- หน้าแรก
/
- รูป Steve Cafe' & Cuisine in Town ซอยราชครู


หมูย่างตะไคร้พริกขี้หนูสด
Steve Café & Cuisine in Town สาขานี้ก็ยังทำให้ผมประทับใจอีกเช่นเคย ^^เมื่อปีที่แล้วผมได้รู้จักร้าน Steve Café & Cuisine ครั้งแรกเพราะผมและเพื่อนกำลังหัดถ่ายรูปวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาครับ ซึ่งครั้งนั้นก็ทำให้พวกผมประทับใจมากทั้งบรรยากาศริมแม่น้ำและอาหารไทยของทางร้าน หลังจากวันนั้นผมและเพื่อนๆก็นัดกันมาทานอาหารที่ร้าน Steve Café & Cuisine อีกหลายครั้ง และเมื่อเดือนที่แล้วผมได้ข่าวมาว่าทางร้านได้เปิดสาขาที่ 2 ในเมืองและใช้ชื่อว่า Steve Café & Cuisine in Town ผมจึงหาโอกาสตามมาทานที่สาขานี้และบอกต่อว่าสาขานี้เป็นอย่างไรนะครับ ^O^
ร้าน Steve Café & Cuisine in Town อยู่ในซอยอารีย์ 1 ถ้ามาทางถนนพหลโยธิน ให้เข้าซอยพหลโยธิน 5 ตรงเข้าจนสุดซอย แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนอารีย์ 1 ขับไป 10-15 เมตร ร้านอยู่ขวามือครับ ร้านอยู่ติดกับโรงเรียนสายบัว สามารถจอดในร้านได้ 5 คัน หรือ จอดรถริมถนนซอยอารีย์ 1 และ ซอยราชครูได้ครับ
ร้าน Steve Café & Cuisine in Town สาขานี้เป็นสาขาที่ 2 ครับ สาขาแรกบรรยากาศจะเป็นร้านอาหารริมแม่น้ำ ส่วนสาขานี้บรรยากาศจะเหมือนนั่งทานอาหารอยู่ในบ้านที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้ร่มรื่นครับ ร้านมีที่นั่งทานอาหารอยู่ 3 โซนครับ
.. โซนแรกจะเป็นห้องกระจกติดแอร์อยู่ริมถนนอารีย์ 1 โซนนี้จะอยู่ชั้นล่าง เหมาะสำหรับลูกค้าที่ชอบบรรยากาศริมถนนหรือลูกค้าที่สูงอายุไม่สะดวกจะเดินขึ้นบันไดครับ ตรงบริเวณกลางร้านจะมีต้นไม้อยู่ 1 ต้นซึ่งเป็นต้นซากุระครับ เห็นทางเจ้าของร้านบอกว่าช่วงเดือนเมษาจะมีดอกซากุระให้ได้ชมกันด้วยครับ ^^
... โซนที่ 2 ซึ่งเป็นโซนหลักจะอยู่ชั้น 2 ของอาคารด้านใน (ชั้นล่างเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น) โซนนี้มี 2 ชั้นอยู่ในห้องแอร์ พื้นที่โล่งๆ โต๊ะตั้งห่างกันพอสมควร รอบด้านเป็นผนังกระจก สามารถมองทะลุออกไปเห็นวิวต้นไม้ร่มรื่นรอบๆร้านครับ บรรยากาศเหมือนทานอาหารในบ้านสวนครับ
...โซนที่ 3 จะอยู่บนระเบียงด้านนอกอาคาร บรรยากาศแบบ Open air เหมาะกับการนั่งทานอาหารหรือเครื่องดื่มในช่วงฤดูหนาวนี้จริงๆเลย ^^ เย็นวันไหนอาหารเย็นๆ ลูกค้าจะเลือกนั่งที่โซนนี้ก่อนเลยครับ
ผมมีโอกาสได้พูดคุยและได้ข้อมูลจากทางเจ้าของร้านมาว่า อาหารของทางร้านจะเป็นอาหารไทยแท้ ถึงแม้ลูกค้าจะเป็นชาวต่างชาติกว่าครึ่งแต่ทางร้านก็ยังปรุงอาหารออกมาให้เป็นรสชาติไทยแท้ อาหารที่เผ็ดก็จะเผ็ดเหมือนที่คนไทยทานกันครับ ยกเว้นอาหารที่เผ็ดมากๆเช่นอาหารใต้ทางร้านจะลดความเผ็ดลงให้บ้างครับ นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารไทยประยุกต์ที่ทางร้านจะคิดค้นสูตรขึ้นโดยจะยังคงใช้วัตถุดิบหลักที่เป็นของอาหารไทยเป็นครับ
อาหารที่ทานครั้งนี้มี หมูย่างตะไคร้พริกขี้หนูสด 180 บาท , ก๋วยเตี๋ยวผัดพริกขิงปลากระพง 180 บาท , ส้มตำไหลบัวกุ้ง 140 บาท , แกงไตปลา 160 บาท และเครื่องดื่มเป็น มะนาวโซดา ครับ
... หมูย่างตะไคร้พริกขี้หนูสด : เมนูนี้เป็นเมนูที่นำไปออกรายการทีวีครับ ดูจากภายนอกอาจเรียกได้ส่าหมูพันตะไคร้นะครับ โดยหมูที่ใช้เป็นหมูสันในผสมกับพริกชี้ฟ้า, พริกขี้หนู, ตะไคร้หอมซอย และเครื่องปรุงอื่นๆสูตรเฉพาะทางร้าน น้ำมาปั่นรวมกันเป็นก้อนแล้วพันกับตะไคร้หอม หลังจากนั้นนำไปย่างด้วยไฟอ่อนๆ เสริฟพร้อมกับน้ำจิ้มมะขามแซ่บๆ เมนูนี้ทั้งหอมและอร่อยมากครับ แนะนำให้ลองครับ ^^
... ก๋วยเตี๋ยวผัดพริกขิงปลากระพง : เป็นเมนูประยุกต์อีกเมนูที่เผมไม่เคยทานที่ไหนมาก่อน ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ผัดกับพริกขิงและปลากระพง รสชาติจัดจ้าน เผ็ดกลางๆกำลังดี มีรสเปรี้ยวนิดๆ ชอบครับเมนูนี้
... ส้มตำไหลบัวกุ้ง : ตำมาอร่อยครับ รสกลมกล่อมเผ็ดกำลังดี ส้มตำจานนี้ใช้ไหลบัวแทนมะละกอครับ แปลกดี เวลาทานจะกรุบๆดี ชอบตรงที่ไหลบัวจะดูน้ำส้มตำเข้าไปข้างในทำให้แซ่บทุกคำเลยครับ ส่วนกุ้งและมะเขือสดดีครับ
... แกงไตปลา : เมนูนี้เป็นเมนูที่ผมทานน้อยที่สุดเพราะเผ็ดถึงเผ็ดมากครับ แรสจัดทีเดียว นี่ขนาดลดความเผ็ดลงให้แล้วนะครับ 555 ผมว่าคนใต้มาทานต้องชอบครับ ในชามมีทั้งกุ้งและปลาใส่มาเต็มๆครับ ถ้าชอบทางรสเผ็ดรสจัด ต้องสั่งเมนูนี้ครับ ^^"
... มะนาวโซดา : รสชาติมาตราฐาน ดื่มแล้วชื่นใจครับ
โดยรวมแล้ว สาขานี้ทำให้ผมประทับใจอีกแล้วครับ ทั้งบรรยากาศของร้าน การบริการ และรสชาติอาหารที่จัดจ้านแบบไทยๆครับ
48 Likes0 Comment


