4.4
9 เรตติ้ง (4 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในวันอังคาร เวลา 10:00
Moga Aveda Lifestyle Salon Central Embassy
ริวจิซังกำลังอบไอน้ำทำทรีทเมนท์ผมให้อยู่ค่ะ
8 ชั่วโมงกับการแปลงร่าง จากผมดำกลายเป็นหัวบลอนด์น้ำตาลเทา โดยฝีมือริวจิซังช่วงหยุดยาวปีใหม่ เป็นช่วงที่ลาพักร้อนพ่วงไปด้วย เลยมีเวลาไปทำสีผมตามที่ฝันไว้ซะทีคะ มีผมสีเข้มๆ มาตลอด แต่ใจอยากได้ผมสีออกเทาๆ เงินๆ หรือ บลอนด์เขียวๆ ก็พยายามศึกษาดูสีผมชาวบ้านและอ่านรีวิวร้านทำผมต่างๆ มาโดยตลอด แล้วก็พยายามหา reference สีผมที่ใช่ เก็บไว้เยอะๆ สุดท้ายก็เลยเลือกร้าน "Moga Aveda Life Style Salon" ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ค่ะ เห็นเค้าว่าดีนัก และส่วนตัวก็เคยไปตัดผมที่ Moga มาก่อน ที่สาขา Zen เเต่ตัดกับช่างไทยนะคะ ส่วนเเบรนด์อเวด้า เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและสกินแคร์ ที่พอรู้จักชื่อเสียงอยู่บ้าง ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีมาก แต่ค่อนข้างราคาสูงค่ะ "Moga Aveda Life Style Salon" เป็นความร่วมมือของสองแบรนด์นี้แหละค่ะ Moga ขึ้นชื่อเรื่องช่างญี่ปุ่นฝีมือตัดและดัดผมขั้นเทพ (ดังมากๆ คืออายะจัง) ส่วนอเวด้านั้น เค้าเคลมตัวเองว่าทั้งสีและตัวกัดสีผม มีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติในเปอร์เซนต์ที่ค่อนข้างเยอะค่ะ เริ่มกันเลยดีกว่า แนะนำให้โทรไปจองเวลาก่อนนะคะ เพราะร้านนี้คนเยอะตลอด ไม่ขาดสายเลยก็ว่าได้ จะได้ไม่ต้องคอยนานค่ะ พอไปถึง เเจ้งชื่อที่จอง เค้าจะพาไปเราไปส่องกล้องตรวจสภาพเส้นผมและหนังศรีษะคะ เสร็จแล้วเค้าก็จะแนะนำผลิตภัณฑ์ตัวนั้นตัวนี้ที่เหมาะกับสภาพเส้นผมเราให้เราเลือกค่ะ ซึ่งครั้งนี้ที่ไป ตั้งใจไว้อยู่แล้วว่าจะซื้อผลิตภัณฑ์เค้ากลับมาลองใช้ ซึ่งเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังตอนท้ายค่ะ พอตรวจสภาพเส้นผมเสร็จ เค้าก็จะพาเราไปนั่งที่เก้าอี้ทำผมค่ะ แล้วช่างก็จะมาคุยกับเรา แพร์ได้ช่างผู้ชายญี่ปุ่นชื่อ "ริวจิซัง" มาทำสีผมให้ค่ะ ไม่แน่ใจว่าถ้าเป็นทำสีผม เค้าจะให้แต่ช่างญี่ปุ่นทำรึเปล่านะคะ แต่เรารีเควสท์ช่างได้ค่ะ จะเอาช่างไทย ช่างญี่ปุ่น จะระบุชื่อช่างที่เราต้องการใช้บริการก็ได้ด้วยค่ะ แพร์ต้องเลือกสีผมจากในชาร์ตสีที่เค้ามีให้ แล้วก็เอา reference ของตัวเองให้เค้าดูประกอบด้วย แพร์เลือกทำสองสี คือสีพื้นเป็นน้ำตาลออกบลอนด์เขียวสว่างมากๆ กะไฮไลท์ บลอนด์เทาๆ พอเลือกสีได้ ก็ลงมือกัดสีผมค่ะ เค้าจะเอาถุงพลาสติกสำหรับครอบหูโดยเฉพาะมาครอบให้ที่หูเราค่ะ แล้วทาวาสลีนรอบกรอบหน้า กันสีเลอะติดผิว จากนั้นก็ค่อยๆ เอาแปรงทาครีมกัดสีผมค่ะ พอทั่วถึงก็เอาพลาสติกมาห่อไว้ ตอนที่กัดไม่เเสบนะคะ ความทรมานยังไม่มาค่ะ ณ จุดจุดนี้ ช่างกับผู้ช่วยเค้าจะคอยมาเช็คนะคะ ว่ากัดไปจนถึงเลเวลไหนแล้ว ขั้นตอนนี้ยาวนานมากค่ะ เริ่มทำตอนบ่ายสองโมง น่าจะไปเสร็จเอาช่วง 5 - 6 โมงเย็นค่ะ เพราะว่าเเพร์ผมยาวและหนา แล้วก็ผมเส้นใหญ่ด้วยแหละค่ะ เลยนาน พอกัดสีผมจนได้ระดับที่โอเค ก็จะต้องไปสระผมค่ะ ระหว่างสระเค้าจะมีมาสค์ทิชชู่มาปิดตาให้เราด้วย สระเสร็จเค้าไม่ลงครีมนวดนะคะ เพราะเดี๋ยวสีไม่ติด งานของช่างที่นี่เค้าละเอียดมากค่ะ เค้าจะค่อยๆ หวีผมแบ่งทำเป็นไฮไลท์ แล้วเอาฟอยล์มาห่อทีละชั้นๆ ส่วนด้านล่างที่เป็นสีพื้นก็ค่อยๆ ทาทีละขยุ้ม จนครบ แล้วเอาพลาสติกมาห่อไว้ แต่ตอนลงสีที่โคนผมนี่ขอบอกว่าทรมานมากเลยนะคะ นั่งจิกเท้า เกร็งไปทั้งตัว เพราะมันแสบมาก เนื่องจากการกัดสีผมมันทำลายหนังศรีษะไปด้วยค่ะ รอหมักสีอยู่นานมากเลยค่ะ ระหว่างนั้นช่างเค้าจะคอยมาเช็คสีให้ตลอดนะคะ ถ้ายังไม่โอเค เค้าจะผสมสีใหม่แล้วเอามาทาทับไปให้มันออกมาเป็นสีที่ต้องการให้ได้ พอได้ที่แล้วก็ไปสระผมค่ะ และเหมือนเดิมคือ ไม่ลงครีมนวด จากนั้นก็ทำทรีทเมนท์ที่ไปด้วยเลยค่ะ 2,500 บาท เค้าจะเอาทรีทเมนท์มานวดๆ บนผมเรา ระหว่างนั้นก็เครื่องพ่นไอน้ำ ไอน้ำฟุ้งกระจายให้เกล็ดผมเปิด พอทาเสร็จก็อบผมไว้สักพัก แล้วก็ไดร์ผมค่ะ ช่างญี่ปุ่นนี่ ขนาดเป็นช่างผู้ชายก็ยังม้วนผมสวยเลยนะคะ สีที่ออกมาก็เป็นที่น่าพอใจค่ะ แต่แพร์กัดสีแครอบเดียว เลยไม่ออกเทาเท่าที่ต้องการค่ะ แต่ก็รับได้ เลยโอเคกะสีผมค่ะ เดินออกมาคนมองตรึม เพราะ สีมันสว่างจริงๆ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาด้วย มีแชมพูและครีมนวดสำหรับผมทำสีค่ะ ที่ร้านไม่มีแชมพูขวดเล็ก เลยเอาขวดใหญ่มา เพราะหลังจากนี้คงจะได้เล่นกะสีผมอีกหลายรอบเลยค่ะ แล้วก็เอาตัวบำรุงหนังศรีษะมาด้วยค่ะ ตัวนี้ใช้ดีมากเลยค่ะ สักพักแผลที่เกิดจากการกัดสีก็หาย และปัญหาเดิมที่มี่คือรูขุมขนบนหนังศรีษะอุดตันก็หายไปค่ะ รู้สึกได้ว่าแผ่นๆ ลอกๆ บนหัวมันหายไป ราคาที่ทำที่นี่ ถ้าใครผมยาวและกัดสี จะแพงมากนะคะ ต้องทำใจกับราคานิดนึง แต่ของเค้าดีจริงๆ ค่ะ จาก บ่ายสอง - 4 ทุ่ม เป็นเวลาที่ยาวนานมาก... อ่านต่อ
3 Likes0 Comment
photo