3.9
453 เรตติ้ง (387 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 11:00
Ramen Ippudo เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่
Teba pork gyoza หน้าตาเหมือนไก่แต่กัดลงไปเป็นเกี๊ยวซ่า อร่อยมากๆ
IPPUDOลมลูกใหม่ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้วงการราเม็ง การันตีด้วยดีกรี ramen champion สามสมัยซ้อน!Ippudoเป็นราเม็งสไตร์ฮากาตะ ที่ขึ้นชื่อเรื่องซุปกระดูกหมูและเส้นราเม็งโฮมเมทที่บางสดอร่อย ซึ่งทำให้เส้นอุ้มน้ำและเส้นจะซึมรสชาติของน้ำซุปหวานหอมเวลาทานเป็นอย่างดี โดยippudoนี้ก่อตั้งขึ้นโดยคุณชิกามิ คาวาฮารา และจุดที่ทำให้ippudoเป็นราเม็งที่เป็นที่รู้จักโด่งดังไปทั่วโลก ก็คือการที่คุณชิกามิ ได้รางวัลตำแหน่งราเม็งคิง แถมพ่วงท้ายด้วย TV Champion Ramen Chefมากถึง3สมัยซ้อนนน!!จนมีชื่ออยู่ใน ramen hall of fame กันเลย วันนี้มีโอกาสได้มาtastingกับวงใน ดีใจมากค่ะ ขอบคุณทีมงานwongnaiและippudoด้วยนะคะ ปัจจุบัน Ippudo มีสาขาทั่วโลกกว่า130สาขา คราวนี้เป็นทีเฮของไทยบ้างที่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ippudo ได้มาเปิดสาขาให้คนไทยได้มีโอกาสได้ชิมราเม็งระดับแชมป์ โดยไม่ต้องเดินทางไปชิมถึงต่างแดนกันแล้ว(และวันที่17มกราคม ก็มีข่าวดีที่ippudo จะเปิดสาขาสองที่เอ็มโพเรียมชั้น4อีกแห่ง จะได้ไม่ต้องมาต่อคิวกันที่สาขาเดียวแล้วว) ••พิกัติ&การเดินทาง•• สำหรับประเทศไทยปัจจุบันippudo thailand มีด้วยกัน2สาขาแล้ว คือ สาขาเอ็มโพเรียมชั้น4 ซึ่งเป็นสาขาน้องใหม่แกะกล่อง และสาขาที่มาทานวันนี้ คือ central embassy ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่ชั้น3 ของห้างค่ะ การเดินทางมานั้นก็ง่ายยสุดๆ ไม่ว่าจะเลือกขับรถมาก็สามารถใช้ถนนเส้นสุขุมวิท หรือวิทยุก็ได้ค่ะ แต่ถ้าอยากสะดวกกว่านั้นก็สามารถนั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานีเพลินจิตได้เลย มีทางเชื่อมเข้าตัวห้างสะดวกสบายมาก ••บริการ&บรรยากาศ•• แรกก้าวเข้ามาในร้านนอกจากจะมีเสียงต้อนรับอย่างอบอุ่นร่าเริงเตรียมพร้อมบริการอย่างเต็มที่ของพนักงานแล้ว เรายังจะสัมผัสได้ถึงความหรูหราแบบอบอุ่นสไตร์ญี่ปุ่นๆแบบโมเดิลที่เรียกว่าเข้ามาแล้วต้องบอกเลยว่าบรรยากาศร้านดีสุดๆสวยงามน่านั่งมากๆ ภายในบริเวณร้านมีการจัดแบ่งเป็นหลายโซน