- หน้าแรก
/
- รูป Jardin de Chaisri
เค้กที่มีให้เลือก 3 รส
หลีกหนีความวุ่นวาย มาพักจิบกาแฟในบรรยากาศบ้านทรงไทยในสวนร่มรื่นรอบบ่อน้ำ ใช้ชีวิตกึ่ง #slowlife @นครชัยศรี“Jardin de Chaisri” ชื่อร้านอ่านว่า “ฌาร์แด็ง เดอ ไชยศรี” แปลว่า “สวน ณ (นคร)ชัยศรี” โดยที่คำว่า Jardin เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า “สวน” นั่นเองครับ เอาเป็นว่าผมขอจบวิชาภาษาฝรั่งเศส 101 เพียงแค่นี้ มารีวิวเกี่ยวกับร้านนี้ดีกว่าครับ
สืบเนื่องจากผมกับครอบครัวพากันมาเที่ยวนอกเมืองสัมผัสธรรมชาติในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่อำเภอนครชัยศรี-จังหวัดนครปฐม และผมจำได้ว่าร้านกาแฟนี้อยู่ใน list ที่จดไว้เมื่อก่อนหน้านี้ครับว่าอยากมาลองสัมผัสดู เมื่อมีโอกาสมาเที่ยวที่นี่ก็ไม่พลาดตรงดิ่งมาร้านนี้เลยครับ
[ที่ตั้งร้าน:]
อยู่ทางเดียวกับถนนที่ตรงเข้ามาที่พิพิธภัณฑ์รถโบราณ ต.งิ้วลาย อ.นครชัยศรี หรือชื่อทางการคือ “เจษฎา เทคนิค มิวเซียม” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งที่น่าสนใจย่านชานเมืองครับ คือถ้าเคยมาเที่ยวที่นี่ร้านกาแฟนี้จะอยู่ในซอยเล็กๆฝั่งซ้ายมือของถนนที่จะตรงเข้ามาก่อนถึงเจษฎาเทคนิคฯเพียงเล็กน้อยครับ (ไม่ถึง 200 เมตรดีก่อนถึงพิพิธภัณฑ์) จุดสังเกตหนึ่งคือพอเราหักเลี้ยวเข้ามาตามถนนรองที่แยกออกจากถนนทล.ชบ.4006 (คือถ้าเลยตรงไปไม่แยกเข้ามาที่ถนนรองนี้จะตรงไปตลาดท่านา ตัวอำเภอนครชัยศรี ถ้าถึงตลาดที่ว่าแสดงว่าไปผิดแล้ว ให้ขับย้อนกลับมา) ตรงเข้ามาข้ามทางรถไฟ มาอีกหน่อยจะเป็นลานโล่งกว้างเก็บซากรถเก่า (คล้ายๆสุสานรถ) ตรงเลยมาอีกนิดเดียวจะเจอซอยทางเข้าร้านซึ่งจะมีป้ายบอกทางอยู่ด้านหน้าซอย (ให้สังเกตดีๆ) เลี้ยวตรงเข้ามาในซอยเล็กๆนี้ (รถสวนกันลำบาก) จะเจอร้านนี้อยู่บริเวณด้านหลังของลานเก็บซากรถที่เราผ่านมาด้านหน้าครับ หรือให้ app Wongnai นำทางมาได้เลย พิกัดถูกต้องครับ
[บรรยากาศร้าน:]
อ้างอิงจากความหมายของชื่อร้านนี้ทำให้พอคาดเดาได้ว่าสไตล์และบรรยากาศร้านนี้จะเป็นอย่างไรครับ ร้านนี้จะมีประตูทางเข้าสองทางครับ
