4.8
4 เรตติ้ง (3 รีวิว)
ซูชิ฿฿฿฿฿
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 11:30
Sukiyabashi Jiro  สำนักงานใหญ่
ซูชิในตำนานของญี่ปุ่นที่ต้องทานให้ได้สักครั้งก่อน(จิโร่)ตายซูชิจิโร่ หรือ Sukiyabashi Jiro (เค้าว่ากันว่า แต่ไม่รู้ว่าเค้าไหนนะครับ จิโร่จะตื่นเช้าและเป็นคนเดินทางออกไปหาซื้อวัตถุดิบที่ตลาดปลาซึกิจิทุกๆเช้าด้วยตัวเอง) เป็นร้านซูชิ 3 ดาวมิชลีนที่อยู่ที่กินซ่า, โตเกียว (เค้าว่ากันว่า) จิโร่ โอโนะ จับ(หัดปั้น)ซูชิมาตั่งแต่เด็กๆและปัจจุบันเป็นซูชิเชฟที่ดีที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะได้พาประธานธิบดีบารัค โอบาม่าไปทานซูชิจิโร่และท่านโอบาม่าได้อวยฯไว้ว่า ซูชิที่ร้านนี้เป็นซูชิที่ดีที่สุดที่แกเคยทานมา ทำให้จากที่จองคิวไปทานยากแล้ว ยิ่งจองยากขึ้นไปอีกมากๆ...เลยอยากลองไปกินครับ การจอง จะไปทานข้าวที่ร้านนี้ได้นี่ใช้ความพยายามในการเรียนรู้และจองอยู่ 1 ปีเต็มเพราะคนที่ไม่ใช่คนญี่ปุ่นไม่สามารถทำการจองเองได้ จะต้องให้คนญี่ปุ่นเป็นผู้ทำการจองให้ และคิวการจองจะเต็มล่วงหน้าค่อนข้างนาน (เคสตอนผมพยายามจองปีแรกๆเต็มล่วงหน้า 3 เดือนครับ) โดยผมขอให้ทั้ง เพื่อน(คนยุโรปที่อยู่ที่ญี่ปุ่นแต่มีแฟนเป็นคนญี่ปุ่น), บริษัทคู่ค้าที่ญี่ปุ่น และ โรงแรมช่วยพยายามจองให้ ***การจะไปทานร้านอาหาร Michelin Stars ที่ญี่ปุ่น (ส่วนใหญ่) จะต้องให้คนญี่ปุ่นหรือโรงแรมเป็นคนจองให้นะครับ*** ผลที่ได้คือ เพื่อนบอกว่าทางร้านจะไม่เปิดรับจองล่วงหน้าเกิน 3 เดือน (อ้าวแล้วเต็ม 3 เดือนคือระ?...) และให้ลองโทรมาจองดูทุกๆอาทิตย์, บริษัทคู่ค้าบอกแบบเดียวกันและโรงแรมเงียบจนกระทั่งทางโรงแรมอีเมล์มาแจ้งว่าจองร้านได้แต่ต้องเป็นวันและเวลาตามที่ทางร้านยังมีที่ว่างอยู่ ตำแหน่งร้านและการเดินทาง อยู่ในย่าน Ginza 4 Chome-4-2-15 Ginza, Chuo, Tokyo 104-0061, Japan (เวลาค้นหาโดย google map ให้ใช้คำว่า Sukiyabashi Jiro) จริงๆจากที่พักของผมสามารถนั่งรถไฟมาได้แค่สถานีเดียว แต่เนื่องจากเวลาค่อนข้างกระชั้นชิดและทางผู้จองให้แจ้งและย้ำมาหลายครั้งว่าอย่าไปสายเกินเวลานัด เลยเดินทางไปด้วยแท็กซี่จากโรงแรมครับ เมนูอาหารและอาหาร เมนูจะเป็น Omakase (โอมากาเสะ) หรือขึ้นอยู่กับเชฟว่าจะทำอะไรให้เราทาน (คิดว่าขึ้นอยู่กับความสดและวัตถุดิบว่าทางเชฟหาอะไรมาได้ในแต่ละวันครับ, คิดว่าถ้าเป็นร้านที่ทำ Omakase แล้วเมนูในแต่ละวันคงไม่ได้แตกต่างกันมาก อาจจะมี 1-2 อย่างที่หาของสดหรือวัตถุดิบไม่ได้) มีทั้งหมดประมาณ 19 คำ (รวมไข่หวาน) แต่ไม่รวมเมล่อน โดยไล่ตั่งแต่ปลาเนื้อขาวหรือปลาที่มีรสชาติอ่อนไปจนถึงปลาเนื้อแดงหรือปลาที่มีรสชาติเข้ม ที่อร่อยสุดๆคือเมล่อนครับ โดยเมล่อนที่เสิร์ฟที่ ซูชิจิโร่ (และหลายๆร้านในญี่ปุ่น) จะไม่เอาเยื่อตรงกลางของเมล่อนออก ทำให้เนื้อเมล่อนที่ทานหวานและฉ่ำมากๆครับ (ฟินสุดๆ) การแพ้อาหาร หากเราแพ้อาหารประเภทไหนให้แจ้งผู้ทำการจองให้เราด้วยว่าให้แจ้งทางร้านด้วย (ในกรณีของผมแพ้กุ้งและปู และแจ้งให้ทางโรงแรมแจ้งทางร้านไปแล้ว ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าเค้าคงเปลี่ยนเป็นซูชิแบบอื่นหรือทำเมนูพิเศษให้เราครับ แต่ชีวิตจริงที่เจอก็คือทางร้านแค่ไม่ทำซูชิที่เราแพ้ให้แค่นั้นเองครับ TT TT ราคาต่อคน ค่าเสียหายตกอยู่ที่ประมาณคนละ ¥30,000.00 (ประมาณ 9,000.00 บาทต่อคน) รวมทั้งหมดไปสองคนประมาณ ¥60,000.00 หรือเกือบๆ 2 หมื่นบาท อื่นๆ ทางร้านห้ามถ่ายรูปในร้านนะครับ แต่สามารถถ่ายรูปหน้าร้าน, ถ่ายรูปซูชิและถ่ายรูปกับจิโร่ที่หน้าร้านได้ เห็นมีหลายๆท่านบ่นกันมาค่อนข้างเยอะว่าทางร้านปั้นซูชิมาให้แบบเร่ง/เร็วมากๆ 19 คำซูชิแบบเร็วๆก็ถือว่าทำให้จุกได้อยู่เหมือนกัน โดยส่วนตัว ไปทานอาหารร้าน Michelin Stars มาหลายร้านแล้ว แต่ Sukiyabashi Jiro นี่เป็นร้านที่เกร็งที่สุดแล้วครับ กินแบบเกร็งๆ กินไปเกร็งไป... สรุป สรุปคือถ้าจะให้กลับไปทานอีกคงไม่...เพราะเงินหมด...เอ่อ เพราะส่วนตัวคิดว่าไม่ได้มีอะไรพิเศษกว่าร้าน Michelin stars อื่นๆทั้งในด้านของรสชาติอาหารและความแปลกใหม่เปรียบเทียบกับร้าน ลองสักครั้งในชีวิตก็ดีครับ ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตและได้ถ่ายรูปกับจิโร่ซังครับ... อ่านต่อ
2 Likes0 Comment
photo