- หน้าแรก
/
- รูป เขื่อนแม่กลอง

3.8

บรรยากาศ
เขื่อนแม่กลองเขื่อนแม่กลอง เดิมชื่อ เขื่อนวชิราลงกรณ เป็นเขื่อนกั้นน้ำบนแม่น้ำแม่กลองในเขตอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการชลประทานแม่กลองใหญ่
เขื่อนแม่กลอง ตั้งอยู่เลขที่ 96 หมู่ที่ 1 ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเสด็จพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร (พระยศในขณะนั้น) ทรงวางศิลาฤกษ์เขื่อนวชิราลงกรณเมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2510
เมื่อสร้างเสร็จใน พ.ศ. 2513 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตขนานนามว่า “เขื่อนวชิราลงกรณ์”
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2544 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าเปลี่ยนเป็นชื่อ “เขื่อนแม่กลอง”
เขื่อนแม่กลอง มีโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ยาว 150 เมตร สูง 14 เมตร มีประตูบานโค้ง 8 บานที่มีอัตราส่วน 12.5 ต่อ 7.5 เมตร ที่ควบคุมการไหลของแม่น้ำ
เครือข่ายคลองชลประทานจัดหาน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ 2,621,000 ไร่ (4,194 ตารางกิโลเมตร) ครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด
นอกจากนี้ยังมีโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กสองอันที่ผลิตพลังงานได้ 6 เมกะวัตต์ สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2549 โดยกรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยบริหารร่วมกัน
เขื่อนแม่กลองสร้างกระแสไฟฟ้าได้ 33.32 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมง ใน พ.ศ. 2557 โดยมีเป้าหมายที่จะผลิตไฟฟ้ารายปีให้ได้ 74 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมง และเคยมีการทดสอบว่าเขื่อนนี้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 124.39 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมง
ลักษณะสำคัญของเขื่อนแม่กลอง
อุทกวิทยา
พื้นที่รับน้ำฝนเหนือที่ตั้งเขื่อน 25,590 ตร.กม.
ปริมาณน้ำท่าเฉลี่ย 9,710 ล้าน ลบ.ม./ปี
อ่างเก็บน้ำ
ระดับเก็บกักปกติ +22.50 ม. (รทก.)
ระดับเก็บกักต่ำสุด +15.00 ม. (รทก.)
ความจุอ่างเก็บน้ำ 38.80 ล้าน ลบ.ม.
ความจุใช้งาน 8.20 ล้าน ลบ.ม.
อาคารระบายน้ำล้น
ประเภท โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมประตูควบคุมบานโค้ง
จำนวนประตูระบายน้ำ 8 บาน
ขนาดบานระบาย 12.50 x 7.50 เมตร
เขื่อนทดน้ำ
ความสูง 14 เมตร
ความยาว 150 เมตร
เขื่อนแม่กลองรับน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ การระบายน้ำจากเขื่อนทั้ง 2 เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างกรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
กิจกรรมการใช้น้ำ แบ่งเป็น 4 กิจกรรมหลัก
เพื่อการเกษตรฤดูฝนและฤดูแล้ง ในเขตชลประทานลุ่มน้ำแม่กลอง ได้แก่ พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี สมุทรสงคราม โดยส่งน้ำเข้าคลองส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกท้ายเขื่อน ทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวาแม่น้ำแม่กลอง
เพื่อหล่อเลี้ยงลำน้ำแม่กลอง โดยระบายน้ำจากเขื่อนแม่กลองอย่างต่ำ 70 ม.3/วินาที
เพื่อผันน้ำช่วยเหลือแม่น้ำท่าจีน 1,190 ล้าน ม.3/ปี
เพื่ออุปโภคบริโภค โดยส่งน้ำให้กรุงเทพมหานคร 45 ม.3/วินาที
โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนแม่กลอง
โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนแม่กลอง เป็นโครงการความร่วมมือด้านการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กับกรมชลประทาน ในการใช้ประโยชน์จากน้ำในเขื่อนของกรมชลประทานให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามยุทธศาสตร์ด้านพลังงานของรัฐบาลประกาศ ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2546 ที่กำหนดให้มุ่งเน้นส่งเสริมและพัฒนาการใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) เพื่อลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2546 คณะรัฐมนตรีได้ประกาศนโยบายส่งเสริมให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กบริเวณท้ายเขื่อนของกรมชลประทาน เพื่อผลิตไฟฟ้าจากการปล่อยน้ำตามปกติของกรมชลประทานอยู่แล้ว โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้รับผิดชอบ โดยให้กระทรวงพลังงาน เป็นผู้สนับสนุนด้านเทคนิคการวางแผนและการพัฒนา ในการนี้กรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งได้รับมอบหมายจาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพลังงานตามลำดับ ได้ร่วมกันพิจารณาดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามยุทธศาสตร์ดังกล่าว โดย กฟผ. แสดงเจตจำนง จะพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กท้ายเขื่อนชลประทาน 6 แห่ง ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมกัน 78.7 เมกะวัตต์ กฟผ. ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการดังกล่าว เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2549 ซึ่งโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนแม่กลองเป็นหนึ่งใน 6 โครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ด้วย
ลักษณะโครงการ
โครงการฯ ประกอบด้วยงานก่อสร้างอาคารโรงไฟฟ้าคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดกว้าง 24 เมตร ยาว 44.50 เมตร สูง 25 เมตร คลองส่งน้ำเข้าโรงไฟฟ้า ชนิดคลองรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ความยาว 650 เมตร ที่จะขุดขึ้นใหม่ด้านฝั่งขวาของอาคารระบายน้ำล้น ภายในโรงไฟฟ้าติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็ก ขนาดกำลังผลิต 6.0 เมกะวัตต์ จำนวน 2 เครื่อง ซึ่งใช้ปริมาณน้ำในการปั่นไฟเฉลี่ยเครื่องละ 77.4 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่ความสูงของหัวน้ำ 9 เมตร รวมทั้งงานก่อสร้างสายส่งขนาด 22 กิโลโวลต์ ความยาว 2.7 กิโลเมตร เพื่อส่งไฟฟ้าที่ผลิตได้ส่งผ่านให้แก่ระบบส่งของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้เฉลี่ยปีละประมาณ 74 ล้านหน่วย (ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง) ใช้งบประมาณลงทุนโครงการทั้งสิ้น 919 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาดำเนินการก่อสร้างประมาณ 26 เดือน
ประโยชน์
ลดการใช้เชื้อเพลิงที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ผลิตพลังงานไฟฟ้าสะอาดได้เฉลี่ย 74 ล้านหน่วย/ปี
ลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงราคาแพงจากต่างประเทศ
ส่งเสริมการศึกษาวิจัยด้านการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน
ทำให้กำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในระบบผลิตไฟฟ้ารวมของประเทศ
เกิดการจ้างงานท้องถิ่นในระหว่างการก่อสร้าง
สร้างความมั่นคงในระบบไฟฟ้าของ อ.ท่าม่วง และเขตใกล้เคียง
0 Like0 Comment
