- หน้าแรก
/
- หมี่กรอบ ร้าน Time&Tales ตำรับวิเศษไก่ย่าง
บทสุดท้ายของนิทานแห่งกาลเวลา ร้านกุ๊กช็อพริมน้ำบรรยากาศดีที่ต้องรีบไปลองก่อนอำลา“Time & Tales ตำรับวิเศษไก่ย่าง” นี้เป็นร้านที่หลอมรวมเอาบรรยากาศชิลล์ๆริมแม่น้ำเจ้าพระยาและการตกแต่งร้านสไตล์โมเดิร์นสุดชิคเข้ากับความอร่อยแบบภัตตาคารจีนแนวกุ๊กช็อพจากสูตรของร้าน “วิเศษไก่ย่าง” ได้อย่างลงตัว ลำพังร้านสไตล์กุ๊กช็อพที่สร้างชื่อเสียงและรักษาฝีมือมาได้ยาวนานจนถึงทุกวันนี้ก็ว่าหายากแล้ว ยิ่งมีการปรับรูปลักษณ์ให้สวยงามร่วมสมัย ก็ยิ่งกลายเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่น ไม่แปลกใจที่ร้านจะได้รับความนิยมจนลูกค้าเต็มแน่นอยู่ตลอด สำหรับเราได้มีโอกาสไปทานที่ร้านทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น เลยขอนำมารีวิวรวมกันในคราวเดียวเลยนะคะ
****-ทำเลที่ตั้ง / บรรยากาศ-****
ร้านตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับ Samsen Football Park ติดท่าเรือพายัพ สุดถนนนครไชยศรี ภายในร้านมีที่จอดรถพอสมควร (แต่วันที่ลูกค้าแน่นๆก็เต็มเอาได้ง่ายๆเหมือนกัน) ตัวร้านกว้างขวาง มีทั้งที่นั่ง outdoor รับลมชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้แจ่มๆ และที่นั่งติดแอร์ด้านในที่ผนังเป็นกระจก สามารถชมทิวทัศน์ภายนอกได้โดยรอบ ตกแต่งด้วยผนังอิฐและเฟอร์นิเจอร์ไม้ดูอบอุ่นน่าสบายทีเดียวค่ะ
****-เมนูที่ได้ลอง-****
เพราะไปกันหลายคน ก็เลยได้ลองอาหารหลากหลายทีเดียว ราคาที่แสดงยังไม่รวม VAT 7 % และ Service Charge 10 % นะคะ
[อาหารคาว]
● ไก่บ้านย่าง (จานเล็ก ราคา 180 บาท / ใหญ่ 350 บาท) – จานนี้บอกเลยว่ามาแล้วห้ามพลาด อร่อยเด็ดดีงามน้ำตาจิไหล ไก่บ้านเนื้อแน่นเคี้ยวสนุก แต่ย่างมาได้นุ่มเว่อร์ เนื้อไม่เหนียวกระด้างเลยซักนิด หนังบางกรอบ ไม่แฉะ ไม่มันเยิ้ม แถมปรุงรสมาได้เป๊ะ หอมอร่อยสุดๆ ขอยกให้เป็นระดับท็อปของวงการไก่ย่างเลยล่ะค่ะ
● ปลาดุกทอดกรอบผัดเผ็ด (ราคา 200 บาท) – อีกหนึ่งจานเด็ดที่ร้านวิเศษไก่ย่างขึ้นชื่อมานาน (ไม่สั่งคือผิด – สว. กล่าวไว้...) อร่อยปังไม่แพ้ไก่ย่าง ปลาดุกนี่ทอดมาแบบแห้งกริ๊บ กรอบถึงก้างจริงๆ น้ำราดไม่ได้เผ็ดจี๊ด แต่มีการปรับให้กลมกล่อมกำลังนัวๆสไตล์อาหารจีน เสริมด้วยกลิ่นเครื่องเทศ พริกไทยอ่อน ใบกระเพราทอดกรอบ ได้รสขาติออกมาพอดิบพอดี โดดเด่นสมกับเป็นเมนูดัง ปลื้มปริ่มสุดๆบอกเลย
● เห่าดงหมู (ราคา 220 บาท)– เนื้อหมูในจานดูแล้วไม่มีมันติดให้ต้องหั่นต้องเฟ้นออก ...แต่คือจะนุ่มไปไหน นุ่มจนกัดแล้วแปลกใจที่ไม่มีความเหนียวเคี้ยวยากเลยซักนิด ละมุนลิ้นสุดๆ เรียกว่าใช้เนื้อหมูส่วนที่คุณภาพดีจริงๆ รสชาติปรุงมาเปรี้ยวนำแบบที่ชอบเป๊ะ เป็นความเปรี้ยวจากมะนาวสดล้วนๆ ไม่ได้เปรี้ยวปรี๊ดจนเสียสมดุล ทานแกล้มกับผักสดที่เคียงมาด้วยกันก็ลงตัวมากๆ ..ดีงามจนไม่มีอะไรจะติเลยล่ะ
● เป็ดตุ๋นมะนาวดอง (ราคา 250 บาท) – เนื้อเป็ดนุ่ม เขี่ยออกจากกระดูกได้ง่ายๆ น้ำแกงรสกลมกล่อมหอมมะนาวดองชัดเจน ซดคล่องคอดีทีเดียว
● ผัดจับฉ่าย (ราคา 250 บาท) – ผัดจับฉ่ายรสชาติอ่อนๆ ที่จะว่าไปแล้วก็ไม่มีอะไรบกพร่องจะให้ติ เพียงแต่เมื่อเทียบกับจานอื่นๆแล้ว จานนี้จะธรรมดาไปนิด ไม่ถึงกับอร่อยโดดเด่นเท่าไหร่น่ะค่ะ
● สตูลิ้นหมู (ราคา 300 บาท) – กับจานนี้ต้องบอกเลยว่ารักหมดใจ ปกติร้านทั่วไปจะมีแต่สตูลิ้นวัว ทำให้คนงดเนื้อวัวอย่างเราต้องอดสั่งอยู่บ่อยๆ แต่ของที่นี่มีให้เลือกทั้งลิ้นหมูลิ้นวัว แม้คนที่เคยมาทานจะบอกว่าสั่งลิ้นวัวอร่อยกว่า แต่สตูลิ้นหมูเค้าก็ทำออกมาได้ดีงามไม่แพ้เจ้าไหนๆ ลิ้นหมูนุ่มสุดๆ น้ำสตูก็เข้มข้นขลุกขลิก รสชาติกำลังเป๊ะไม่ต้องปรุง ทานคู่กันกับขนมปังนุ่มๆที่เสิร์ฟมาอุ่นๆนี่ฟินเคลิ้มมม....กันไปยาวๆ
●ขาหมูหมั่นโถว (ราคา 300 บาท) – เป็นขาหมูที่ส่วนเนื้อนุ๊มนุ่ม คากิเปื่อยเป็นบางส่วน แต่บางส่วนก็ยังเป็นมันแน่นๆที่ทานแล้วยังเลี่ยนอยู่ น้ำราดเข้มข้นปานกลาง หมั่นโถวนุ่มใช้ได้ แต่เรื่องความแน่น-หยุ่น-เด้ง ของเนื้อสัมผัสถือว่ายังไม่สุด เมนูนี้เราว่าทานได้เพลินๆ อร่อยใช้ได้ ประมาณ 3.5/5 คะแนนนะ
● หมี่กรอบ (ราคา 200 บาท) – หมี่กรอบเนื้อเบาๆทานสบาย ใส่กุ้งทอดตัวกลางๆมาพอสมน้ำสมเนื้อ น้ำราดเข้มข้นโอเคอยู่ รสชาติอาจไม่ถึงกับเป็นจานแนะนำที่ต้องสั่ง แต่ถ้านึกอยากทานขึ้นมาก็สั่งได้ไม่ขี้เหร่นั่นล่ะ
● ไก่วิเศษ (จานเล็ก ราคา 200 บาท) – คือเห็นไก่ย่างเค้าดีงาม แถมเมนูนี้ก็เอาชื่อร้านมาต่อท้ายไว้เหมือนภูมิใจนำเสนอ ก็เลยสั่งมาลองกันซะหน่อย ปรากฏว่าไม่ค่อยชอบแฮะ ...จานนี้เป็นไก่ทอด (ไม่ได้ชุปแป้งนะ) ที่มีน้ำซอสราดมาด้วย แล้ว เสิร์ฟพร้อมสลัด ชิมแล้วน้ำราดมีกลิ่นเครื่องปรุงอะไรซักอย่างที่หวานๆ (กลิ่นหวาน แต่รสไม่หวานนะคะ) ไม่กล้าฟันธงว่าคืออะไร แต่เป็นกลิ่นแนวๆอบเชยหรือวานิลลา ซึ่งเราว่ามันแปลกๆ ไม่เข้ากับรสของไก่น่ะค่ะ
