4.1
50 เรตติ้ง (44 รีวิว)
เปิดอยู่จนถึง 21:00
Starbucks Central Westgate ชั้น 1
Profile: Kenya Gikanda
A collection of Single Origin (aka Starbucks Reserve) chosen by me from Q2-Q4 2019 ~มี note แปลกๆใหม่ๆมาให้ลอง cuppingStarbucks ที่ในห้าง Central Westgate มีทั้งหมด 2 สาขาครับ คือ ชั้น 1 (ด้านใน หน้าทางเข้า Central Department Store) กับ ชั้น 2 (ด้านหน้า ตรงลานน้ำพุ) สาขาที่ผมแวะเวียนมาหากาแฟดื่มอยู่บ่อยๆจะเป็นที่สาขาชั้น 1 ครับ เพราะสาขานี้เป็นแบบ Reserve สะดวกสำหรับคนที่อยู่บ้านย่านชานเมือง มีขายกาแฟแบบ Single Origin และมี Slow Bar สำหรับทำกาแฟแบบ Filter สาขานี้จะไม่ใช่ Experience Bar ดังนั้นจะมีแต่กาแฟที่สกัดแบบ Pour over กับ French Press ## Single Origin สำหรับคอกาแฟที่ต้องการอรรถรสในการดื่มกาแฟที่เน้นความพิถีพิถันหรือ Artisanal Coffee เน้นดื่มกาแฟแบบ Emotional มากกว่า Functional เพราะ Single Origin เป็นกาแฟที่คัดพิเศษจากแหล่งปลูกเพียงแหล่งเดียว (ไม่ได้ผสมกันจากหลายที่) และเฉพาะมากๆหายาก มีรสและความหอมที่เฉพาะเจาะจงกว่ากาแฟ Blend ทั่วไปที่เป็นกึ่ง Commodity Starbucks Reserve โดยเมล็ดกาแฟ Single Origin ก่อนหน้านี้ทั้งหมดเค้าจะคั่วมาจากที่ In-house Roaster ที่ Seattle แล้วนำเข้ามาในไทยครับ ผมไม่แน่ใจว่าเดี๋ยวนี้เค้าเอาเข้ามาจากที่โรงคั่วเค้าเองในเอเชียแล้วบ้างหรือยัง รู้สึกตอนนี้ Starbucks เปิดเป็น In-house Roaster ในเอเชีย 2 ที่ คือ Shanghai กับ Tokyo Starbucks Reserve ที่ผมได้ลอง Taste ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2019 จนถึงตอนนี้ Q4 2019 ขอรวบรวมมาให้อ่านดูและสรุปเลยตามความเห็นผมด้านล่างนี้ครับ (ไล่จาก ใหม่ล่าสุด ลงไป เก่าสุด) (Single Origin Coffee Bean Name: Tasting Note ที่จับได้ไล่ตามลำดับ) • Ethiopia Yirgacheffe Chelelektu (Sun-dried หรือ Natural process): Floral, Berries, Chocolate, Spice กาแฟจากแหล่งปลูกที่ดีของเอธิโอเปียคือ Yirgacheffe โดยใช้การแปรรูปแบบดั้งเดิมก่อนเอาไปคั่ว คือ Sun-dried หรือตากแดดทั้งเมล็ดเชอร์รี่ไม่ขัดเมือกออก เพราะน้ำมีจำกัด รสชาติตัวนี้เท่าที่ได้ลองเป็นแบบดริปร้อน ไม่มีอะไรพิเศษมาก สไตล์กาแฟแอฟริกา กลิ่นดอกไม้ขาวที่คุ้นเคยเด่นมาก่อนตอนอุ่น มีติดเปรี้ยวหน่อยๆแบบเบอร์รี่แดง ติด aftertaste เป็นช็อคโกแลต กินน้ำตามจะรู้สึกได้ชัด พอดื่มไปซักพักช่วงกลางๆจะมีกลิ่นพวกเครื่องเทศอบเตะจมูกเล็กน้อย • Rwanda Muhondo (Washed process): Caramel, Chocolate, Red Grape กาแฟจากแอฟริกาอีกแหล่งขนาดเล็กๆ แปรรูปแบบเปียกขัดล้างเมือกออกจากเมล็ดจนหมดก่อนเอาคั่ว ตัวนี้ไม่มีกลิ่นดอกไม้ ช่วงอุ่นๆจะชัดเจนมากเป็นกลิ่น Caramel และขมติดท้ายด้วย chocolate จ๋า พอเริ่มเย็นตัวลงหน่อยจะมี accent ที่เป็นกลิ่นพิเศษออกมาเป็น องุ่นแดง ชัดดี (เหมือนดื่มไวน์แดง แต่ดื่มแล้วไม่มึน เป็นแค่กลิ่น) • Bolivia Sol de la Manana (Washed process): Floral, Tropical Fruit, Tangerine กลิ่นดอกไม้อ่อนๆไม่เด่น โทน Fruity ผลไม้เมืองร้อน และ acidity โทนส้มออกหวานปลาย • Malawi Sable Farms (Washed process) : Cedar, Citrus, Ginger ตัวนี้กลิ่นเด่นลอยมาก่อนเป็นกลิ่นไม้ๆ ตาม note คือ Cedar ตามด้วยกลิ่นโทนส้ม เปรี้ยวไม่มาก และ note พิเศษที่แทรกเข้ามาเป็น accent ตอนน้ำกาแฟเริ่มเย็นลงจะเป็นกลิ่นขิงอ่อน (เหมือนใส่ในโจ๊ก) • Kenya Rungeto (Washed process): Blackberry, Zesty Grapefruit, Sweet Aftertaste ตัวนี้กลิ่นเบอร์รี่เด่น แต่ผมจับได้ไม่เด่นมาก (เพราะสั่งแบบเย็นเติมน้ำแข็งด้วย) กลิ่นเปลือกส้มมีความขมๆหน่อย แล้วตามด้วยหวานจบท้ายแบบน้ำเชื่อมหวานๆ สั่งแบบเย็นได้ความสดชื่นดีครับ • Guatemala Santa Cecilia Estate (Washed process): White flower, Lemon, Caramel accent, Cocoa ตาม note เลย กลิ่นดอกไม้สีขาวไม่เด่นเท่าไหร่ กลิ่นคาราเมลแทรกชัดกว่า ตัวนี้ไม่เปรี้ยวได้แค่กลิ่นเลมอนเวลาดมเปลือกด้านนอก กลิ่นโกโก้จบท้าย • Kenya Gikanda (Washed process): Orange, Lemon, Caramel ตาม note เลย โทนส้มมาก่อนเด่นแบบถูเปลือกส้ม เปรี้ยวแบบเลมอน จบแบบหวานคาราเมลน้ำตาลโดนความร้อน • Guatemala La Colina Farm (Washed process): White Floral, Juicy, Red Currant, Pomelo ตาม note เลย ตัวมีกลิ่นพิเศษเด่นแปลกๆคือ ส้มโอ ผมใช้ความพยายามนานอยู่เพื่อจับกลิ่นให้โดน ปกติไม่ค่อยทานส้มโอเลยไม่ค่อยรู้กลิ่น แต่พอเริ่มเย็นลงหน่อยจับได้ชั่วขณะหนึ่งเหมือนกลิ่นเปลือกส้มโอเขียวๆครับ แปลกดี • Ethiopia Haile Estate (Sun-dried หรือ Natural process): Floral, Cherry, Strawberry ตัวนี้มี note แปลกๆแทรกเข้ามาคือ Strawberry จับได้ชัดมากตอนน้ำกาแฟเริ่มเย็นลงหน่อยครับ หอมๆแบบสตรอเบอร์รี่ลูกเล็กๆ ตัวนี้มีความเปรี้ยวอมหวานแบบเชอร์รี่ #### คหสต #### • เมล็ดกาแฟ Single ของที่ Starbucks ค่อนข้างมีหลากหลายใช้ได้ และมีผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนประมาณเดือนถึงสองเดือนครั้ง แต่ที่เป็นจุดเด่นคงเป็นที่เมล็ดจากแหล่งแปลกๆไม่เหมือนตามร้าน Specialty Coffee แบบ local ทั่วไป (เพราะเค้าเป็นบริษัทระดับสากล เรื่อง connection กับคนปลูกย่อมมีภาษีกว่า หรือบางทีก็เป็นพื้นที่ของเค้าเอง) ทำให้สามารถดึงดูดลูกค้าแนวนี้ได้มาลองเปลี่ยนสัมผัสอรรถรสกลิ่นกาแฟแบบแปลกๆได้เรื่อยๆครับ • เท่าที่สังเกตดูครับ เมล็ดกาแฟ Single ของที่นี่ เค้าจะเน้นผ่านกระบวนการ Fully Washed ก่อนนำไปคั่วเกือบทุกตัวเลย กาแฟมันจะมีความซับซ้อนกว่าแบบ Dry หรือ Natural (ซึ่งการดึงกลิ่นหรือรสที่เป็นเอกลักษณ์ทำได้ยากกว่าแบบ Wash) • เท่าที่สังเกตอีกอย่างคือ Starbucks Reserve น้ำกาแฟจะมี Body ที่ค่อนข้างออก Medium หน่อย (ออกสีดำๆ ไม่ถึงกับน้ำตาลแดง และติดกลิ่น Chocolate ซะเป็นส่วนใหญ่) อันนี้อยู่ที่เทคนิคหรือกระบวนการคั่วเลยครับ คนหัดดื่มใหม่ๆอาจไม่ชอบไม่คุ้น ดื่มยากกว่าแบบที่ Body ไม่สูงมากครับ สรุป Starbucks Reserve เน้นเจาะกลุ่มตลาดลูกค้า segment ที่ชอบ Specialty Coffee โดยเฉพาะ ถึงแม้ขนาดตลาดกลุ่มนี้ยังไม่ใหญ่มาก แต่ถือว่าเป็นการทำตลาดครอบคลุมทุก segment ของ Starbucks ในบ้านเราครับ แต่เทรนด์ของกาแฟแบบพิเศษนี้ก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นแล้วด้วยครับ จุดขายคือ ความแปลกของเมล็ดกาแฟ Single Origin ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ... อ่านต่อ
22 Likes0 Comment
photo