3.8
53 เรตติ้ง (53 รีวิว)
Ramen King A Square
ต้อนรับลมหนาวที่กำลังมาถึง
ศึกสายเลือดซามูไรสู่การชิงแชมป์ราเมน ใครจะเป็นผู้ชนะคุณเป็นผู้ตัดสินด้วยตัวคุณเอง @Ramen King A Squareก่อนอื่นต้องกล่าวคำขอบคุณทางร้าน,พนักงาน,เชฟ,ผู้บริหารรวมถึงซาโจ้ Ramen King และ "ทุกอย่างกับความเป็นวงใน" สังคมที่หล่อหลอมหลากหลายสมาชิกหลากหลายที่มา สู่การเป็น "คนพูดภาษาเดียวกัน" อย่างการรักการชิมมาใน ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับ สำหรับการได้รับเชิญให้ร่วมงานเปิดตัวและศึกชิงแชมป์จากเชฟสายเลือดเดียวกัน แต่มาจากต่างแดนในวันนี้ด้วยครับที่จัดกิจกรรมดีๆ ให้ทางบรรดายูสเซอร์ได้พบปะพูดคุยทำความรู้จักที่หาจากการมาทานคนเดียวไม่ได้ เพราะนอกเหนือจากรสชาติอาหารที่ดีแล้ว มากกว่านั้นคือ "มิตรภาพ" ที่ดีเช่นกันที่ทำให้ผมมีความทรงจำในการกินราเมนของโปรดในวันนี้ครับ (14 ตุลาคม 2557) ผมขอเขียนยาวหน่อยนะครับ เพราะว่าเขาให้ใจเรามาขนาดนี้ วงในให้โอกาสผมขนาดนี้ เลยทำได้แค่ตอบแทนเป็นตัวอักษรซึ่งทำได้เพียงเท่านี้จริงๆ ครับ ทนอ่านกันหน่อยนะครับอยากให้อ่านจนจบจัง ผมใช้เวลาอัพรูปคิดข้อความ 4 ชั่วโมงเต็มๆ เลยหละครับ - Ramen King ร้านราเมนสไตล์ญี่ปุ่นของแท้ที่ปรุงจากชาวญี่ปุ่นจริงๆ สูตรจริงๆ อย่างที่ญี่ปุ่นกินยังไง คนไทยกินอย่างนั้น ไม่ใช่ราเมนที่ต้องมาประยุกต์เพื่อเอาใจคนไทยแต่อย่างใด นอกจากอาหารหลักๆ อย่าง "ราเมน" แล้วทางร้านก็ยังมีอาหารเรียกว่าแทบจะทุกอย่างที่บ่งบอกว่า นี่แหละร้านอาหารญี่ปุ่น เพื่อคออาหารญี่ปุ่นเมื่อมาที่สถานที่แห่งนี้แล้ว "ครบครัน" ที่เดียวอิ่มจบไม่ต้องไปต่อที่ไหนก็ได้ เปิดอยู่ในซอยสุขุมวิท 26 โครงการ A Square การเดินทางมาที่นี่สำหรับผม "สุขุมวิท 26" มายากครับเข้าซอยมานานกว่าจะถึง สะดวกที่สุดมาทางพระรามสี่ "ง่ายกว่าเยอะ" ไม่รู้ทางร้านตั้งใจเพื่อให้เหมือนร้านอยู่ย่าน "สุขุมวิท" ซึ่งฟังดูดีกว่า "พระรามสี่" หรือเปล่า เพราะผมมองการเดินทางยังไงๆ มันก็อยู่ "พระรามสี่" นะเพียงแค่น่าจะเรียกว่าซอยทางลัดไปโผล่ "สุขุมวิท 26" มากกว่าครับ จุดสังเกตหลักเลยคือ "บิ๊กซี พระรามสี่" ครับ เลี้ยวซ้ายซอยนั้นเลยเจอร้านเลยครับ ถึงก่อนช่องสามพระรามสี่คร้าบบ - บรรยากาศของ Ramen