ใครมาคนเดียวก็ไม่ต้องเขิน มีโต๊ะรวมหรือเป็นเคาท์เตอร์บาร์ให้นั่งทานกันชิวๆได้อารมณ์ญี่ปุ่นสุดๆ หรือถ้ามากันเป็นแกงค์ก็มีโต๊ะใหญ่ให้นั่งทานเม้าส์เพลินได้ด้วยค่ะ ภายในร้านตกแต่งด้วยวัสดุส่งตรงจากญี่ปุ่นทั้งภาพและผ้าที่นำมาประดับตกแต่ง เพิ่มความหรูหราด้วยโคมไฟที่ประดับเป็นช่อกลางร้านเลยค่ะ ตรงเสาหน้าประตูร้านมีช้อนราเม็งวางเป็นสัญลักษณ์เรียงกันเพียบ เรียกได้ว่าไม่เข้าผิดร้านแน่นอนน ส่วนบนโต๊ะจะมีวางเครื่องปรุงต่างๆไว้อย่างครบครันทั้ง พริกป่นญี่ปุ่น กระเทียมพร้อมที่บีบ ขิงดอง และงาขาวให้เติมกันตามอัธยาศัย จะช่วยเพิ่มความเข้มข้น ความหอม ความเผ็ด และรสชาติที่เข้ากันอย่างลงตัวระหว่างส่วนผสมต่างๆกับซุปได้อย่างดีมากๆค่ะ ••นิดนึงก่อนทานน•• เรามาดูวิธีการทานราเม็งอย่างถูกต้องกันก่อนนะคะ เพราะจะช่วยเพิ่มอรรถรสในการทานได้อย่างดีเลย ขั้นแรก: ได้ราเม็งมาอย่างเพิ่งทำอะไรกับมัน ห้ามคนเชียว ให้ชิมน้ำก่อนเป็นอันดับแรก เพราะซุปเป็นหัวใจสำคัญของราเม็งเลย โดยเฉพาะซุปที่นี่ผ่านการเคี่ยวกระดูกหมูยาวนานถึง 15ชั่วโมงเลยทีเดียวหว่าจะนำมาเสิร์ฟได้ ขั้นที่2:คีบเส้นขึ้นมาพอประมาณ แล้วซ๊วบบบบเสียงดังๆเลยค่าา555 (มันเป็นมารยาทการทานราเม็งที่ดีด้วยนะเออ) ขั้นที่3: พอเราลองทานๆรสออริจินอลแล้วให้เราลองเปลี่ยนเพิ่มปรุงรสชาติกัน ~เล่ามาซะยาว แต่อยากเล่าต่อจริงๆเพราะแค่ฟังประวัติเราก็อยากรู้ต่อเลย ว่าราเม็งแบบไหนถึงจะเป็นราเม็งchampion3สมัยซ้อนได้!! พอวันนี้ได้มาทานถึงรู้ว่าร้านนี้เค้าใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆๆค่ะ ตั้งแต่การเคี่ยวซุปและรสชาติซุปที่มีให้เลือกถึง3แบบเลย หมูชาชูก็นุ่มอร่อยต้มจนเปื่อยแทบจะละลายในปาก เส้นที่ทางร้านคัดสรรมาเลยว่าถ้าเราเลือกซุปแบบนี้จะได้ทานราเม็งโดยใช้เส้นแบบไหน แถมชามที่ใช้เนี่ยเก็บความร้อนได้จนทานหมดชามเลย คือ ฟังแล้วอึ้งเลย!! อะไรจะพิถีพิถันขนาดนี้~~ ••เมนูที่ทานวันนี้•• ippudoมีราเม็งให้บริการหลักๆมี 3 แบบค่ะ เราจะทานแบบไหนก็แล้วแต่ความชื่นชอบของเรา แต่ละแบบมีจุดเด่นแตกต่างกันทั้งซุป เส้นและชาชู 1. SHIROMARU MOTOAJI** แบบแรกเป็นซุปกระดูกหมูแบบoriginalเลย ซึ่งจะเสิร์ฟพร้อมกับชาชูที่ทำจากหมูส่วนไหล่ แล้วใส่เห็ดหูหนูและหอมซอยแบบจัดเต็ม แบบแรกนี้จะใช้เส้นราเม็งแบบตรงๆค่ะ น้ำซุปจะเป็นสีขาวๆ รสชาติกลมกล่อมทีเดียว ซุปจะกลิ่นหอมและรสชาติหวานน้ำต้มกระดูกดีค่ะ แบบนี้จะออกกลมกล่อมแต่รสชาติจะไม่จัดมากค่ะ เด็กๆก็ทานได้เพราะไม่ใส่พริกเลยค่ะ 2. AKAMARU SHINAJI (แบบนี้ขายดีที่สุดในไทยเลย)** แบบที่2เป็นซุปกระดูกหมูที่มีส่วนผสมของมิโสะ น้ำมันกระเทียม เสิร์ฟพร้อมกับชาชูที่ทำมาจากเนื้อส่วนท้อง แบบที่2นี้ก็จะใช้เส้นราเม็งแบบตรงๆเหมือนกัน แบบที่2 นี้ รสชาติจะเข้มข้นขึ้นมาจากแบบแรกหน่อย จะมีรสเผ็ดบางๆ หวานๆเค็มๆด้วย เราว่าแบบนี้ทานง่ายสุดและน่าจะถูกปากคนไทยค่ะ 3. KARAKA-MEN (แบบนี้เชฟบอกว่าคนไทยสั่งรสชาตินี้มากกว่าคนญี่ปุ่นครึ่งนึงเลยทีเดียว)*** แบบที่3นี้จะเป็นซุปกระดูกหมูใส่เต้าเจี้ยว ถั่วหิมมะพานบด และหมูบดปรุงรสชาติออกเข้มข้นหน่อย เผ็ดนิดๆ ส่วนตัวเราชอบแบบนี้ที่สุด เราว่ามันได้รสชาติเข้มข้นดีมากๆค่ะ รสชาติไม่จัดไปรสใดรสหนึ่งมากไป แต่เข้มข้นหอมอร่อย ชาชูก็หวานนุ่มมม รสโชยุไม่จัดมากไป ในแบบที่3นี้จะใช้เส้นแบบหยิกๆ เพราะเวลาเราคีบทานเส้นขึ้นมา เส้นจะเกี่ยวเอาถั่วเม็ดมะม่วงหิมมะพานบดและหมูบดขึ้นมาด้วยเวลาทานก็จะได้รสชาติหอมมันจัดจ้านเต็มที่เลยทีเดียว(บร๊ะ! บอกแล้วเค้าใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ) สำหรับราเม็งชามนี้ต้องบอกเลยว่าคุ้มค่ากับการรอคอยวันที่จะได้มาทานมากๆ อร่อยสุดๆค่ะ พอเราเลือกmenuได้แล้วเราก็เลือกระดับความสุกของเส้น ว่าอยากได้สุกมากแค่ไหน มีให้เลือกถึง4ระดับเลย คือ soft,normal,hard,very hard ซึ่งราเม็งปกติบางทีจะใช้เวลาลวกเส้นเฉลี่ยประมาณ1นาที แต่ถ้าอย่างเลือก hard หรือ very hard จะใช้เวลาลวกเร็วมากๆๆแค่2-5วินาทีเท่านั้น!! ส่วนตัวเราเองวันนี้สั่งเส้นแบบhardซึ่งพอทานแล้วมันไม่แข็งแบบนั้นนะคะ แต่เส้นแบบนี้จะมีความหนุบในตัว เหนียวนุ่มกำลังดี และถ้าเราทานช้าๆ เส้นจะสุกขึ้นอีกนิดนึงด้วยทำให้นิ่มขึ้นอีกนิด เราว่าสั่งแบบนี้ก็ดีค่ะ ยกเว้นใครชอบแบบนิ่มเลยก็ลุยเลย เส้นของที่ร้านจะเป็นเส้นทำมือ ทำเองทั้ง2แบบเลยค่ะ เรียกว่าต้นตำรับแน่นอน เมื่อเลือกราเม็งเราได้เรียบร้อยแล้วคราวนี้ใครอยากสั่งเพิ่ม toppingอะไรก็ตามใจชอบ ได้แก่ -ไข่ไก่ -สาหร่าย -หมูชาชู* หมูชาชูที่นี่ทำได้ดีมากค่ะ หมูบางนุ่ม ตุ๋นจนเปื่อย มีกรรมวิธีการทำละเอียดอ่อนมาก