[ของหวาน]
นอกจากจะสรรค์สร้างบรรยากาศให้สวยเก๋ดูร่วมสมัยแล้ว เมนูของหวานยังมีพวก Homemade Cakes ต่างๆเพิ่มเข้ามา แถมมีกาแฟสดให้สั่งด้วย แต่เพราะเห็นเป็นร้านแนวกุ๊กช็อพ เราก็เลยอยากสั่งของหวานสไตล์กึ่งไทยกึ่งฝรั่งมากกว่านะคะ
● ไอศกรีมน้อยหน่า (ราคา 50 บาท) – ของหวานยอดนิยมของร้านนี้ เป็นไอศกรีมเนื้อประมาณ Sorbet/Sherbet ที่หั่นมาเป็นก้อนลูกเต๋าให้ทานง่าย หวานๆหอมๆแถมมีเนื้อน้อยหน่าแทรกๆอยู่ในทุกคำ อร่อยชื่นใจดีค่ะ
●พุดดิ้งมะพร้าว (ราคา 50 บาท) – น่าจะเป็นของรับมาขาย แต่เนื้อพุดดิ้งก็นุ่มนวล มีเนื้อมะพร้าวอ่อนแทรกเยอะใช้ได้ค่ะ
●บัวลอยเผือก (ราคา 60 บาท) – เสิร์ฟมาร้อนๆ เนื้อบัวลอยนุ่มมากๆ หอมเผือก รสชาติไม่หวานมากนะ
● ไอศกรีมกะทิ + เยลลี่ (ราคา 90 บาท) – ไอศกรีมกะทิสไตล์ไทยแท้ เนื้อไม่ละเอียดเนียนเท่าไหร่ ส่วนเยลลี่จะเป็นเนื้อสัมผัสสไตล์โบราณที่จะแข็งๆเด้งๆนิดๆ (คล้ายวุ้นกะทิ) ข้างในมีเนื้อลิ้นจี่ให้ด้วย ทานแล้วชวนให้นึกถึงสมัยเด็กๆขึ้นมาเลย ถ้าเอามาตรฐานขนมสมัยใหม่ไปวัดก็คงมองว่าทำไมเนื้อเยลลี่ไม่นุ่มนวล ไอศกรีมเนื้อไม่ละเอียด ...แต่เรามองว่ามันคือเรื่องของสไตล์ สมัยก่อนกุ๊กไทย/กุ๊กจีนทำขนมฝรั่งตามความเข้าใจของตัวเองและวัตถุดิบที่หาได้ รสชาติที่ออกมาจึงไม่ใช่แบบต้นฉบับแท้ๆ แต่ก็ทำให้กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของอาหารแนวนี้ไป ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นหาทานยาก กลับชวนให้คิดถึงซะอีกนะคะ
โดยรวมแล้วลองไป 2 ครั้งก็ปลื้มปริ่มทั้ง 2 ครั้ง เพราะแม้จะไม่ได้เด็ดทุกเมนู แต่ก็อร่อยหลายอย่าง ไม่มีจานไหนแย่ ที่สำคัญจานเด่นๆของร้านนี้คือเด็ดจริง ทำให้กลายเป็นร้านโปรดของที่บ้านไปเลย แต่ขอแจ้งข่าวนิดนึงว่าทางร้านกำลังจะปิดตัวลงในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 นี้ค่ะ ส่วนจะไปเปิดที่อื่นทดแทนกันรึเปล่ายังไม่ทราบ ฉะนั้นถ้าใครอยากไปสัมผัสรสมือและบรรยากาศดีๆแบบนี้ก็คงต้องรีบไปกันด่วนๆ (แนะนำโทร.จองนะคะ เพราะร้านเค้าแน่นจริงๆ) ส่วนถ้าใครเป็นแฟนประจำร้านนี้อยู่แล้วก็คงต้องรีบไปจัดมื้อสั่งลากัน สำหรับคนที่พลาด ก็ยังมีร้านวิเศษไก่ย่างสาขาดั้งเดิมที่สี่แยกบางโพให้ไปลองได้อยู่ สะดวกแบบไหนก็ลองจัดดูค่ะ
70 Likes0 Comment