King A Square ร้านกว้างใหญ่ครับมีสองชั้น ชั้นล่างเป็นโซนอาหารและที่นั่งรับประทาน ชั้นสอง เป็นเหมือนพวกห้องจัดเลี้ยงซึ่งสามารถจุคนได้เป็นร้อยคนเลยทีเดียวครับ ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นผสมๆ โมเดิร์นนิดหน่อยแต่หลักๆ เลยจะเป็นญี่ปุ่นขนาดแท้เสียมากกว่า ซึ่งภาษาที่เราจะได้ยินในร้านนั้นเอาเป็นว่าเข้าไปนึกว่าอยู่ญี่ปุ่น เพราะได้ยินเสียงคนญี่ปุ่นคึกคักเหลือเกินฟังแล้ว "ฮึกเหิม" ครับ เรียกว่าน่านั่งทานราเมนมากๆ แต่นิดนึงค่อนข้างอบอ้าวซักเล็กน้อย เจอราเมนร้อนๆ เข้าไปนี่มีเหงื่อแตกพลั่กได้ครับ - การบริการของร้าน Ramen King A Square ยอดเยี่ยมสไตล์ญี่ปุ่นหละครับ เรียกว่าทั้งเชฟทั้งพนักงานเสิร์ฟซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่นทั้งสิ้น ยิ้มแย้มแจ่มใสหายากที่จะเจอการเหวี่ยงเรียกว่าไม่มีเลยจะดีกว่า ตรงนี้ผมเห็นละผิดหวังการบริการของคนไทยสำหรับร้านที่มีชื่อเสียงหน่อยทำสีหน้าไม่ค่อยอยากขายของ แบบพอลูกค้าเยอะหรือลูกค้าน้อยขึ้นอยู่กับอารมณ์เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ ต่างกับคนญี่ปุ่นเยอะ ไม่ว่าจะมีน้อยหรือเยอะ รอยยิ้มมีให้คุณเสมอหละครับ เรียกว่า "เขารู้ทั้งรู้ว่าเขาพูดอะไรมาคนไทยฟังไม่รู้เรื่องหรอก แต่ก็พูดแบบเสียงดังฟังชัดยิ้มไปพูดไปโดยไม่สนใจเลยว่าเอิ่ม ตึ๊บนะตึ๊บ" ดีนะวันนี้มีล่ามมาด้วยเลยทำให้การพูดคุยเป็นไปได้อย่างราบรื่นครับ ขนาดที่ว่ามาถามว่ารสชาติเป็นยังไง คอมเม้นท์ไปว่า "ลิ้นวัวเหนียวมาก" แค่นั้นไม่นานก็เอาชามใหม่มาเลยเซอร์ไพร์สสุดๆ ไม่ได้มาแค่ "ลิ้นใหม่" นะ มาทั้งชาม ถ้าเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวไทยเจอแมลง บอกไปก็ "ละละละยังไง ไม่มีไรดีขึ้น" นี่แหละครับความต่างจึงทำให้ร้านนี้ยอดเยี่ยมในแง่การบริการครับ - คุณภาพของอาหารและราคาของ Ramen King A Square ตรงนี้มีวันนี้ผมจะมาในฐานะแขกที่มาจากวงใจ ผมจะไม่อธิบายแค่ธีมของงานเท่านั้นนะครับ ผมขอรีวิวไปถึงอาหารส่วนอื่นๆ ไปด้วยเนื่องจากทางร้านเสนออาหารให้มากกว่าที่แจ้งไว้ในตอนแรกครับ ก็ถือว่าเป็นของแถมไปแล้วกันนะครับ ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นร้านอาหารที่บริหารโดยคนญี่ปุ่นแล้วนั้น