ต้องเอาหมูไปแช่โชยุไว้วันนึงก่อนจึงจะมาทำได้ อร่อยดีมากค่ะ แต่ชิ้นไม่หนามาก 4. Sweet corn tempura (เมนูนี้เป็น chef special เมนูใหม่ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคมจะทำวางขายที่สาขานี้ก่อนและจะไปขายที่เอ็มโพเรียมในช่วงกุมภาพันธ์ค่ะ) เมนูนี้เชฟตั้งใจทำให้เทมปุระแตกต่างจากปกติที่เราทานๆกันที่มักเห็นเป็นกุ้งทอด หรือผักมาทอด แต่ที่วันนี้ได้ทานเป็นการเอาข้าวโพดหวานมาทอดเป็นเทมปุระค่ะ ซึ่งเชฟทอดได้กรอบเหลืองหอมทีเดียว เคี้ยวลงไปรสชาติหวานหอมของข้าวโพดเด่นดีมาก นอกจากจะสัมผัสกรอบๆแล้วพอเคี้ยวลงไปยังกรุบๆเม็ดข้าวโพดอยู่ด้วยค่ะ ถือว่าใช้ได้เลย แต่อาจจะยังไม่โดดเด่นเท่าจานอื่นๆนะคะ 5. Teba pork gyoza(เมนูนี้เป็นเมนู chef special ในช่วงมกราคม-มีนาคมจะทำวางขายที่สาขานี้ก่อนและจะไปขายที่เอ็มโพเรียมในช่วงกุมภาพันธ์ค่ะ)** เมนูนี้หน้าตางงๆนิดๆ ไหนบอกชื่อเป็นเกี๊ยวซ่า ทำไมหน้าตาเป็นปีกไก่ พอลองทานเท่านั้น ถึงบางอ้อเลย คือด้านล่างปีกเป็นไส้เกี๊ยวซ่าที่ทุกขั้นตอนทำด้วยมือ เพื่อให้ได้เกี๊ยวที่ไส้มีความชุ่มฉ่ำอหวานอร่อย เมนูนี้ชอบเลย เพราะนอกจากจะความหวานของเนื้อหมูกับหัวหอมสับแล้ว กลิ่นหอมของหอมยังกรุ่นเบาๆกำลังดี แถมด้านนอกแป้งทอดกรอบดีมากด้วย ที่ขาดไม่ได้คือน้ำจิ้มสุดๆมาก เหมือนทำมาจากน้ำมันงาผสมกับพริกเผา รสชาติเผ็ดหอมจี๊ดขึ้นจมูกเลย ชอบมากจริงๆ 6. Cheesebaked potato salad with tobiko(เมนูนี้เป็น chef special เมนูใหม่ในช่วงมกราคม-มีนาคมจะทำวางขายที่สาขานี้ก่อนและจะไปขายที่เอ็มโพเรียมในช่วงกุมภาพันธ์ค่ะ) มาถึงเมนูพิเศษจากเชฟเมนูสุดท้ายที่เชฟตั้งใจแหวกแนวจากสลัดมันฝรั่งที่เราคุ้นเคยว่าต้องทานเย็นๆ แต่อันนี้เสิร์ฟแบบร้อนค่ะ โดยทำให้คล้ายๆกราแตงค์นิดๆโดยใส่ครีมชีสลงไปผสม ท๊อปด้วยไข่ปลานิดๆ เมนูนี้ก็อร่อยค่ะ เนื้อมันฝรั่งบดละเอียดเนียนนุ่ม เนื้อมันมีผสมเนื้อปูด้วยหอมปูมากค่ะ รสชาติหอมหวานอร่อยมาก เข้มข้นชีส แต่ไม่เลี่ยนเลย 7. Matcha parfait มาถึงเมนูปิดท้ายของวันนี้เสริฟมาเครื่องล้นสุดๆ ขนาดทุกคนเริ่มอิ่มกันแล้วยังตาลุกวาวเลย ฮ่าๆ เริ่มต้นที่ฐานด้านล่างจะเป็นคอนเฟรครสหวานๆหอมน้ำผึ้ง ตามด้วยวุ้นฟรุตสลัด มัชชะเยลลี่ วิปครีม ไอศกรีมชาเขียว ถั่วแดง เชอรี่ และชิราทามะ ตกแต่งด้วยป๊อกกี้ชอกโกแลตแอลมอนเพิ่มความหอมมันลงไปอีก