- หน้าแรก
/
- Heavenly Mushroom ร้าน EST.33 By SINGHA The Up Rama 3


จะกินก็ได้ จะดื่มก็ดี ปาร์ตี้ก็โดน นึกถึงงานสังสรรค์พร้อมเบียร์ ร้านนี้แหละใช่เลยEST.33 By Singha ร้านนี้ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเน้นขายเบียร์เป็นเมนูหลักแน่ๆ ร้านนี้ชื่อร้านนั้นมีที่มาจากการเปิดร้านมากว่า 6 ปีครับ ซึ่งเป็นการเล่นคำ 3+3 นั่นเอง ซึ่งเป็นร้านอาหารที่มีการนำอาหารสไตล์ยุโรปมาผสมผสานกับเอเชียออกมาเป็นหลากหลายเมนูน่าลิ้มลอง พร้อมด้วยเครื่องดื่มที่มีเบียร์เป็นตัวชูโรง จนคว้ารางวัล Asia's Best Beer ประจำปี 2014 จา Travel & Leisure Magazine Gold Medal มาแล้วครับ
วันนี้ผมกับเพื่อนๆแก๊งค์ใหญ่ต้องการจะมาหาพื้นที่สังสรรค์กัน หาไปหามาก็มาลงเอยที่ร้านนี้แหละครับ เพราะมีทั้งเบียร์แล้วก็อาหารแถมยังส่งเสียงดังได้นิดหน่อย โทรไปจองก็มีที่สำหรับเกือบ 20 คนได้อีก ก็เลยมีโอกาสได้มาลองทานดูเลย อาหารของทางร้านนั้นมีเมนูให้เลือกหลากหลายมากครับ วันนี้มากันเยอะ ทานกันไปเกือบครบทุกเมนูของทางร้านเลย ซึ่งต้องบอกเลยว่าผิดคาดมากครับ อาหารทุกเมนูของทางร้านที่สั่งมานั้นอร่อยมาก อยู่ในเกณท์ดีถึงดีมากทุกเมนูเลย นอกจากอาหารจะดีแล้ว เมนูเบียร์ที่ทุกโต๊ะนั้นต้องสั่งมาทานนั้นก็เด็ดมาก เพราะมีหลากหลายรสชาติ อร่อยถูกใจทุกรสชาติเลยก็ว่าได้ด้วยครับ
[วิธีการเดินทาง]
ร้านนี้ตั้งอยู่ในโครงการ The Up พระราม 3 ครับ ร้านอยู่หัวมุมของโครงการฝั่งถนนพระราม 3 ตัดกับถนนนราธิวาสเลยครับ เข้ามาในโครงการแล้วเจอร้านนี้แน่ๆเพราะใหญ่สุด เด่นสุดด้านหน้าเลยครับ
การเดินทางมายังโครงการนี้นั้นก็ไม่ยากครับ สามารถขับรถมาได้เลย เพราะโครงการนั้นอยู่บนถนนนราธิวาสส่วนที่ตัดกับพระราม 3 ด้านในโครงการมีที่จอดรถมากมาย จอดฟรีด้วยครับ หรือถ้าใครสะดวกนั่งรถ BTS มาก็สามารถมาลงที่สถานีช่องนนทรี แล้วนั่ง BRT ต่อมาลงที่สถานีถนนจันทน์แล้วเดินนิดหน่อย หรือว่าจะนั่งแท็กซี่มาเลยก็ได้เช่นกันครับ ไม่ไกลครับ ถ้ารถไม่ติด 40 ถ้ารถติดก็อาจจะ 60 บาทครับ
[บรรยากาศ/การบริการ]
ร้านนี้เป็นร้านกินดื่ม บรรยากาศร้านนั้นก็ดูดีมากเช่นกันครับ ด้านในร้านรองรับลูกค้าได้เยอะมากทีเดียวครับ ขนาดผมมากันเยอะๆทางร้านก็ยังสามารถจัดให้นั่งทานด้วยกันได้เช่นกัน บรรยากาศด้านในอาจจะทึมๆไปหน่อย แต่ก็เหมาะกับการมาสังสรรค์และเมาได้เต็มที่ครับ ช่วงดึกๆหน่อยก็จะมีดนตรีสดมาเล่นให้เราฟังระหว่างทานอาหารด้วยครับ
