- หน้าแรก
/
- รูป ริมภิรมณ์


เคี้ยวเพลิน
อาหารสวย อร่อย ครีเอทสวยงามร้านนี้ได้คำแนะนำให้ลองมาชิม2-3ครั้งจากนักชิมท่านนึง ตั้งอยู่ในโครงการแม่ริมพลาซ่าอยู่ตรงข้ามร้าน Steak of the day (ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกันนั่นเอง) แต่ร้านนี้เป็นตึกแถวที่นำมาตกแต่งเป็นร้านอาหารบรรยากาศสวยงามเลยทีเดียว เราไปถึงประมาณ 6 โมงซึ่ง ซึ่งเป็นลูกค้าชุดแรก จากการสอบถาม ร้านนี้เปิดได้เพียงแค่สองเดือน ความอินดี้สุดก็คือ ร้านนี้เปิดตั้งแต่ 4 โมงเย็นไปจนถึงสี่ทุ่มเท่านั้นหยุดทุกวันอาทิตย์
ตอนเดินเข้ามาในร้านทีแรกเห็นเมนูที่เขียนอยู่บนไวท์บอร์ด พอพนักงานเอาเมนูมาให้เลือกสั่งอาหาร เธอก็ยกไว้บอร์ดมาทั้งกระดาน (ก็ไม่ได้เล็กนะ) แอบแปลกใจนิดนึงตรงที่ว่าร้านที่ดูดีขนาดนี้ทำไมเมนูถึงต้องเขียนลงบนไวท์บอร์ดด้วย แต่เอาเถอะร้านเปิดเพียงแค่สองเดือนอาจจะจัดการอะไรยังไม่เสร็จ แต่มารู้ที่หลังว่าเมนูของร้านนี้ "เปลี่ยนทุกวัน" นะคะ ดังนั้นจึงไม่สามารถที่จะทำเมนูที่เป็นรูปเล่มได้เลยถึงบางอ้อ กลายเป็นไอเดียที่น่าสนุกซะอีกตอนยกกระดานสั่งอาหาร
เนื่องจากรอเพื่อนอีกสองคนเลยสั่งอาหารทานเล่นมา3อย่างคือ ปอเปี๊ยะเวียดนามไก่(159 บ.) ยำส้มโอหอยเชลล์ (359บ.) และสุดท้าย หมูแดดเดียว (199บ.) แอบคิดในใจว่าเมนูธรรมดาแบบนี้ร้านนี้จะทำออกมาเป็นยังไงนะ
จานแรกมาคือปอเปี๊ยะเวียดนามไก่ จัดจานได้สวยมาก รสชาติดี เป็นแป้งปอเปี๊ยะเวียดนามแป้งบางใสและห่อด้วยผักสมุนไพรและเนื้อไก่ ทานพร้อมน้ำจิ้มที่ไม่หวานมาก รสชาติกลมกล่อมอร่อยฟินดูมีสุขภาพดี
จานต่อมาคือ ยำส้มโอหอยเชลล์ ซึ่งจะมีเครื่องเคียงมาเป็นถ้วยเล็กๆ พร้อมส้มโอและหอยเชลล์ซึ่งอยู่ในหม้อแยกต่างหาก เราสามารถเลือกคลุกเองได้ตามรสชาติที่ชอบ หรือจะให้คลุกให้ก็ได้ เราเลยบอกให้พนักงานจัดการเลย โดยใส่ทุกอย่างเข้าไปหมด รสชาติของเมนูนี้คือความสดชื่นจากส้มโอที่ไม่เปรี้ยวเกินไป เคล้ากับกุ้งแห้งป่น ตะไคร้ พริก มะพร้าวคั่ว และรสสัมผัสของหอยเชลล์ที่สุกกำลังพอดี นุ่มๆหอมๆ อร่อยเพลิน
ของทานเล่นจานสุดท้ายก็คือหมูแดดเดียวซึ่ง Presentationเก๋มากกกกก เป็นหมูแดดเดียวที่ทอดมาวางบนใบมะกรูดทอดแต่ ครอบฝาแก้วทรงสูง อบควันของถ่านไม้ ดังนั้นเวลาทานก็จะได้กลิ่นถ่านไม้หอมในปากขณะเคี้ยว งานนี้ไม่ต้องพึ่งช้อนกันหรอก หยิบทานกันอร่อยกันเพลิน
