4.8
34 เรตติ้ง (18 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 17:30
เมนูของร้าน Table X
ประสบการณ์ดีๆ อาหารค่ำอร่อยๆ กับ celebrity chef:)“Table X” อารีย์:) เนื่องด้วยได้รับโอกาสอันดีจาก wongnai จึงได้มาลอง chef’s table 2019 กัน ที่ table X อารีย์ค่ะ นี่เป็นครั้งแรกของการกิน chef’s table ของเอ๊ะเลยค่ะ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ:) ร้านอยู่ที่ชั้น1 หลังอาคารปิยวรรณทาวเวอร์ ซอยอารีย์1 ค่ะ เป็นห้องกระจก ขนาดกระทัดรัดค่ะ เปิดให้เห็นครัวและโต๊ะ ไม่มีชื่อร้านติดนะคะ😎 สามารถจอดรถได้ที่ตึกปิยวรรณเลย หรือ BTS สถานีอารีย์ เดินเข้ามาซอยข้างตึกก็ถึงเลยค่ะ สะดวกมากๆ เชฟชื่อดังพระเอกของร้านคือ เชฟหมู (เชฟเฉียบวุฒิ ศุปศิริกุล) ค่ะ เชฟเป็นพ่อครัวส่วนตัว หรือ private master celebrity chef ชื่อดัง ของคนดังหลายๆคนเลยนะคะ ซึ่งทำมานานถึง 19ปีแล้ว! นอกจากนี้เชฟได้เล่าประสบการณ์ให้ฟังว่า เคยถวายงานสมเด็จพระราชินี ในหลวงรัชกาลที่9 ด้วย ตอนที่พระองค์เสด็จไปที่จังหวัดอุบลราชธานี สุดยอดมากๆ:) ที่ร้านสามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ max 8คนค่ะ แต่ความเห็นส่วนตัวจะกำลังดีที่ 4-6คน ใครที่สนใจแนะนำโทรมาจองก่อน คิวค่อนข้างยาว และไม่รับ walk in นะคะ ก่อนมาเรายังไม่รู้เมนูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง ตื่นเต้นดีค่ะ ฮ่าๆ เราเริ่มต้นมื้อกันด้วย sparkling wine หวานๆซ่าๆชื่นใจ แอบจำชื่อไวน์ไม่ได้ค่ะ มาถึงเหนื่อยๆ จัดไปหมดแก้วค่ะ ฮ่าๆ ต่อด้วยการเปิดไวน์แดง เชฟหมูได้แสดงวิธีการให้ไวน์หายใจ หรือ oxidation ซึ่งจะทำให้ได้รับรสชาติที่อร่อยมากขึ้น โดยการเทใส่ขวดแก้วลักษณะพิเศษค่ะ เป็นความรู้ใหม่เลย เปิดจานแรกด้วย appetizer ค่ะ ‘Baked Escagot Cafe Paris Butter’ ขนมปังอบกรอบนิดๆ ทาเนยจากฝรั่งเศสหอมๆ มี escargot อบเนยในถ้วยเล็กๆ เมื่อนำตัวซอสราดลงไปที่ขนมปังนะ ฟินค่ะ เนยชุ่มๆหอมๆ เนื้อ eacargot กรุบๆ เข้ากันกับขนมปังกรอบๆมากจริงๆ เรียกน้ำย่อยได้ดีเลยค่ะ ‘Aburi Izanuki Salmon Hokkaido Ikura’ ปลา Izanuki salmon นำเข้าจากทะเลฮอกไกโด สีสวย ชิ้นโต นำมาโรยเกลือที่หนังเพื่อเวลาทำ aburi แล้วหนังจะไม่ติดกะทะค่ะ จากนั้นเชฟจะหั่นเป็นคำๆ มาพร้อม ikura รสชาติเข้มข้น