- หน้าแรก
/
- รูป Pot Station ชาบูแจ่วฮ้อน


บรรยากาศ
ถูกใจสาวกชาบูอย่างจัง กับชาบูสไตล์ไทยที่สถานีหม้อต้มร้าน “Pot Station”ชอบน้ำซุปร้อนๆ ให้คล่องคอ แต่รีเควสรสชาติจัดจ้านสไตล์ไทยๆ ต้องมาร้านนี้เลย “Pot Station” กับน้ำซุปซิกเนเจอร์ “แจ่วฮ้อน” ใครได้ลองก็ต้องโดน!
ได้ข่าวจากกูรูชาบูค่ะว่ามีร้านชาบูเปิดใหม่ในซอยลาดพร้าววังหิน บ้านเราก็อยู่ใกล้ขับรถไป 15 นาทีก็ถึง คิดได้เราก็ออกจากบ้านเลย จะเที่ยงแล้ว อิ้ๆ วันนี้จะต้องไปเจิมร้านให้ได้ ร้านนั้นก็คือ “Pot Station” สถานีคนรักหม้อต้ม
มาถึงร้านแล้วค่า ร้าน “Pot Station” เป็นชาบูสไตล์ไทย ผิดจากชาบูสไตล์ญี่ปุ่นที่ใครหลายๆ คนแห่กันไปทาน บอกเลยว่าใครที่ชอบความแซ่บ ความเผ็ดร้อน ชอบซดให้คล่องคอ จมูกโล่ง เราว่าร้านนี้ตอบโจทย์เลยค่ะ
การตกแต่งภายในร้านจะดูเรียบง่าย โล่งๆ มีโคมไฟประดับบนเพดาน เราว่าใครชอบนั่งกินชิลล์ๆ ร้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าลองนะคะ
ก่อนลงมือเรามาดูที่น้ำซุปของร้านก่อนดีกว่าค่ะ มีทั้งหมด 3 แบบ และน้ำจิ้ม 4 แบบที่มาคู่กับน้ำซุป “น้ำชุปแจ่วฮ้อน” สูตรพิเศษของทางร้านตัวนี้เป็นซิกเนเจอร์ที่ต้องมาลองค่ะ น้ำซุปชาบูสไตล์ไทยๆ มีให้เลือกระหว่างซุปแจ่วฮ้อนหมูหรือเนื้อ รสชาติจัดจ้านแบบอีสานทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วรสแซ่บ , “น้ำซุปต้มยำ” รสแซ่บความดีงามคือการที่ได้ใส่มันกุ้งเพิ่มรสชาติให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด
“น้ำซุปใส” รสชาติกลมกล่อมเหมาะกับใครที่ไม่ชอบทานเผ็ดค่ะ หรือถ้ามากันเป็นครอบครัวแล้วมีเด็กเล็กซุปใสเป็นตัวเลือกที่ดีเลย ซุปนี้จะทานคู่กับน้ำจิ้มพอนซึและน้ำจิ้มเฝอ ซึ่งน้ำซุปสามารถเลือกได้สองชนิดในหม้อเดียวค่ะ หรือใครที่รักเดียวใจเดียวจะเลือกน้ำซุปชนิดเดียวก็ได้
ได้น้ำซุปกับน้ำจิ้มแล้วมาถึงเนื้อกันดีกว่า เริ่มที่ “ชุดครบเครื่องชุดหมู” (168.-) ใช้เนื้อหมูคุณภาพดี ปลอดสาร เลี้ยงในระบบฟาร์มเปิดอิสระแบบออร์แกนิค ในชุดนี้จะประกอบไปด้วย สันคอสไลซ์, สันนอกสไลซ์, ดอกไม้สไลซ์ (เนื้อส่วนสะโพก), เบคอน และชุดผัก ใครที่อยากสั่งแบบ A la carte ก็สามารถสั่งได้จานละ 38 บาท ส่วนใครที่ชอบเนื้อต้องนี่เลย “ชุดเนื้อ” (188.-) ทางร้านใช้เนื้อวัวคุณภาพดีจากไทยเฟรนช์ ประกอบด้วย เสือร้องไห้, ลูกมะพร้าว, ตะพาบ สั่งเพิ่ม A la carte จานละ 48 บาท
เราชอบตัวน้ำซุปแจ่วฮ้อนมาก เอาเนื้อจุ่มลงไปแล้วจิ้มน้ำจิ้มแจ่วคือเด็ดมาก ตัวน้ำซุปพอได้ซดจะรู้เลยว่ามันมีส่วนผสมของสมุนไพรหลายชนิด เรื่องรสชาติและคุณภาพของเนื้อถือว่าคุ้มค่ากับราคามากๆ ค่ะ
ต่อกันด้วย “ชุดซีฟู้ด” (188.-) ในชุดนี้จะมี ปลาดอรี่, มันกุ้ง, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ เสิร์ฟคู่กับเห็ดออรินจิ, เห็ดเข็มทอง, ข้าวโพดอ่อน และเส้นราเมน เห็นเส้นราเมนแบบนี้บางคนอาจจะคิดว่าเปลืองท้องไม่อยากกินแป้ง แต่พอเราได้ลอง เอ้ย เส้นนี่มันไม่ธรรมดานา หนึบใช้ได้เลยค่ะ ชุดนี้แนะนำให้ทานคู่กับน้ำซุปต้มยำกุ้งค่ะ แซ่บลืม!
สั่งแบบชุดไปแล้วก็ยังไม่อิ่มสั่งแบบ A la carte มาหน่อยดีกว่า เครื่องในนุ่มๆ อย่าง “ไส้อ่อน” (38.-) และ “ขั้วตับ” (38.-) ใครชอบเครื่องในเหมือนเราต้องสั่งนะคะ เด็ดอยู่ ส่วนสายเนื้อต้องไม่พลาดกับ “ใบพาย” (60.-) และ “เอ็นแก้ว” (60.-) รสชาติแตกต่างจากน่องลายทีอื่นๆ ทานแล้วมันจะกรุบๆ ในปากชอบมาก คุณภาพสมราคาจริงๆ
นอกจากนี้เราก็เสริมหม้อน้ำซุปให้น่าทานยิ่งขึ้นด้วย “หมูยอ” (35.-) , “เต้าหู้เนื้อปลา” (35.-), “เต้าหู้ไข่” (15.-), “ไข่ไก่” (10.-), “ราเมง” (20.-), “ข้าวเปล่า” (10.-) และอาหารทานเล่นระหว่างมื้ออย่าง “คอหมูย่าง” (55.-) เนื้อนุ่มชิ้นหนากำลังดี และ “เกี๊ยวทอด” (40.-) ตอนแรกสั่งมาไม่ได้คิดไรมาก แต่พอได้ลองติดกับไส้ที่ซ่อนตัวในเกี๊ยว ชอบจนต้องสั่งมาเพิ่มเลยค่ะ
ส่วนเรื่องการบริการ ขอบอกว่าดีงามมากๆ ร้านนี้คือเจ้าของร้านลงมือดูแลเองค่ะ พนักงานภายในร้านก็บริการดีอยากได้อะไรเขาก็เดินมาทันที เอาใจไปเลย~
3 Likes0 Comment