หลังจากที่กำลังเริ่มสนุกสนานกับการชิมอาหารเพื่อนก็มาพอดี และเมนูที่สั่งตามมาก็คือ
ทอดมันหอยเชลล์ (259 บ.)รสชาติคล้ายๆทอดมันทั่วไป แต่ว่าได้เนื้อสัมผัสของหอยเชลล์ทานแนมกับ ใบชะพลูชุบแป้งทอดรสชาติเข้ากันจริงๆ
ยำปลาหมึก,หมึกดำ(199บ.) ปลาหมึกสดวางบนเครื่องยำซึ่งด้านล่างเป็นหมึกดำของปลาหมึกเสียดายตอนที่ยกมาเสิร์ฟจานสะดุดก็เลยไม่ได้ภาพก่อนทานแต่ได้ภาพตอนที่คลุกแล้ว เมนูนี้ รสชาติจะไม่เผ็ดจัดจ้านถึงใจคนทานเผ็ดอย่างเราแต่รสอื่นก็กลมกล่อมอยู่
ปลากะพงดำ,ไข่ปลาริวกิว สามรส (499 บ.) เมนูนี้ตัวเอกอยู่ที่วัตถุดิบของอาหารทั้งปลากะพงดำและไข่ปลาริวกิว เมื่ออยู่ในซอสสามรส ความรู้สึกตอนเคี้ยวในปากมันกรุบๆหนึบๆอร่อยดี แต่เพราะเราไม่ค่อยชอบอาหารที่มีรสหวาน ถ้าเปลี่ยนเป็น ราดพริกแทนน่าจะเด็ด (อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวล้วนๆนะคะ สำหรับคนอื่น ทุกคนก็ชมว่าอร่อยเลย)
คะน้าปลาเค็มผัดพริกกระเทียม (159 บ.) จริงๆแล้วส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบทานปลาเค็ม เพราะไม่ชอบกลิ่นและรสชาติ แต่สำหรับร้านนี้เราชิมไปคำแรกแทบจะไม่ได้กลิ่นของปลาเค็ม หรือรสชาติที่เจอในร้านอื่นทั่วไป ทำได้ดีจริงๆยอมรับมาก
เมนูของคาวสุดท้ายก็คือ " 5 ชั่วโมงตุ๋นเนื้อออสโซบูโคแกงมัสมั่น " (550 บ.) เมนูนี้สำหรับคนทานเนื้อต้องไปชิมเองนะคะเพราะเราไม่ได้ทานแต่คนอื่นที่เหลือคอนเฟิร์มว่า เด็ดจริง อร่อยจริง เนื้อนุ่มมาก ถึงแม้ว่ากลิ่นความเป็นมัสมั่นจะเบาไป อันนี้สายเนื้อต้องมาพิสูจน์เองนาจา
หลังจากหมดอาหารคาวไปแล้วก็เข้าสู่โหมดของหวานกันบ้าง ทางร้านนำเสนอ ทับทิมกรอบและลูกชุบ คือปกติก็ไม่ค่อยทานของหวานตอนจบคอร์สของคาวอยู่แล้ว แต่ในไหนๆทางร้านนำเสนอขนาดนี้ก็เลยต้องลอง จุดเด่นคือ presentationของลูกชุบอีกแล้ว เก๋สุดในสามโลก เป็นขนมลูกชุบที่ไส้ไม่หวานมากเกินไป มีสีเทาและสีครีมวางอยู่บนก้อนหินในถาดไม้ โรยมาด้วยงาดำสวยงามและอร่อยมากกกก
ร้านนี้เป็นโอเพ่นคิทเช่น ส่วนภรรยาของเจ้าของ (เป็นเชฟ ดีกรีเชฟ Four Seasons)อยู่ในครัวก็คอยดูแลลูกค้าอยู่ด้านนอกอย่างอารมณ์ดีและเป็นกันเอง เบ็ดเสร็จคืนนี้ประมาณ 3,000 บาท(มีเจ้ามือเลยลืมถ่ายบิล) แต่มีรอบหน้าอีกแน่ๆสำหรับร้านนี้
5 Likes0 Comment