เว่อวังอลังการมากๆค่ะ สำหรับใครที่ชอบของหวานแนวทรงเครื่องมากๆนี่อย่าได้พลาดเลย ซึ่งส่วนตัวแล้วเมนูนี้ถือว่าใช้ได้ค่ะ เพราะได้รสชาติที่หลากหลายมากตั้งแต่ความหนึบๆของชิราทามะที่ทานคู่กับถั่วแดงหวานๆและไอศกรีมแล้วเข้ากันสุดๆ ทานไปถึงก้นยังมีเซอไพร้กรอบๆเป็นคอนเฟรคให้ด้วย แต่ไอศกรีมอาจจะยังไม่เข้มรสชาเขียวมากๆ ออกหวานหอมนมหน่อย แต่ส่วนตัวชอบออกขมๆเข้มมัทชะมากๆหน่อย เลยอาจยังไม่โดนมากถ้าใครชอบไอศกรีมนมๆหน่อยน่าจะชอบค่ะ ••เพิ่มเติมๆ•• - จุดเด่นของippudoคือมีconceptว่าเป็นราเม็งที่ผู้หญิงก็ทานได้ เพราะ ราเม็งส่วนมากจะเน้นให้เส้นเยอะๆ และซุปค่อนข้างมัน แต่ippudo จะให้เส้นกำลังดี เพราะนอกจากเส้นที่นี่จะทำเส้นค่อนข้างเล็กแล้ว ที่ร้านกลัวว่าถ้าให้เส้นมากไป น้ำที่ร้อนระอุในชามจะทำให้เส้นที่ทำแบบเล็กๆอืดได้ ดังนั้น ถ้าเราทานหมด แล้วยังไม่อิ่ม เราก็สามารถสั่งเส้นมาใส่เพิ่มกับซุปที่เหลือได้ค่ะ - ร้านไม่มีบริการสั่งกลับบ้านนะคะ - ippudoมีสาขาทั่วโลกเลย โดยมากวัตถุดิบก็จะส่งตรงมาจากญี่ปุ่น จะมีบางส่วนเท่านั้นที่อาจจะหาจากในประเทศ ซึ่งมาตรฐานต้องเป็นมาตรฐานเดียวกันเท่านั้นและเราก็สามารถมั่นใจได้ว่ารสชาติที่ได้รับจะใกล้เคียงต้นตำรับที่สุด เพราะ มีเชฟส่งตรงจากญี่ปุ่นมาคุมการผลิตด้วยตัวเองเลยค่ะ - เร็วๆนี้เชฟบอกว่าจะมีพัฒนาน้ำซุปจากแบบกระดูกหมู เป็นแบบโชยุ มิโสะอีกด้วย เพื่อให้มีความหลากหลายเชฟก็จะเปลี่ยนซุปไปทุกๆ3เดือนค่ะ ••สรุป•• คือตอนแรกเคยสงสัยว่าทำไมคนต้องมาต่อแถวรอทานกันเยอะมาก หรือเป็นกระแส? แต่พอได้มาลองทานแล้ว รับรู้ได้จริงๆถึงความพิถีพิถัน ในกระบวนการแต่ละขั้นตอน ตอนทานรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นกรรมการทีวีแชมเปี้ยนเลย ฮ่าๆๆ ได้ทานราเม็งซุปกระดูกหมูขั้นเทพแล้ววว อร่อยจริงๆค่ะ เลยอยากมาบอกต่อว่าใครยังไม่ได้ทาน อย่าได้พลาด ไม่ว่าจะสาขานี้หรือสาขาที่กำลังจะเปิดใหม่ที่เอ็มโพเลียมในวันที่ 17มกราคม แล้วจะเข้าใจว่าทำไมเพียงแค่ไม่กี่เดือนหลังเปิดตัวสาขาแรก ถึงต้องขยายสาขาอย่างรวดเร็ว แต่10ปากว่าไม่เท่ามือถึงค่ะ ถ้ามีโอกาสไปเลือกรสชาติสไตร์คุณที่Ippudoเลยค่า ร้านเปิดบริการทุกวันเวลา 10:30-22:00 สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2160-5672... อ่านต่อ
54 Likes0 Comment
photo