ลูกค้าในร้านนี้นั้นค่อนข้างแน่นในทุกๆคืนเลยครับ โดยเฉพาะคืนวันศุกร์และเสาร์ ถ้าจะมาทานแนะนำว่าให้โทรมาจองที่ไว้ก่อนจะดีที่สุดครับ จะได้การันตีว่ามีที่นั่งแน่ๆ และที่นั่งด้านในๆบรรยากาศดีกว่าโซนด้านหน้าด้วยครับ การบริการของพนักงานในร้านนั้นก็ทำได้ดีเยี่ยมเช่นกันครับ แต่ละโซนนั้นก็จะมีพนักงานคอยดูแลให้บริการประจำเลยครับ มีอะไรก็เรียกใช้ได้ตลอด ขาดนั้นนี่วันที่ผมไปทานพนักงานก็มาบริการให้อย่างรวดเร็ว อาหารที่สั่งไปทั้งหมดก็ทยอยมาเสิร์ฟเรื่อยๆ ไม่ขาดตอนครับ
[รสชาติอาหาร/ความคุ้มค่า]
ร้านนี้เป็นร้านอาหารแนวยุโรปและเอเชียนที่มีเมนูหลากหลายมากๆมาให้เลือกสั่งทานกันครับ อาหารและเครื่องดื่มของทางร้านนั้นบอกเลยว่าหลายๆเมนูนั้นเกินคาดความอร่อยมาก โดยรวมแล้วถือว่าคาดหวังมาระดับนึง แต่ความประทับใจในรสชาติอาหารนั้นมากกว่าที่ตั้งความหวังไว้อีกด้วยครับ
Heavenly Mushroom (160 บาท)
- เมนูนี้เป็นเห็ดสวรรค์โรยข้าวมอลต์คั่ว ทางร้านเสิร์ฟเมนูนี้มาในกล่อง พอเปิดออกมาดูก็พบความน่าทานแบบสุดๆของตัวเห็ดทอดนี่จริงๆครับ ทางร้านนั้นนำเห็ดไปชุบแป้งแล้วทอดแบบ deep fried ก่อนที่จะนำมาคลุกเคล้าให้เข้ากันด้วยเกลือและข้าวมอลต์คั่ว ทำให้มีรสชาติเค็มๆนิดๆ มันๆหน่อย จะทานเปล่าๆก็ดี หรือจะขอซอสมะเขือเทศหรือซอสพริกมาทานก็อร่อยมากเช่นกันครับ (4/5)
Calamari Ring (230 บาท)
- เมนูนี้เป็นปลาหมึกวงทอดกรอบแบบ deep fried ก่อนที่จะนำมาคลุกเคล้าให้เข้ากันกับพริกกระเทียมสไตล์ไทยๆเลยครับ เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มครีม ปลาหมึกนั้นทอดมาใหม่ๆร้อนๆ เผ็ดๆเค็มๆ ทานเรียกน้ำย่อยก่อนอาหารจานหลักได้ดีมากๆครับ (5/5)
Salmon Carpaccio (330 บาท)
- เมนูนี้เป็นแซลมอนรมควันสไลด์ราดมาด้วยซอสยูสุครับ ตัวแซลมอนนั้นเสิร์ฟมาเนื้อแดงดีแท้ ซอสยุสุที่ราดมานั้นก็ออกรสเปรี้ยวนิดๆช่วยตัดกลิ่นคาวของแซลมอนได้ดีเลยทีเดียวครับ (4/5)
Baby Crispy Pizza Pork Kimchi (260 บาท)
- เมนูนี้เป็นเมนูพิซซ่าไซส์มินิ ความพิเศษก็คือแป้งพิซซ่านั้นเป็นแป้งโรตีกรอบ หน้าพิซซ่านั้นผมก็เลือกเป็นหมูกิมจิ ทางร้านนำพิซซ่าไปอบออกมาได้กรอบอร่อยถูกใจ หน้าหมูทอดกิมจินั้นทางร้านก็ทำออกมาได้อย่างลงตัว ยิ่งได้ความชีสเข้ามาเพิ่มความอร่อยให้กับหน้าพิซซ่าเข้าไปอีกยิ่งลงตัวและฟินหนักมากเลยครับ (4/5)
