3.5
6 เรตติ้ง (6 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 11:00
Papa Mama kitchen
บรรยากาศในร้านกับข้อความเท่ห์ๆ
็Homemade Food that Takes Your Breath Away...เพราะอิ่มจนหายใจม่ายออกร้านนี้จะมี concept ประมาณว่าอยากให้ลูกค้าได้ทานอาหารที่เหมือนกับคุณพ่อคุณแม่ทำให้ทานที่บ้านน่ะค่ะ โดยมีจุดขายที่ถูกใจเรามากก็คืออาหารของเค้าจะไม่ใส่ผงชูรส ราคาอาหารและวัตถุดิบจะอยู่ในระดับปานกลาง คือไม่ถึงขนาดแพงเชี้ยบ วัตถุดิบ import แบบร้านในห้างหรูหรือร้านอาหารอิตาเลี่ยนโดยเฉพาะ แต่ก็ใช้ของดีกว่าร้านอาหารตามสั่งทั่วไปและมีปริมาณและคุณภาพคุ้มกับราคาค่ะ ที่ตั้งของร้านจะอยู่ในซอยหน้าเตาปูนแมนชั่น ถ้าเข้ามาจากทางด้านถนนเตชะวณิชร้านจะอยู่ซ้ายมือ มีที่จอดรถสาธารณะอยู่ขวามือเยื้องกับตัวร้านเล็กน้อยค่ะ สำหรับคนที่ไม่เอารถมาหน้าปากซอยจะมีป้ายรถเมล์พอดี มีรถผ่านหลายสายอยู่ สะดวกค่ะ บรรยากาศภายในร้านจะเป็นแบบเรียบง่าย นั่งสบาย ที่ฝาผนังมีข้อความเท่ๆฝากไว้ด้วยล่ะ น่ารักดีค่ะ อาหารที่เคยลองก็มี: -สเต็กหมูพริกไทยดำ (89 บาท : ความคุ้มค่ากับราคา 5/5 : รสชาติ 4/5) จานนี้หมูมาแบบชิ้นใหญ่มากกก... มีสลัดราดน้ำสลัดแบบครีมกับมันฝรั่งทอดแกล้มมาด้วย ชอบที่มันฝรั่งทอดเป็นแบบชิ้นหนา ทำให้ถึงตอนหลังจะเย็นลงแล้วก็ไม่เหี่ยวน่ะค่ะ น้ำราดสเต็กรสชาติดีใช้ได้ แต่หมูแอบแข็งตรงขอบๆค่ะ เข้าใจว่าเป็นเพราะหมูชิ้นใหญ่มากนี่แหละทำให้หาจุดที่พอดียาก คือถ้าไม่สุกจนขอบแห้งแข็งไป ตรงกลางก็อาจจะดิบไปไรงี้ อันนี้เห็นบางร้านแก้โดยเอาค้อนทุบชิ้นหมูมันดื้อๆเลยก่อนทอด หรือบางทีการหมักหมูอาจจะช่วยได้นะคะ แต่สำหรับเราแก้ปัญหาง่ายๆโดยการตัดขอบทิ้งแล้วกินแต่ตรงกลางที่มันสุกนุ่มหน่อยอ่ะ เพราะหมูมันชิ้นใหญ่จนยังไงเราก็กินไม่หมดอยู่แล้ว (นี่ถ้าเป็นอาหารที่คุณแม่ทำให้กินจริงๆมีหวังโดนตี..555+) -สเต็กปลาดอรี่ย่าง (89 บาท : ความคุ้มค่ากับราคา 4/5 : รสชาติ 3/5) จานนี้เครื่องเคียงเหมือนสเต็กหมูค่ะ ที่จริงส่วนตัวแล้วคิดว่า texture ของปลาดอรี่เหมาะกับการชุบเกล็ดขนมปังทอดมากกว่าการย่าง (แต่เค้าอาจจะมองว่ามันจะกลายเป็น fish&chips แทนสเต็กไปก็ได้มั้ง) แต่เมื่อย่างแล้วก็คาดว่ามันน่าจะมีซอส หรือน้ำราดอะไรสักอย่างมาด้วยอ่ะค่ะ (อย่างถ้าเป็นแซลมอนก็มักจะเป็นครีมซอสนะ) แต่อันนี้ทอดโรยพริกไทยมาหน่อยนึงแล้วก็มีมะนาวมาให้ซีกนึงแค่นั้น