หอมมาก ให้มาเต็มที่เลย วางด้านบนด้วย ice plant กรุบกรอบ (เป็นผักที่คล้ายมีน้ำแข็งเกาะ) มาพร้อมซอสวาซาบิมายองเนส โรยด้วยผงทอง และทรัฟเฟิลออย จานนี้เอ๊ะชอบมากกกก คือส่วนตัวชอบทั้ง ikura และ วาซาบิมายองเนส อยู่แล้วด้วย คือฟินมากกกก จานนี้ชอบ❤️💕 อยากกินอีก ฮ่าๆ ‘Capppuccino Truffle With Fresh Slide Truffle’ เป็นซุปเห็ดทรัฟเฟิลค่ะ ทำมาเนื้อเนียนเป็นโฟมเบาๆด้านบน ด้านล่างแน่นด้วยรสชาติของเห็ดทรัฟเฟิล พร้อมกับมี แบล็คทรัฟเฟิลสไลด์สดๆ ซึ่งเชฟมาสไลด์ให้ตรงหน้าเลยเต็มๆ รสชาติเวลากินคู่กันคือหอมมาก และ portion มาพอดีๆเลยค่ะ กินหมดแล้วรู้สึกเต็มอิ่มพอดี:) ‘Smoked Duck Breast With Balsamic Dressing’ เป็นสลัดอกเป็ดค่ะ เริ่มต้นที่ตัวอกเป็ดรมควันทำออกมาได้ดีมากๆ เนื้อออกมานุ่มพอดี กลิ่นหอม หนังไม่เหนียว กินคู่กับผักสลัด สดๆ กรอบๆ ราดด้วยน้ำมันมะกอกผสมส้มจากอิตาลี ซึ่งหอมละมุนมากกก มีเนื้อมะม่วงสุกหวานๆมาคู่กันด้วย จานนี้ถูกใจมากกก ชอบกินสลัดและอกเป็ดอยู่แล้ว คือฟินมากกก อยากสั่งกลับบ้านไปกินอีกเลย❤️💕 ‘Cheesey Sausage’ เป็นของแบรนด์บีลัคกี้ที่ให้มาลองชิมกันค่ะ ชิมแบบเย็นก็กรุบๆกรอบดี ได้รสชีสหน่อยๆ เชฟหมูแนะนำวิธีการต้มคร่าวๆ โดยใช้น้ำเดือด เทเกลือลงไป แล้วค่อยนำไส้กรอกลงไปต้ม เสียดายจำรายละเอียดเป๊ะๆไม่ได้ ว่าจะลองกลับไปทำกินเองซะหน่อย มัวแต่กินเพลิน ฮ่าๆ สรุปคือ หลังต้มเสร็จคือ ไส้กรอกชีสเยิ้มมาก ไส้กรอกเนื้อกรุบกำลังกินเลย กินคู่สลัดจานก่อนคืออร่อยค่ะ:) ‘Seared Foiegras With Poached Pear’ จานนี้ถือเป็น signature จานนึงของร้านค่ะ เชฟจะใช้ foiegras ของ Rougie (foie gras de Canard Cru) ซึ่งเป็นเกรดพรีเมี่ยม ชิ้นละ 50g สีเป็นสีงาช้างค่ะ และเนื้อที่ดีที่จะสามารถนำลงกะทะได้คือ เวลากดแล้วจะเหมือนแก้มนิ่มๆค่ะ (ละเอียดมากๆ) หลังนำลงกะทะแล้วกลิ่นคือหอมฟรุ้งมากกก จานนี้ตัวฟรัวกราที่นำเสิร์ฟจะกรอกนอก นุ่มใน มาพร้อมกับลูกแพร์เชื่อมในไวน์แดงค่ะ พร้อมผักต่างๆ ควรกินพร้อมๆกันทั้งฟรัวกราและลูกแพร์เชื่อม คือดีมากกก แทบจะลืมฟรัวกราเดิมๆที่เคยกินมาทั้งหมดไปเลยค่ะ อร่อยจริงๆ ลงตัวทุกส่วนผสม✨ หลังหมดจานนี้คือเริ่มอิ่มนิดๆละนะคะ แต่มันอร่อยจริงๆ ขอกินต่อค่ะ ฮ่าๆ ‘Capelline Bottega Di Tonno’ จานนี้เชฟทำพาสต้ามาได้ลงตัวมาก