Baked Spinach (230 บาท)
- เมนูนี้เป็นผักโขมอบชีส ทางร้านอบมาร้อนๆใหม่ เสิร์ฟมาแบบร้อนๆชนิดทีเรียกว่ามือโดนมีพองกันเลยครับ ผักโขมของทางร้านนั้นอร่อยมากครับ ยิ่งได้เชดด้าชีสที่นำมาอบร้อนๆ เวลาทานชีสนั้นก็ยืดสุดๆ ทำให้คนไม่ชอบทานผักอย่างผมยังฟินกับการทานผักโขมได้เต็มๆเลยครับ (4/5)
Tuna Salad (290 บาท)
- เมนูนี้เป็นสลัดทูน่าดิบราดมาด้วยน้ำยำสไตล์ไทยๆรสชาติแซ่บเวอร์และบาลซามิค ทางร้านเสิร์ฟมาพร้อมกับผักสลัดร็อคเก็ตไว้ให้ทานแก้เลี่ยน ตัวทูน่านั้นถือว่าค่อนข้างธรรมดาครับ แต่ได้น้ำยำสไตล์ไทยรสแซ่บสุดๆเข้ามา เมนูนี้เลยกลายเป็นของเด็ดขึ้นมาเลยทีเดียว ร็อกเก็ตรสชาติก็ถือว่าโอเค ขมหน่อยๆ แต่ก็ถือว่าทานได้ครับ (4/5)
Larb Salmon (230 บาท)
- เมนูนี้เป็นเมนูลาบปลาแซลมอนทอด ทางร้านนำปลาแซลมอนไปหั่นเป็นลูกเต๋าก่อนที่จะนำไปทอดแล้วก็ค่อยนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงรสลาบ ซึ่งออกมาเปรี้ยวแซ่บ เผ็ดร้อนสไตล์ไทยๆ ตัวแซลมอนนั้นทางร้านเลือกเป็นส่วนท้องมาทำ จึงมีความมันสูง เด็ดอร่อยถูกใจมากๆครับ (4/5)
EST.33 Spicy Wings (230 บาท)
- เมนูนี้เป็นไก่ทอดสไตล์เอส 33 ซึ่งเป็นไก่ทอดรสเผ็ดหน้าตาคล้ายไก่ทอดเกาหลี แต่รสชาตินั้นออกเผ็ดๆเปรี้ยวๆไม่เหมือนใคร ทางร้านเสิร์ฟไก่มาเป็นทั้งส่วนปีกกลางและปีกติดน่อง เนื้อด้านในนุ่มอร่อย ด้านนอกกรอบฟิน ทานกับเบียร์ยิ่งฟินหนักไปอีกครับ (4/5)
Onzen Egg Carbonara Spaghetti (290 บาท)
- เมนูนี้เป็นสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าไข่ออนเซ็น ก่อนที่จะโปะมาด้วยแผ่นเบคอนทอดให้มาทานด้วยกัน ก่อนทานก็แค่คลุกเคล้าตัวคาโบนาร่าให้เข้ากันกับไข่ออนเซ็นก่อนแล้วค่อยทาน จะบอกว่าเมนูนี้เด็ดมากครับ คาโบนาร่าของทางร้านนั้นครีมมี่สุดๆ ทานแล้วฟินตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้ายที่ได้ทาน เป็นคาโบนาร่าที่อร่อยที่สุดที่เคยทานมาร้านนึงเลยก็ว่าได้ เป็นเมนูห้ามพลาดเลยครับ (5/5)
Mentaiko Pasta (330 บาท)
- เมนูนี้เป็นสปาเก็ตตี้ไข่กุ้งและสาหร่ายครับ ทางร้านลวกเส้นสปาเก็ตตี้มาได้ดี มีความนุ่ม ที่สำคัญยังปรุงมาได้ดี เมนูนี้แม้ว่าจะไม่ได้มีเนื้อสัตว์มาในจาน แค่ทานสปาเก็ตตี้กับไข่กุ้งคลุกเคล้ากันมาก็อร่อยแล้วครับ (4/5)