เรื่องความสดและความสะอาดนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ เขาใส่ใจเป็นพิเศษส่วนนี้ขอข้ามไปเลยเป็นในเรื่องของราคา ซึ่งสำหรับผมก็มองว่าเหมาะสมนะครับสำหรับคนไทย คือจะว่าถูกหรือเปล่าก็ไม่ใช่เพราะชามเล็ก จะว่าแพงก็ไม่ใช่เพราะมันก็ไม่ถึงร้อยบาท (ก็มี) มาในวันนี้ที่ทางร้านจัดรายการ "ศึกชิงแชมป์" ก็นำเสนอในราคาเพียงชามละ 99 บาท เท่านั้น ในส่วนของอาหารทานเล่นก็จะมีหลากหลายราคาครับมีตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักพัน ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบและความอลังการของอาหารที่เราจะสั่งครับ แต่ส่วนใหญ่เท่าที่ดูก็เป็นมาตรฐานตามร้านอาหารนอกบ้านหละครับ ขอบอกว่าคุ้มค่ากับปริมาณและราคาครับ ในส่วนของรายละเอียดอาหารที่วันนี้ผมได้ทำการจัดการชิมมาทั้งหมดขอแยกแยะแบบเป็นรายละเอียดย่อยตามนี้เลยครับ (ปกติจะเรียงจากอาหารทานเล่นไปจานหลักแต่วันนี้ผมขอทำตามลำดับที่ทางร้านเสิร์ฟแล้วกันนะครับ โดยจานหลักมาก่อนและของทานเล่นและจานหลักอื่นๆ ตามมาทีหลังครับ) ++ เกล็ดเล็กน้อยก่อนทานราเมน ++ คนไทยเราไม่ค่อยคุ้นกับการกินราเมนแบบญี่ปุ่นแท้ๆ เท่าไหร่นัก เพราะว่า "ความมัน" ที่มาแบบระดับมันมากชนิดลอยละล่องฟูฟ่องเลยทีเดียว นี่เป็นสิ่งที่เราต้องยอมรับครับ และเป็นสิ่งที่ญี่ปุ่นไม่ยอมเปลี่ยนสไตล์แม้ว่ามันจะทำให้ไม่ได้รับความสำเร็จในตลาดบ้านเรา ดูจากการปิดตัวลงของร้านราเมนแท้ๆ แต่กลับราเมนที่ผมกล้าบอกได้เลยว่า "ราเมนปลอม" อย่างร้านที่เราเห็นตามห้างที่คนต่อคิวเยอะๆ นั่นแหละ อันนั้นหนะมันถูกปากคนไทยมากกว่า แต่ที่ญี่ปุ่นไม่ยอมเปลี่ยนแปลงเพราะว่า บ้านเขาอากาศหนาวครับ การได้ทานอาหารที่มีไขมันสูงซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า "ไขมัน" มันช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย เลยทำให้เป็นอาหารยอดนิยมที่คนญี่ปุ่นขาดไม่ได้ เพราะบ้านเขาเมืองหนาวครับ การได้ทานราเมนร้อนๆ มันช่วยให้เขาทนอยู่ในสภาพแบบนั้นได้โดยไม่ยากเย็น แต่สำหรับบ้านเราๆ จะมองว่ามัน "เลี่ยน" ยิ่งบ้านเราเมืองร้อนเราไม่ต้องการไขมันครับ เราต้องการความเผ็ดร้อน 555 แทนครับ นี่แหละครับทำให้ผมเห็นความมุ่งมั่นแบบ "ต้นตำรับเป็นแบบนี้ จะชอบไม่ชอบก็ยังมั่นคงในความเป็นตัวตน" ไม่เหมือนอาหารขึ้นชื่ออย่างบ้านเรา "ต้มยำกุ้ง" กินที่ไหนประเทศอะไรปรับหมุนเวียนตามคนกิน ซึ่งสำหรับผมอยากให้ "ต้มยำกุ้ง" เป็นแบบราเมนครับ ต้นฉบับยังไง เอาอย่างนั้นเพราะมัน "เป็นอาหารสร้างชื่อบ้านเรา" จะไม่ประสบความสำเร็จในต่างแดนช่างมัน เอาความเป็นไทยให้เขาเออนี่รสชาติไทยนะไทยแท้เป็นแบบนี้ เหมือนที่ญี่ปุ่นเขาทำเลยครับ แต่ร้านตามห้างมักจะจับมาฟิวชั่นทำราเมนต้มยำ ราเมนต้มโคล้ง อะไรก็ว่าไปเอาเม็ดเงินเข้าว่า ญาติคนญี่ปุ่นที่ผมรู้จักยังบอก "เละเทะ โออิชิคุไน่ (แปลว่าไม่อร่อยครับ)" - เมนูแรก ++ Ikkyu Tonkotsu Ramen ++ (ราคา 99 บาท) ราเมนซุปกระดูกหมูยอดนิยมจากราเมนคิงฮ่องกง โดยเชฟ Higurashi มีทีเด็ดที่น้ำซุปที่เคี่ยวกรำนานเป็นสิบชั่วโมงเพื่อได้น้ำกระดูกหมูที่สุดแสนจะเข้มข้น พร้อมกับ "หมูชาชูแบบพิเศษ" ที่ไม่สามารถหาทานจากที่ไหนได้โดยผ่านการทำด้วยกรรมวิธี "ทำให้สุกโดยอุณหภูมิต่ำและอยู่ในสภาพสูญญากาศ ทำให้เนื้อหมูยังคงสภาพเนื้อเป็นสีชมพูและนุ่มหอมเป็นพิเศษ" รสชาติคล้ายๆ กับเรากินแฮมรมควันประมาณนั้นครับ เส้นราเมนเป็นแบบเส้นเล็ก ซึ่งเข้ากับน้ำซุปกระดูกหมูที่มันจะทำให้น้ำซุปเคลือบเส้นได้เต็มที่ครับ ญี่ปุ่นจึงนิยมใช้เส้นเล็กสำหรับราเมนซุปกระดูกหมูครับ - เมนูที่สอง ++ Tokyo Tonkotsu Shoyu Ramen ++ (ราคา 99 บาท) เชฟ Horikawa ตัวแทนจากโตเกียวมาในสูตรโบราณซุปกระดูกหมูใช้ไขมันส่วนหลังมาเคี่ยวหลายชั่วโมงจนเข้มข้นชามนี้มันเป็นพิเศษยิ่งล่อยให้ซุปเย็นลงยิ่งหนืดครับจะเลี่ยนต้องรีบทานร้อนๆ ชามนี้ขอบอกว่าผมชอบมากที่สุดและโหวตให้ในวันนี้ครับ อร่อยมาก มาพร้อมกับหมูสามชั้นตุ๋น (คาคุนิ) ซึ่งอร่อยมากเพียงแต่น่าจะมาชิ้นใหญ่กว่านี้แล้วมาเป็นชิ้นเดียวน่าจะดูสวยและน่าทานกว่านี้ครับ แต่เข้าใจว่าด้วยราคาทางร้านเลยต้องทำให้เป็นชิ้นเล็กแบบนั้นมั้งครับ เส้นมาเป็นแบบเส้นใหญ่หยัก ผมชอบเส้นลักษณะนี้มาก ยิ่งลวกแข็งๆ ยิ่งชอบ สรุปชามนี้ต้องสั่งอร่อยมากจริงๆ และการโหวตจากการยกมือจากสมาชิกทั้งหมด ชามนี้ชนะเลิศสำหรับกลุ่มที่เรายกพลไปวันนี้ครับ เชฟคนนี้ฮาครับมีซาบซึ้งน้ำตาไหลบอกจะกลับบ้านไปบอกแม่เล่นเอา ฮาแตกไปเลยวันนี้ - เมนูที่สาม ++ Noko Tori Shio Ramen ++ (ราคา 99 