้แก่ ห้อง Maximus Five เป็นห้องซิการ์ ตกแต่งอย่างหรูหรา มีตู้ใส่ซิการ์ทองคำสุดแรร์ นั่งชิลฟังเพลง จิบแชมเปญ/ วิสกี้ สูบซิการ์ทองคำ ราคาเริ่มต้น 4หมื่นบาทเองเองเองงง โซนถัดมาเป็นโซน Private Dining ตกแต่งสไตล์โคโลเนียล เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งเป็นของแอนทีค ที่เจ้าของร้านสะสมไว้ เป็นห้องที่เราได้มาสัมผัสประสบการณ์ในครั้งนี้ และโซนสุดท้ายเป็นโซน Delivery and Catering เป็นส่วนของการจัดเลี้ยงแบบ outdoor (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง)
.
และ Private Dinner ครั้งนี้มีด้วยกันทั้งหมด 6 คอร์สค้าบ
เริ่มต้นเบาๆ ด้วยขนมปังกรอบชิ้นกำลังดี ทาตับบดรสชาติเค็มนิดๆ อร่อยดีค้าบ และเสิร์ฟต่อด้วยขนมปัง มาทั้งตะกร้าเลยค้าบ
และจากนั้นก็เริ่มคอร์สแรก Entrée มีทั้งหมด 3 จาน อันได้แก่
- Premium selections of cold cut and cheese ก็จะเป็นโคลด์ คัท เสิร์ฟมา 2 ถาดใหญ่เลยค้าบ ถาดนึงเป็นพวกแฮม เป็นเนื้อหมูตัดเย็นทั้งหมด เสิร์ฟพร้อมองุ่นเขียว ลูกฟิก(มะเดื่อฝรั่ง) อาร์ติโชค ส่วนอีกถาดนึงจะเป็นพวกชีสต่างๆ เช่น ทรัฟเฟิลชีส วิสกี้ชีส เป็นต้น อันนี้ทานคู่กับขนมปัง หรือไวน์ก็ดีงาม
และถัดมาเป็นแซลมอน ที่จัดมาอย่างสวยงาม ทานคู่กับแผ่นแป้งบางกรอบ
- Grilled tiger prawn, mizuna salad with jalpeno dressing สลัดผักเสิร์ฟพร้อมกุ้งเนื้อแน่นเด้ง ด้านบนจะเป็นเผือกฝอยทอด ราดด้วยซอสรสเผ็ดนิดๆ อร่อยลงตัวเลยทีเดียวค้าบ
ต่อด้วย Soup : Lobster Bisque เป็นซุปล็อปสเตอร์ กลิ่นหอมอบอวลทีเดียว มีความข้น เสิร์ฟพร้อมกรูตองที่มีส่วนผสมของมันกุ้ง
และก็มาถึง First Course : Raivoli seasonal mushrooms with porcini cream sauce พาสต้าแป้งราวิโอลีทำประกบแบบเกี๊ยว ด้านในเป็นเห็ดตามฤดูกาล แล้วราดด้วยครีมซอสเห็ดพาร์ชินี่ แป้งนุ่มหนึบ ตัวไส้เข้ากันดีกับซอส ละมุนลิ้นค้าบ
ตามด้วย Second Course : Seafood Risotto ริซอตโตซีฟู้ด ตัวข้าวเม็ดอวบมีความหนุบ ด้านบนตกแต่งด้วยกุ้ง หอยเชลล์ และปลาหมึก
และก็มาถึง Main Course อันนี้จะมีให้เลือกระหว่าง เนื้อ กับ ปลา
- Grilled wild sea bass, cauliflower puree, lotus root chips and caramelized grapes in beurre noisette sauce เป็นปลาเนื้อกะพงเนื้อแน่นๆ ย่างมาได้ดีเลยค้าบ หนังกรอบนิดๆ ราดด้วยซอสสไตล์ฝรั่งเศส มีส่วนผสมของมันกุ้งด้วย เสิร์ฟมาอย่างสวยงามดูดีน่าทาน และรสชาติก็ดีค้าบ
- Grilled Australian tenderloin, garlic potato puree, sautéed spinach with bordelaise sauce เมนูนี้ไม่ได้ทานค้าบ ถ่ายรูปอย่างเดียวค้าบ เพราะไม่ทานเนื้อวัว แต่หน้าตาดีมากเลยค้าบ
และจบด้วย Dessert : Passionfruit curd, coconut crumble with deep-fried sweet pastry เป็นเคิร์ดเสาวรสกับครัมเบิลมะพร้าว ด้านบนเป็นเพสทรีกรอบแผ่นบางโรยไอซ์ซิ่ง ตกแต่งด้วยดอกไม้น่ารักและทานได้ด้วยรสชาติเปรี้ยวอมหวาน จบคอร์สอย่างสวยงามค้าบ
.
ก็ถือเป็น Private Dining ที่น่าจดจำอีกครั้งทั้งบรรยากาศ และรสชาติอาหาร ต้องขอขอบคุณวงในและสมาชิกที่ร่วมรับประทานอาหารในครั้งนี้ด้วยค้าบ
สำหรับการจองนั้น ต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3-5 วันนะค้าบ และยังสามารถรีเควสท์เมนูเพิ่มนอกจากเมนูที่ทางร้านมีให้เลือกอีกด้วย เพียงแค่แจ้งให้ทางร้านหาวัตถุดิบไว้ก่อน สำรองที่นั่งได้ที่เบอร์ 084-161-6496
20 Likes0 Comment