เส้นเนื้อหนุบพอดีๆ นำมาผัดด้วยน้ำมันจากฟรัวกราจานก่อน กินคู่กันกับไข่ปลากระบอกน้ำลึก ราคา 15,000฿/kg เชียวนะคะ พร้อมไข่ปู & แก้มหมูกริลค่ะ เชฟจะโรยเกลือ lobster มาเพิ่มอีกที จานนี้นี่เหมือนยกทะเลมากินเลยค่ะ หอมกลิ่นทะเลมากๆ🏝 มาถึง main course ค่ะ ‘Angus New York Steak’ จานนี้เป็นเนื้อ US Prime นำเข้าจาก Texus ค่ะ ตัวนี้เชฟเตรีอมเนื้อดีมากเลย โรยเกลือ & พริกไทยก่อนการกริล ตัวนี้เนื้อติดมันค่อนข้างเยอะค่ะ ทำมาในลักษณะ medium rare ซึ่งกลิ่นหอมดีมากๆเลย เนื้อมี texture เหนียวอยู่หน่อยๆพอดีกินค่ะ เสิร์ฟพร้อมข้าวโพด ซึ่งหวานอร่อยมากๆ มันม่วง เนื้อเนียนนุ่มอร่อยจริงๆอันนี้💕 และเบบี้แครอทค่ะ กินเปล่าๆหรือจิ้มเกลือก็อร่อยละค่ะจานนี้ เชฟราดซอสไวน์แดงมาให้เพิ่มด้วย คือเข้ากันดีเลยค่ะ ถ้าใครไม่กินเนื้อ ทางร้านจะเตรียมปลามาให้แทนค่ะ ‘Baked US Snow Fish Saffron Truffle Saute Vegetable’ จานนี้แอบดูมา เนื้อปลาชิ้นใหญ่ค่ะ มีโรยผงทรัฟเฟิลมาด้วย น่ากินมากๆเหมือนกันค่ะ ปิดท้ายความสนุกสนานมื้อนี้ด้วย ‘Varlrna Gianduja Truffle Ice-cream’ เชฟจะค่อยๆทำซอสช็อกโกแลตให้เราสดๆเลยค่ะโดย ตัวที่นำมาทำนี่ราคา 2,500฿/kg เลยนะคะ นำมาทำให้เป็นซอส เสิร์ฟพร้อมไอศครีมทรัฟเฟิล & crunch ค่ะ กินพร้อมๆกันทุกอันคือดีมากๆ ซอสคืออร่อยจริงๆ กินเรียบเลย ไอศครีมก็หอมพิเศษมาก ไม่เคยกินมาก่อนเลย เป็นจานปิดท้ายที่สนุกและอร่อยมากๆค่ะ:) วันนี้เราใช้เวลาในการกินไป คือเริ่มต้น 6:30pm-10pm ประมาณ 3hr กว่าค่ะ แนะนำว่าประมาณ 2hrครึ่ง ถึง 3hr กำลังดี คุยกันไป รับรู้ความเป็นมาของอาหารจานต่างๆที่เรากินกัน และวิธีการทำต่างๆ ถือเป็นประสบการณ์ดีๆค่ะ:) ถ้าจะมากินกัน สามารถแจ้งเชฟได้นะคะ ว่าต้องการใช้เวลาในการกินกันนานเท่าไร สรุปคือ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆเลยค่ะ เชฟหมูน่ารักมากเป็นกันเองสุดๆ สนุก & ได้ความรู้ไปพร้อมๆกัน สนนราคาคนละ 3,000฿ ราคานี้เมื่อเทียบกับเมนูอาหารที่กิน เอ๊ะว่าค่อนข้างคุ้มเลยนะคะ ใครที่จะมาแนะนำเผื่อเวลามาหน่อยนะคะ และจะได้ความสนุกเพลิดเพลิน พร้อมความอร่อยกลับไปเต็มๆ:) สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณวงในกับกิจกรรมดีๆแบบนี้ด้วยนะคะ💕🙏🏻... อ่านต่อ
7 Likes0 Comment
photo