3.9
94 เรตติ้ง (78 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในวันจันทร์ เวลา 10:30
เมนูของร้าน Chu Chocolate Bar & Cafe Sathorn
Pulled Pork Waffleไข่เยิ้มม
งานดีระดับ 10 ดาวกับอาหารนานาชาติถ้าหากว่าอยากจะหาร้านดินเนอร์ดีๆ หรือว่าหาร้านนั่งชิวๆ แต่ของกินหนักๆ หรือว่าจะมากันเป็นหมู่คณะแบบจัดหนักจัดเต็ม ผม Pednoii AhHa ขอนำเสนอร้านอาหารนานาชาติร้านเด็ดในย่านสีลม และสำหรับสัปดาห์นี้ขอนำเสนอร้าน “Chu” นั่นเอง ร้านนี้ตั้งอยู่ในย่านสีลม บริเวณโรงแรม Trinity ที่ทางเข้าเยอะแยะมากมายหลายทาง ร้านนี้จะมีเมนูอาหารหลักๆอยู่ 2 อย่างคือ ของคาว และของหวาน ส่วนเครื่องดื่มมีตั้งแต่กาแฟยันเบียร์หรือไวน์ ปกติร้านนี้จะเป็นร้านที่ชาวต่างชาติมาสถิตอยู่ค่อนข้างเยอะทั้งจากซีกโลกตะวันตกและตะวันออก ดังนั้นรสชาติอาหารจะออกไปทางจืดๆเค็มๆมันๆ ไม่มีรสเผ็ด ดังนั้นถ้าใครไม่ใช่สายอาหารจืดๆละก็ ผมไม่แนะนำครับ(แต่ผมชอบ 55+) เมนูที่เราจะมาจัดหนักกันวันนี้มีอะไรบ้าง มาดูกันเลยครับ 1. Blueberry Smoothie ราคา 130 บาท: เริ่มต้นกับเมนูน้ำๆ กับบลูเบอรี่สมู้ทตี้ ปั่นได้ละเอียดแทบไม่มีน้ำแข็งเหลือเป็นก้อนๆ รสชาติจะค่อนข้างบลูเบอรี่จ๋ากับออกหวานไปนิดครับ 2. Coconut Lemonade ราคา 110 บาท: น้ำมะพร้าวผสมน้ำเลมอน ให้กลิ่นหอมๆจากมะพร้าวแต่รสชาติโดนเลมอนกลบเยอะไปหน่อย ถ้าอยากทานชุ่มคอหรืออยากทานแบบฟิวชั่น เมนูนี้ไม่ควรพลาดครับ 3. Chorizo Quesadilla ราคา 150 บาท: อาหารสไตล์เม็กซิกัน แป้งตอร์ตียาแบบบางกรอบ สอดไส้ผัดหมูสับและเครื่องเทศ ทานกับมะเขือเทศสับ อร่อยเหอะเหมาะกับอาหารออเดิร์ฟครับ 4. Garlic Truffle Fries ราคา 150 บาท: เมนูเฟรนฟรายด์โรยด้วยกระเทียมผง และจิ้มกับมายองเนสที่ผสมกับเลมอน ได้ความเปรี้ยวจากมายองเนสและความหอมจากกระเทียมผง เมนูออเดิร์ฟอีกอย่างที่อร่อยและไม่ควรพลาดครับ 5. Pulled Pork Waffle ราคา 250 บาท: ถ้าหากว่าลองเอาหมูหยองมาผสมกับซอสศรีราชา วางบนวาฟเฟิลร้อนๆ ปิดท้ายด้วยไข่ลวกสไตล์ฝรั่ง หรือ Poached Egg (ไข่ขาวสุก ไข่แดงเหลวๆ)ราดซอส Jack Daniel’s BBQ เมนูหากินยากในเมืองไทย มาร้านนี้ไม่ทานไม่ได้ครับ รสชาติของหมูหยองเข้ากับตัววาฟเฟิลมากๆ และซอสศรีราชาช่วยเกิดความเข้ากันของสองอย่างนี้ครับ และไข่ก็เพิ่มความหวานให้เมนูของคาวนี้ด้วยครับ 6. Egg Benedict with Sloane’s Back Bacon ราคา 250 บาท: เมนูอาหารเช้าอเมริกันสุดคลาสสิกที่เกิดจากไข่ลวกสไตล์ฝรั่งหรือ Poached Egg วางบนเบคอนสไลด์และราดด้วยซอส Dijon Hollandaise ให้รสชาติที่หอมหวานและเข้ากันมากๆครับ เป็นเมนูที่หาร้านอาหารที่ทำเป็นเมนูหลักแบบนี้ยากมากครับ แนะนำเลยครับ 7. Smoked Salmon Salad ราคา 240 บาท: แซลมอนหั่นสไลด์บางวางอยู่บนสุด ด้านใต้จะเป็นสลัดผักที่ประกอบด้วยเรดโอ๊คและผัดกาดอื่นๆ และหอมแดงราดด้วยน้ำสลัดงาหอมๆ ให้รสชาติความเผ็ดจากหอมแดงสดๆ และความเค็มจากน้ำสลัด เหมาะกับการทานแก้เลี่ยนได้ดีเลยครับ 8. Sloane’s Grilled Sausages ราคา 150 บาท: เมนูทานเล่นอีกอย่างที่ออกไปทางหนัก ไส้กรอกย่างที่ให้ความรู้สึกเหมือนทานไส้อั่วแต่รสชาติไม่เผ็ด จิ้มกับซอสมัสตาดสูตรหอม และทานคู่กับผักดอง เข้ากันและลงตัว 9. Caramel Apple pork chop ราคา 350 บาท: มาถึงเมนูหลักกันบ้างกับ Pork chop ย่างได้กำลังดี แต่เนื้อออกจะเหนียวไปหน่อยครับ ประทับใจตรงน้ำซอสที่ช่วยให้ความหวานที่ตัดกับความเค็มจากเนื้อหมูได้อย่างดีครับ 10. Red wine beef stew ราคา 350 บาท: เมนูหลักอีกจานที่นำเนื้อวัวจากออสเตรเลียไปตุ๋นพร้อมกับแครอท ทานกับมันบดที่ใส่มาจัดหนักมากๆ เวลาทาน จะทานระหว่างเนื้อกับมันบด ได้รสชาติที่เค็มเบาๆเพราะว่ามันบดมาตัดรสชาติพอดี 11. Beer Sausage& Mash ราคา 300 บาท: เมนูหลักอีกจานที่ประกอบด้วยไส้กรอกย่างทาด้วยเบียร์เพื่อให้ไส้กรอกหอม ราดซอส Sloane’s Cumberland ที่ให้ความเค็ม ทานคู่กับมันบดผสมเชดด้าชีส ให้ความแตกต่างกับ Sloane’s Grilled Sausages ค่อนข้างมากครับ 12. Roast Chicken ราคา 320 บาท: หลังจากไส้กรอก หมู และเนื้อวัวแล้ว เมนูถัดไปจะเป็นเมนูขาไก่ย่างนุ่มๆ โรยด้วย Rosemary & Thyme เสิร์ฟคู่กับผักย่าง ไม่ว่าจะเป็นแครอท มะเขือยาวหั่นข้างบางและบร๊อกโคลี่ มันบด และปิดท้ายด้วยซอสที่ให้ความเค็มเข้ากับตัวเนื้อ และบีบเลมอนเพิ่มความเปรี้ยว 13. Amatriciana Pasta ราคา 220 บาท: เปลี่ยนจากเมนูหลัก มาเป็นเส้นพาสต้ากัน เมนูนี้ใส่ทั้ง เบคอน กระเทียม พริก และราดด้วยซอส Marina ให้ความเผ็ดและหอมๆ เค็มๆเบาๆ ครับ ถือเป็นเมนูที่เผ็ดที่สุดในร้านแล้ว แต่สำหรับผมแล้ว ผมว่าเฉยๆมากครับ 14. American Marshmallow ราคา 160 บาท: หลังจากจัดหนักกันไปเยอะแล้ว มาถึงตาของหวานกันบ้าง เริ่มต้นกันที่ Milk Chocolate เข้มๆ ทานกับมาร์ชเมลโล่ที่ดูดความร้อนเข้าไป เหมาะกับทานเป็นของว่างมากครับ 15. Panna Cotta: เมนูที่ไม่มีอยู่ในเมนู ถ้าสอบถามพนักงานจะทราบว่ามีเมนูนี้ด้วย รสชาติให้ความหวานและความหอมที่เข้ากันสุดๆ ไม่หวานและไม่เลี่ยนจนเกินไปครับ ราดด้วยซอสสตอเบอรี่และแปะแบรนด์ร้านด้วยครับ 16. Fresh Berries Pancakes ราคา 240 บาท: เริ่มจะอืดกันแล้ว แต่ยังไม่หยุดกับเมนูแพนเค้กโรยด้วยเบอรี่สดๆทั้งสตอเบอรี่และบลูเบอรี่ที่กัดแล้วน้ำในผลจะแตกออกมา ราดด้วยน้ำผึ้ง ความเปรี้ยวจากผลไม้ ความหวานจากน้ำผึ้งและความหอมของแพนเค้ก เมนู Signature ที่สุดของร้านครับ 17. Chocolate Lava ราคา 220 บาท: ปิดท้ายด้วยเมนู Signature อีกรายการกับเค้กชอกโกแลตลาวา ทานกับไอติมได้ 2 ลูก(สามารถเลือกได้) และวิปปิ้งครีม ประทับใจที่สุดกับเมนูนี้ครับ เพราะอะไรต้องไปลองกันครับ สรุปการรีวิวแบบจัดหนักกับร้านนี้ แทบจะหาที่ติไม่ได้และบริการก็ดีมากๆครับ ร้านนี้รับไปเลยครับ 5 ดาว ถ้าเพื่อนๆเห็นรีววนี้แล้วอย่าได้ช้า รีบไปร้านนี้เลยครับ... อ่านต่อ
40 Likes0 Comment
photo