บาท) โดยเชฟ Ishigaki ตัวแทนจากสิงคโปร์มาในซุปไก่เข้มข้น แต่รสชาติเบาบางอุดมไปด้วยคอลลาเจนจากการเคี่ยวรีดออกมาจากไก่เต็มๆ รสชาติก็ไก่เต็มๆ เลยครับ ซดได้แบบไม่เลี่ยนชามนี้มาพร้อมกับเนื้อไก่ที่ทำมาเหมือนชาชูมาก แต่ไม่ใช่มาพร้อมกับลูกเล่นเล็กน้อยด้วยการแนะนำให้บีบมะนาวลงไปบนเนื้อไก่ แต่สำหรับผมชิมไก่ก่อนแล้วค่อยบีบมะนาวลงไปสรุปผมชอบแบบไม่บีบมะนาวมากกว่าครับ สำหรับผมชามนี้อร่อยแบบธรรมดาครับ - เมนูที่สี่ ++ Tori Komi Shio Ramen ++ (ราคา 99 บาท) โดยเชฟ Higurashi (อีกครั้ง) เป็นซุปไก่อีกเช่นเคยครับ แต่มาแบบสไตล์จีนโบราณซึ่งรสชาติอ่อนเบาบางซุปได้ทั้งวันหละครับ รสแบบนี้รสมันคล้ายๆ สำหรับผมนะเหมือนกินต้มผักกาดดองอ่อนๆ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า มาพร้อมเนื้อไก่แสนธรรมดา เรียกว่าชามนี้ผมว่าธรรมดามากที่สุดเลยครับ ไม่มีอะไรตื่นตาตื่นใจกับการกินราเมนเลยครับ แค่ทานได้เรื่อยๆ ซดคล่องคอที่สุดในทั้งสี่ชนิดที่กินวันนี้ครับ หมดแล้วครับราเมนที่ทางร้านแข่งขันกันเองทีนี้มาในส่วนของใครที่ไม่สะใจและสามารถสั่งได้เลยมีตามนี้ครับ ++ Gyutan Ramen หรือ ราเมนลิ้นวัวย่าง ++ น้ำซุปกระดูกหมูผสมโชยุเข้มข้นอร่อยมาก ชามนี้ถ้าจะทานเผ็ดก็จะมีพริกชนิดเผ็ดสะท้านทรวงอกได้เลยครับ เผ็ดมากนะครับ ตอนแรกเริ่มจากซดซุปปกติซึ่งกลมกล่อมอร่อยดี แต่พอผสมพริกลงไปเอิ่มเป็นเผ็ดโดดมาอย่างเดียวแต่สะใจดีครับ ลิ้นวิวสไลด์มาหนาและย่างมาสุกเกินไป ทำให้เหนียวมากกก เคี้ยวไม่ได้เลย แต่ต้องทนเพราะเกรงใจเชฟเดี๋ยวเศร้าที่ทำออกมาแล้วทานไม่หมด แต่พอคอมเม้นท์ผ่านล่ามไปปรากฏว่าเซอร์ไพร์สเอาชามใหม่มาให้เลย อ๊ากอิ่มแล้วจะกินหมดไหม แต่ลิ้นวัวต่างกับชามแรกสิ้นเชิงเทียบรูปจากที่ผมลงดูได้เลย ชามที่สองจะมาแบบบางและมีมันส์แทรก แล้วย่างมาพร้อมปรุงใส่พริกไทย หอมอร่อยมาก โะ๋เชฟจริงแล้วๆ ตั้งใจทำให้ชามแรกไม่อร่อยหรอเนี่ยแกล้งกันชัดๆ แต่ชามสองทำให้โอเคครับ อร่อยดีต้องสั่งครับ ชามนี้ ++ Special Black Garlic & Vegetable Tonkotsu Ramen ++ อันนี้ได้เพียงชิมซุปครับเพราะสาวๆ ร่วมโต๊ะส่งมาให้เทสต์ซึ่งน้ำซุปแบบนี้ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ มันเป็นการผสมถ่านลงไปในน้ำซุปเพราะจำได้ว่าเคยกินแถวอารีน่าเทน