- หน้าแรก
/
- 🍵 Hot Green Tea. (บริการฟรี) ร้าน SUSHIRO THAILAND Central Rama 2
🍣 Otoro คำละ 40 บาท ซูชิสายพานอันดับ 1 จากญี่ปุ่นสู่พระราม 2 เป็นที่เรียบร้อย @Sushiro Central Plaza Rama 2ขอไปเปิดร้านซะหน่อย!! เขาว่าเป็นร้านซูชิอันดับ 1 จากญี่ปุ่นขนาดนี้ ได้เปิดตัววันแรก (3 สิงหาคม 2565) สำหรับสาขา Central Plaza Rama 2 ในโซน Three Chamber พร้อมกับโปรโมชั่นล่อตาอย่าง “Otoro” เพียงคำละ 40 บาท เท่านั้น!!!
• การได้เห็นการจ่อคิวยาวตั้งแต่ห้างเปิด เป็นอะไรที่เหมือนจะการันตีว่ามันต้องสุดยอดแน่ๆ เอาจริงๆ ผมไม่รู้จักแบรนด์นี้มาก่อนเลย (เชยหรือเปล่าไม่รู้) เห็นคิวยาวเป็นชั่วโมงก็สบายใจละ มันต้องดีแน่ๆ !!!!
• เกือบชั่วโมงถึงจะได้ตีตั๋วเข้าไป นั่งกินซูชิอันดับ 1 ครั้งแรกในชีวิต
• บรรยากาศดูคึกคักทำให้รู้สึกหึกเฮิมว่าจะได้กินอะไรที่ประทับใจแน่ๆ
• การบริการดีเยี่ยม อาหารสดใหม่และดูน่ากินมากในทุกๆ จานเลยทีเดียว
• ถึงขั้นตอนการรัวหยิบไม่ยั้งสั่งไม่คิดชีวิต
• เทคโนโลยีล้ำทันสมัย แนะนำให้จิ้มเอาจากหน้าจอไม่ต้องรอสายพานที่ต้องมาคำนึงว่าใครหยิบแล้วใส่กลับคืนไปบ้าง อาหารจะถูกเลื่อนมาที่โต๊ะแบบเอ๊กคลูซีฟกว่าบนสายพาน และมาไวกว่าที่จะนั่งจ้องให้ของที่ต้องการเลื่อนมาเสียอีก
• 🍵 “ชาเขียว” มีบริการฟรี โดยที่ไม่รู้มาก่อนและไม่มีป้ายหรือการแนะนำใดๆ ที่โต๊ะเลยว่า “เฮ๊ยนี่ผงชาเขียว นี่ก๊อกน้ำร้อนที่โผล่มาบนโต๊ะนะ เอาเป็นว่าเขามีให้ผงชาเขียวคุณภาพดีมากเลยหละแล้วผสมน้ำร้อนเอาซดก่อนวอร์มรออาหารครับ
• ☕️ “กาแฟ” มีให้โดนราคาไม่แพงอย่าง “ลาเต้เย็น” ราคาก็แค่แก้วละ 40++ บาท รสชาติถือว่าดีในระดับนึงแต่ก็ไม่ได้ว่าหอมกลมกล่อม ราคานี้ถือว่าสมคุณค่า
• ในส่วนของอาหารว่ากันในภาพรวมผมถือว่า “โคตรธรรมดา” ไม่ได้โดเด่นอะไรเป็นพิเศษ แถมมีความรู้สึกว่า “ร้านบุฟเฟต์” หัวเรทราว 6-800 บาท ยังทำได้ดีกว่าเสียอีก (ไม่นับรวมพวกวัตถุดิบฟากฝั่ง บลูฟิน ที่มันแพงกว่าเรืบุฟเฟต์) พวก “หมึก, กุ้งหวาน หรือแม้กระทั่งแซลมอล” เองที่แจ้งว่าคัดพิเศษคำละ 40++ บาท นั้น บุฟเฟต์เกรดยังดีกว่าด้วยซ้ำ (ร้านข้างถนนบางร้านยังอร่อยกว่าเลยบอกตรงๆ) “ข้าวก้อนใหญ่หน้าน้อย ปลาบาง” จนแทบไม่ได้รสสัมผัสของปลาเลย พวกเนื้อวัวหรือปลาไหลเองก็ผิดคาด ทำได้ไม่ดีถ้าไม่บอกว่านี่คือ “อันดับหนึ่ง” แทบแยกไม่ออกว่า “อลาคาร์ทหรือบุฟเฟต์” จริงๆ “โอโทโระ” เมนูคาดหวังเฉยๆ เหมือนกิน “ทูน่า หรือ มากุโระ” ธรรมดาๆ นั่นเลย ชูโทโร่และอากามิ ไม่ได้ทำให้ประทับใจอะไรเลย (จำได้ว่าพวกนี้จะละลายในปากอะนะ) อาจจะเป็นเพราะเขามีเกรด “คัดพิเศษอีกรอบในราคา 120++ / คำ” ที่จะดีกว่านะก็เป็นไปได้ สิ่งที่ “ประทับใจที่สุด” ในมื้อนี้ก็คือ “เศษเอ็นกาวะ” อร่อยมากนะแต่มาแบบแทบจะเรียกได้ว่า “ปลาเส้น” เลยเล็กมาก แต่อร่อยจริงๆ อีกอันคือ “โฮตาเตะ” ตัวใหญ่หวานสดเด้งดีมากอร่อยครับ “ข้าวทุกคำ” ล้วนแข็งไม่มีความหนึบเท่าที่ควรและคีบแล้วแตกหล่นทุกคำเลย พวกของร้อนก็สั่งมาหลายเมนูแบบไม่กลัวอิ่ม “🍜 ราเมน” ของชอบของผมก็มีเลยไม่พลาดที่จะสั่ง เส้นโอเครสชาติใช้ได้เกินราคาโปรโมชั่น 70+ บาท ดีแต่ไม่มีหมูชาชูเหมือนในรูปแหะ (ราคาปกติ 100 แต่ไม่มีชาชูแล้วมาบอกราคา 70++ เป็นราคาโปรโมชั่นเปิดร้านไม่ได้นะคร้าบบบ) “อุด้งเทมปุระ” ชามนี้คุ้มที่สุดสำหรับผมแล้วราคาแค่ 100++ บาท ชามกำลังดีรสชาติดีเส้นหนุบหนับดีที่สุดในมื้อนี้แล้ว (ทำไมไม่ใช่ซูชิว้าาาา)
• ทั้งหมดโดนไปเหยียบพันบาท รู้สึกว่า “กินบุฟเฟต์ Koeun หรือ Neta Grill” ดีฟ่าเย๊อะะะ คร้าบบบบบ
• มุมมอง Metto // ผิดหวังเลยหละ คือสิ่งนึงต้องบอกก่อนว่าผมมักจะไม่ค่อยชอบร้านอลาคาร์ทเท่าไหร่ (ถ้าอาหารชนิดนั้นมีแบบบุฟเฟต์ให้เลือกก็จะคิดว่ากินบุฟเฟต์สิคุ้มกว่า) ใครจะว่าเกรดไหนก็เอาเถอะ แต่ลองเปิดใจให้กับแบรนด์นี้ เพราะว่า “มันอาจจะรสชาติหรือคุณภาพวัตถุดิบ” อาจจะคนละเกรดกันก็ได้ บางทีเราอาจจะปิดกั้นว่าอ๋อซูชิเหรอ ซาชิมิหรอกินแบบไม่อั้นดีกว่า อาจจะพลาดไปไม่งั้นร้านอลาคาร์ทเขาจะขายได้หรอประมาณนั้น พอได้กินแบรนด์นี้ด้วยความที่การันตีเครมว่า “ร้านซูชิสายพานอันดับ 1 จากญี่ปุ่น” และมีสาขาในไทยหลายสาขา แล้วหลายๆ คำ ก็ตอบได้คำเดียวว่า “กินบุฟเฟต์บางร้านยังทำซูชิได้อร่อยกว่าจริงๆ” แถมยังกินได้ไม่อั้น (เทียบกับแซลมอน, กุ้ง, เอ็นกาวะ, โฮตาเตะ) คุ้มค่ากว่าไหนๆ หรือผมอาจจะเข้าไม่ถึงรสชาติจริงๆ ก็เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ เพราะราคา 900 กว่าบาท ดีจ่ายไปมื้อนี้ สามารถจ่ายให้กับบุฟเฟต์พรีเมี้ยมที่ทำได้ดีกว่าแต่กินได้มากกว่าและหลากหลายกว่าจริงๆ หรือร้านที่คนไทยทำเองทำเก่งเทียบต้นฉบับขายในราคาถูกได้ก็ไม่รุ้เหมือนกันครับ
1 Like0 Comment