• ประตูแรกคืออันแรกที่เราเจอเลยตอนขับเข้ามาในซอยเล็กๆด้านนี้เหมือนเป็นทางเข้าด้านหลังบ้านเค้ามากกว่า (ซึ่งผมไม่รู้อะไรมาครั้งแรกก็จอดตรงนี้แหละ) เดินเข้ามาก็เห็นความโอ่อ่าของสถานที่แล้วครับ ตกแต่งด้วยพวก hardscape สไตล์สวนบาหลี ต้องเดินข้ามอ้อมตามบ่อน้ำขนาดใหญ่ตรงกลางของอาณาเขตพื้นที่บ้านมาผ่านศาลาริมน้ำ เปิดประตูไม้เข้ามาเจอกับเรือนไทยโบราณขนาดใหญ่สุดอลังการงานสร้างครับ เดินตรงเข้ามาผ่านลานตรงกลางชานบ้านจะเจอชั้นล่างของเรือนไทยอีกฝั่งเปิดเป็น Coffee Station ขายเครื่องดื่มและขนมให้บริการ
• ประตูที่สอง เลยมาจากประตูแรกด้านบนมาอีกฝั่งของตัวเขตบ้าน ผมแนะนำว่าเอารถมาจอดที่ฝั่งนี้ดีกว่า มีลานจอดกว้างและสะดวกกว่าครับ และสามารถเดินตรงเข้ามาถึงตัวร้านกาแฟได้ใกล้กว่ามากครับ
ขอสรุปเกี่ยวกับภาพรวมบรรยากาศรอบๆร้านครับ ประมาณว่าเป็นบ้านพักตากอากาศส่วนตัวย่านชานเมือง โดยที่มีจุดเด่นคือบ้านเรือนทรงไทยประยุกต์ 2 หลังขนาดค่อนข้างใหญ่เชื่อมติดต่อกันด้วยทางเดินระเบียงด้านบนและชานใต้ถุน เรือน โดยเจ้าของที่ได้จัดแบ่งพื้นที่ใต้ถุนเรือนไทยฝั่งหนึ่งให้บริการเป็นร้านกาแฟพร้อมที่นั่งหนึ่งห้อง ส่วนเรือนไทยอีกฝั่งหนึ่งผมสังเกตเห็นเค้าใช้เป็นห้องทำงานศิลป์แบบไทยๆอย่างประดิษฐ์หุ่นละครหรืองานช่างศิลป์ไทยต่างๆครับ ด้านนอกรอบเรือนทรงไทยเป็นสวนสไตล์เมืองร้อนที่มีพืชทั้งไม้ยืนต้นและไม้พุ่มเหมาะกับอากาศบ้านเรา มีบ่อน้ำขนาดใหญ่ตรงกลางอาณาเขตพื้นที่โดยมีที่นั่งเป็นศาลาให้นั่งเล่นแบบชิลๆด้วยริมบ่อน้ำนี้ครับ
[เมนูเครื่องดื่มและขนมหวาน:]
เครื่องดื่มที่มีให้สั่งจะเน้นเป็นกาแฟสดแบบต่างๆเหมือนทั่วไป ร้อน/เย็น/ปั่น หรือพวกชาเน้นเป็นชาไทย (ชาดำ/ชาดำมะนาว/ชาใส่นม) ชาเขียวก็มี และพวกเครื่องดื่ม non-coffee อื่นๆอย่างโกโก้ น้ำผึ้งมะนาว(โซดา) หรืออิตาเลี่ยนโซดา ราคาเครื่องดื่มร้อนก็เริ่มที่ 65 บาท จนถึง 95 บาทเป็นพวกเครื่องดื่มปั่น ผมว่าราคาพวกเครื่องดื่มค่อนข้างสูงเหมือนกันแต่ยังไม่ถึงกับพวก coffeehouse เชนจากเมืองนอกครับ
ส่วนเมนูขนมหวานตอนที่ผมไปนั้นจะมีแต่พวกขนมเค้กซึ่งที่นี่เป็นแบบโฮมเมดครับ มีให้เลือกเพียง 3 รส คือ เค้กช็อกโกแลตหน้าสตรอเบอร์รี่สด เค้กชาไทย และเค้กส้ม ราคาเท่ากันชิ้นละ 120 บาท ราคาแอบสูงอยู่เหมือนกันแต่ไม่มากครับ
[เครื่องดื่มและขนมที่สั่งครั้งนี้:]