Truffle Alfredo Pasta (290 บาท)
- เมนูนี้เป็นเมนูพาสต้าเห็ดทรัฟเฟิ้ลที่อร่อยมากกกกกกกกกกกก ทางร้านนั้นได้มีการนำทรัฟเฟิลออยมาผสมเป็นเครื่องปรุงหลักเลยทำให้พาสต้าจานนี้ออกมามีทั้งความหอม ความมัน ขึ้นชื่อว่าทรัฟเฟิ้ลเอาจริงๆไปใส่อะไรก็อร่อย แต่จานนี้นั้นทางร้านใส่มาให้เต็มๆ ทานแล้วถูกใจมากๆครับ (5/5)
Roasted Bier-B-Q Pork Ribs (390 บาท)
- เมนูนี้เป็นซี่โครงหมูอบซอสบาร์บีคิวครับ ทางร้านมีให้เลือกสองรสชาติด้วยกันคือรสบาร์บีคิวธรรมดาและรสเผ็ด วันนี้ผมสั่งมาลองทานทั้งสองแบบแล้วก็ชอบทั้งสองแบบครับ แต่ส่วนตัวผมเองว่ารสเผ็ดจะเด็ดกว่าอยู่หน่อย ทางร้านเสิร์ฟซี่โครงหมูมาเป็นแผ่นใหญ่ ใช้มีดหั่นเบาๆแบ่งทานได้เลย ด้วยความที่เนื้อหมูนุ่มมาก แค่หั่นเบาๆก็ขาดแล้วครับ รสชาติก็ดี ความนุ่มก็เด็ด เมนูนี้เป็นอีกเมนูที่แนะนำให้สั่งเช่นกันครับ (5/5)
Pork Knuckle (490 บาท)
- เมนูนี้เป็นเมนูขาหมูเยอรมันทอดครับ ทางร้านเสิร์ฟมาให้เต็มๆขาพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดไว้ให้จิ้มทานด้วยกัน ขาหมูของทางร้านนั้นใหญ่ใช้ได้ครับ มีการนำไปทอดแล้วก็หั่นเสิร์ฟมาให้เรียบร้อย หนังของขาหมูนั้นกรอบอร่อยมาก ส่วนเนื้อด้านในนั้นก็นุ่มไม่เหนียวเลยแม้แต่น้อยครับ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดทานได้อร่อยถูกใจมากๆครับ (5/5)
Copper (220 บาท)
- เบียร์ตัวนี้เป็นเบียร์ Signature ของทางร้านครับ ผมสั่งไซส์ L มาทานกันเลย รสชาติของเบียร์นั้นอร่อยมาก ทานได้หมดแบบไม่ขมคอ คนที่ชอบเบียร์รสออริจินอลต้องถูกใจครับ (4/5)
Fruit Beer (190 บาท)
- นอกจาเมนูเบียร์ปกติแล้วทางร้านก็ยังมีเบียร์รสผลไม้มาให้ลองสั่งกันดูเช่นกันครับ ซึ่งเหมาะกับคนที่ทานเบียร์ไม่เก่งแล้วอยากได้รสชาติผลไม้มาช่วยทำให้ทานได้ง่ายขึ้น ซึ่งก็มีให้เลือกทั้งลิ้นจี่ เสาวรส แล้วก็สตอเบอรี ทั้งสามรสชาติก็ถือว่าอร่อยทั้งสามแบบแต่ก็แตกต่างกันออกไปตามรสผลไม้ที่แต่ละคนชอบครับ (4/5)
โดยรวมแล้ววันนี้ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม แล้วก็บรรยากาศของที่ร้านนี้นั้นถือว่าดีมากครับ ทุกคนที่มาปาร์ตี้กันนั้นก็ลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าดีเกินคาด และจะต้องกลับมาซ้ำกันอีกแน่ๆจริงๆครับสำหรับร้านนี้
57 Likes0 Comment