เดาเอาว่าเค้าคงกลัวซอสครีมจะทำให้เลี่ยนเพราะปลาดอรี่เนื้อมันอมน้ำมันง่าย แต่ถ้าเป็นซอสรสจัดหน่อยน่าจะโอเคนะคะ ดีกว่ามาแบบเปล่าๆทั้งชิ้นน่ะค่ะ -ซุปข้าวโพด (40 บาท : ความคุ้มค่ากับราคา 4/5 : รสชาติ 5/5) เนื้อข้าวโพดเยอะและหวาน เนื้อครีมซุปเข้มข้นกำลังดีไม่เลี่ยน อร่อยค่ะ ถ้าได้พริกไทยแบบบดสดๆจะยิ่งฟินกว่านี้นะเนี่ยยย.. -ปอเปี๊ยะแฮมชีส (50 บาท : ความคุ้มค่ากับราคา 5/5 : รสชาติ 4/5) เมนูนี้ก็อร่อยค่ะ ซอสจิ้มที่ให้มาเป็นแบบมายองเนสอมเปรี้ยวนิดๆ ไม่ทำให้เลี่ยนมากอย่างที่กลัวนะ (แต่พอหลายชิ้นเข้าก็มีบ้างค่ะ) -สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน (69 บาท : ความคุ้มค่ากับราคา 5/5 : รสชาติ 3/5) เมนูนี้ข้อดีเราสามารถเลือกเนื้อเองได้ว่าจะเอาหมู ไก่ หรือกุ้ง เพราะเค้าทำแกงเปล่าๆไว้ก่อนแล้วใส่เนื้อให้ตอนจะเสิร์ฟ แต่คงเป็นเพราะแบบนี้ที่ทำให้รู้สึกว่าถึงเครื่องแกงจะจัดจ้าน (หนักไปทางเผ็ด) แต่เหมือนขาดรสชาติอะไรไปสักอย่าง คือพูดง่ายๆว่ามันไม่เข้าเนื้อเหมือนแกงเขียวหวานที่ใส่เนื้อลงไปตั้งแต่ต้นน่ะค่ะ แต่ต้องยอมรับว่าเนื้อไก่ที่ใส่มาให้เยอะอลังการมาก แถมเป็นเนื้ออกอย่างดีล้วนๆไม่มีหนัง เอ็น เลือด กระดูก ปนมาให้รำคาญใจใดๆทั้งสิ้น เทียบกับราคาแล้วคุ้มสุดๆค่ะ -เพนเน่ โบลองเนส ( 94 บาท : ความคุ้มค่ากับราคา 4.5/5 : รสชาติ 4/5) ซอสโบลองเนสของที่นี่ถือว่าทำเป็นทีเดียวค่ะ มีเนื้อมะเขือเทศเคี่ยวมาด้วย ไม่ได้ใช้แค่ซอสมะเขือเทศมาใส่หมูผัดๆเอาแบบร้านบ้านๆนะเอ้อ.. จุดที่ถูกใจเรามากคือเป็นโบลองเนสหมูล้วนนี่ล่ะ คนไม่กินเนื้อวัวเลยแฮปปี้ (ถ้าเป็นพวกร้านหรูๆที่ทำตามสูตรเป๊ะจริงๆมักจะใช้เนื้อหมูบดผสมกับเนื้อวัวน่ะค่ะ) แต่อยากได้เนื้อหมูเยอะกว่านี้นิดนึงอ่าาา... -บราวนี่ไอศกรีม (50 บาท : ความคุ้มค่ากับราคา 5/5 : รสชาติ 2.5/5) เมนูนี้ไอศกรีมที่ให้มาจะธรรมดาๆค่ะ ตัวบราวนี่เป็นแบบใส่ช็อคโกแลตเข้มข้นเนื้อหนักแน่นมาก ปัญหาคือ... บราวนี่มันเย็นอ่ะค่ะ เสิร์ฟมาทั้งเย็นๆเลย อาจเป็นเพราะกลัวเสียเลยแช่ตู้เย็นไว้ แต่ทีนี้เวลาเสริฟ์ไม่ได้อุ่นนี่สิคะ ยิ่งพอเนื้อบราวนี่เป็นแบบเนื้อแน่นเลยทำให้รู้สึกกระด้าง จุดที่ชอบของจานนี้คือ serving size ที่ให้มาแบบกินคนเดียวได้กำลังดีค่ะ ถ้าอุ่นบราวนี่ก่อนเสิร์ฟสักนิดน่าจะดีมากๆเลย... อ่านต่อ
33 Likes0 Comment
photo