• คาราเมลลาเต้ร้อน (75 บาท) เหมือนกับลาเต้ร้อนแต่มีราดซอสคาราเมลเป็นลวดลายที่ด้านบนผิวเครื่องดื่ม กาแฟตัวนี้ผมเป็นคนสั่งมาดื่มเองครับ ปกติลาเต้รสชาติก็อ่อนกว่าอย่างอื่นอยู่แล้วครับ ดังนั้นสำหรับผมรู้สึกว่าถ้วยนี้กาแฟมันอ่อนไปอยู่และกลิ่นกาแฟไม่เด่นชัดมากนัก แต่ได้ความหอมมันของคาราเมลเข้าช่วยเสริมรสชาติแทน รู้สึกว่า steamed milk ที่เตรียมเทลงไปบน espresso น่าจะเตรียมมายังไม่ perfect เท่าไหร่ (อุณหภูมิ?) ความหวานมันของนมเลยไม่ถูกดึงมาเสริมนัก ส่วน Latte Art ที่เตรียมมาก็ใช้ได้ครับ สรุปสำหรับผมถ้วยนี้เมื่อเทียบกับราคาจริงๆถือว่ายังไม่โดนครับ
• คาปูชิโนเย็น (75 บาท) ผมได้ลองดื่มดูเล็กน้อย ผมว่ากาแฟน่าจะเข้มได้กว่านี้ครับสำหรับคาปูชิโน
• เค้กส้ม (120 บาท) ถือว่าเป็นไฮไลท์ของ coffee time สำหรับผมครั้งนี้เลย ดูจากหน้าตาเค้กภายนอกแล้วสวยงามดี ตกแต่งบนผิวเค้กด้านบนด้วยผลส้มฝานไม่มีเม็ดกับเปลือกส้มเชื่อมทานได้ทั้งชิ้น ส่วนเนื้อเค้กนุ่มละมุนเวลาทานดี ไม่มีฟองอากาศในชั้นเค้กให้เห็นแบบชัดเจน รสชาติเค้กส้มผมถือว่าไม่หวานมากไปเพราะได้ความเปรี้ยวของกลิ่นส้มช่วยให้ทานแล้วรู้สึกสดชื่น สรุปเค้กตัวนี้ผมชอบครับ อร่อยดี แนะนำ
สั่งน้ำเปล่าเพิ่มมาอีกขวดหนึ่ง 15 บาท ทั้งหมดค่าเสียหายครั้งนี้ 285 บาทครับ
สรุปจากที่ผมรีวิวข้างบนไปทั้งหมด ส่วนตัวผมที่ชอบทานกาแฟ ทานมาหลายร้านทั้งมีแบรนด์หรือร้านคาเฟ่ทั่วไป และเน้นรสเข้ม สำหรับที่นี่กาแฟอาจยังไม่โดนใจผมเท่าไหร่นัก น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบทานกาแฟรสอ่อนๆนุ่มๆมากกว่า แต่ครั้งนี้ที่มาผมกลับเทใจให้ขนมเค้กร้านนี้มากกว่า แนะนำลองสั่งมาทานคู่กับเครื่องดื่มที่ชอบตามถนัดครับ
การที่จะให้คะแนนรีวิวของร้านนี้ผมจึงขอให้เครดิตเกี่ยวกับบรรยากาศร้านนี้ซะมากกว่าครับที่ผมคิดว่าใครมาก็ต้องชอบแน่นอน ดูเงียบสงบ ปลอดโปร่ง สัมผัสธรรมชาติ สัมผัสความเป็นไทย คุ้มค่ากับเวลาและราคาเครื่องดื่มที่สั่งมา เป็นสถานที่ที่เหมาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์สำหรับมานั่งพักผ่อนใต้ร่มเงาไม้หรือนั่งพูดคุยกันหรือเป็นที่สงบสำหรับบรรเจิดไอเดียใหม่ๆหรืออ่านหนังสือที่ชอบ ผมขอให้ 4 ดาวครับ
ปล: ร้านเปิดเฉพาะช่วงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น 9:00 – 18:00
34 Likes0 Comment