คุณสมบัติของมันมีคุณค่าช่วยล้างระบบทางเดินอาหารและลำไส้ให้สะอาดเสริมสุขภาพครับ (ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ ถ้าผิดขออภัยด้วยครับ) มาพร้อมกับถั่วงอกผัดพริกไทยดำมา อารมณ์จะเหมือนกินสเต๊กของร้าน เป๊ปเปอร์ลั้นช์ ครับ แต่สิ่งที่งดงามมากๆ คือไข่ยางมะตูมครับ สวยงามเหลือเกินครับ ++ Gyoza หรือ เกี๊ยวซ่า ++ (ราคา 100 บาท) ไส้เยอะชิ้นใหญ่แป้งบาง นี่เป็นลักษณะที่ถูกต้องที่น่าจะเป็นเกี๊ยวซ่า รสชาติอร่อยดีมากครับชอบครับ เป็นของกินเล่นที่ต้องสั่งเมื่อมาร้านนี้ครับ ++ Tagoyaki หรือ ขนมครกญี่ปุ่นไส้ปลาหมึกยักษ์ ++ (ราคา 90 บาท) ลูกไม่ใหญ่มากมากันหกลูกกรอบนอกนิดๆ ข้างในไส้น้อยไปหน่อยแต่รสชาติโดยรวมก็อร่อยดีใช้ได้ครับ ++ Kaibashira Negimiso Yaki หรือ หอยเชลล์อบซอสมิโซะ ++ (ราคา 120 บาท) มาสองตัวผมไม่ได้กลิ่นโชยุนะมันเหมือนผมชีสมามากกว่าข้างในสับมาเป็นเต๋าเล็กๆ ผสมหัวหอมตอนแรกผมคิดว่าไม่มีเนื้อหอยเพราะคิดว่ามาเป็นตัวแล้วอบชีสอะไรงี้ แต่พอกินดีๆ ก็ถูกหั่นเต๋ามาผสมกับหัวหอมไปแล้วนั่นละ อร่อยดีแต่ไม่ติดใจเป็นพิเศษครับ มาสองตัวครับ ++ Salmon Sashimi หรือ แซลมอนดิบ ++ (ราคา 240 บาท) ราคาไม่ถูกนักเพราะมาห้าชิ้น แต่ลายสวยดีนะครับแต่สำหรับผมรู้สึกว่ามันไม่ค่อยสดเท่าไหร่ เพราะมันออกจะหนืดๆ ตรงผิวเนื้อปลาปกติมันจะหอมๆ ลื่นๆ แต่ยอมรับว่าลายสวยครับออกคาวนิดๆ แต่ไม่มากพอกินได้อืมมมม มันก้อร่อยหละนะ วาซาบิไม่ค่อยเผ็ดเท่าไหร่ต้องอัดสดๆ สองสามคีบน้ำตาถึงไหลพรั่งพรูครับ เสิร์ฟมาสวยดีบนฝาหอยเพิ่มมูลค่าครับ ++ Pudding หรือ พุดดิ้ง ++ ทางร้านยังไม่ทำออกมาจำหน่ายแต่เป็นของหวานพิเศษสำหรับพวกเราวันนี้ เลยไม่มีราคาแจ้งสำหรับผมอร่อยดีนะไม่หวานมาก หอมกลิ่นน้ำตาลไหม้ๆ มันก็คล้ายๆ กับคัสตาร์ดมั้งครับ อร่อยดีเนื้อเนียนนุ่มครับ หมดแล้วครับวันนี้อิ่มเอม เข้าขั้นอิ่มยันเช้า เพราะตอนนี้เขียนรีวิวไปยังอิ่มอยู่เลย แต่กลับมาขอบอกว่ากระหายน้ำสุดๆ อาจจะเป็นเพราะได้รับโซเดี่ยมจากการทานซุปที่เค็มพอสมควร ดื่มต่อเนื่องยังกระหายเลยครับ ต้องซักโค้กซีไร่เข้าไปค่อยยังชั่วขึ้นนะครับ ตอนแรกว่าจะจบแค่ราเมนแต่ "ซาโจ้" ร้านมาสะกิดเอวบอก "น่านะแคลิฟอเนียโรล น่านะ ไอ้ผมก็เอิ่มน้ำใจคนญี่ปุ่นนะ ไม่ได้พูดอะไร แต่พอฟังออกนิดๆ ว่าหมายถึงอะไร แต่ตอบไม่เป็น เขาเลยไปหยิบเมนูมาให้เลือกเลย" เลยเปิดดูอะไรที่มันน้อยสุดก็สั่งมาเพราะเดี๋ยวจะตายก่อน เลยสั่งพวก ปลาดิบ กับหอยเชลล์ตามที่เห็นในภาพหละครับ เรียกว่าต้องขอบคุณมากๆ เลยครับ คุ้มค่าคุ้มราคาแม้ต้องจ่ายเองครับ มานั่งดูรูป เอิ่มนี่เขาเลี้ยงดีเกินไปหรือเปล่านะจัดเต็ม จัดหนัก จัดจนจุกกันถ้วนหน้าขอบคุณนะครับ - มุมมอง Metto เห็นใจทางร้านจังครับ เพราะทางร้านมาบอกว่าช่วยเขียนรีวิวแนะนำหน่อยนะเพราะร้านเงียบมากไม่รู้ทำไม อีกทั้งซาโจ้เองก็มาถามว่า ร้านราเมนในเมืองไทยที่มีคิดว่าร้านไหนอร่อยที่สุด ผมบอกว่าเป็นร้าน "Gantatsu กันเทสซึ" ที่อยู่ในอารีน่าเทนครับ คือเขาให้พูดตามความจริงเลยประมาณนี้ แต่สำหรับผมร้านนี้ ก็อร่อยมากเหมือนกัน และราคาจะถูกกว่าร้านที่ผมชอบ และอาหารที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลายมากกว่า บริการดีๆ แบบนี้ เจ้าของจิตใจดีแบบนี้ ขากลับผมต้องขอโทษทางเขา (ผ่านล่าม) ว่าชามราเมนลิ้นวัวที่เชฟเอามาให้โดยไม่บอกก่อนเนี่ยผมทานไม่ไหวจริงๆ เสียใจมั้ยเพราะผมอิ่มมากจริงๆ ใจจริงอยากกินให้หมดเพราะคนญี่ปุ่นนี่มารยาทเขาจะแบบตักอะไรเอาอะไรมาควรกินให้หมดอะครับ เลยได้แต่ขอโทษเขาไป แต่ทางซาโจ้เองก็บอกไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล แค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้ว ผมอยากให้ร้านนี้ประสบความสำเร็จ ยังไงถ้าชื่นชอบในรีวิวนี้ ผมอยากให้ไปลองทานราเมนที่นี่ซักครั้งนะครับ อย่างน้อยไป "กินความตั้งใจ" ของเขาครับ แล้วคุณจะประทับใจในความเป็นตัวตนของสถานที่แห่งนี้ "ราเมนคิง" ครับ แถมท้าย...หน้าหนาวที่กำลังจะมาถึงทางร้านมีลานเบียร์เล็กๆ ให้บริการในแบบุฟเฟ่ต์ ด้วยเบียร์ยี่ห้อ "อาซาฮี" ท่านละ 299 บาทในเวลา 2 ชั่วโมงเต็มไปซัดกันได้ครับ วันนี้สวัสดีครับ (15 October 2014) บทความต่างๆ ที่บรรยายเป็นมุมมองส่วนตัวของผมเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญานในการรับฟังและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเองดีที่สุดคร้าบบบบ Written By Metto 2014 Metto All Rights Reserverd.... อ่านต่อ
21 Likes0 Comment
photo