- หน้าแรก
/
- รูป Shabucino


ฟินกับชาบูสไตล์ญี่ปุ่น ที่ผสมผสานกลิ่นอายของร้านกาแฟ “Shabucino ชาบูน้ำร้าย”ชื่อร้าน Shabucino เป็นคำสมาส (แหน่ะ ยังจำคำนี้ตอนที่เรียนวิชาภาษาไทยได้มะ? หึหึ) มาจากคำว่า Shabu และ Cappuccino (ชื่อกาแฟเมนูหนึ่ง) มารวมกัน จึงกลายเป็น Shabucino ร้านนี้ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ของโครงการสตาร์ อเวนิว 2 ที่อยู่ใกล้สถานีขนส่งอาเขตนั้นแหละจ๊ะ ถ้าจะให้ใกล้ น้าอ้วนแนะนำให้ขึ้นมาทางลิฟท์แก้ว (ข้างร้าน Subway) จะขึ้นลิฟท์ หรือเดินขึ้นบันไดมา ก็จะเจอร้านนี้อยู่ข้างหน้าทางขึ้นเลยนะจ๊ะ เปิดตั้งแต่ 10 โมงเช้า จนถึง 4 ทุ่มเลย
สำหรับร้านนี้ก็เป็นร้านที่ไม่ถือว่ากว้างมากสักเท่าไร การตกแต่งก็จะตกแต่งแนวอาร์ทๆ หน่อย โดยด้านหนึ่งจะเป็นผนังก่ออิฐ และอีกด้านจะเป็นผนังเรียบ มุมด้านในจะมีภาพวาดสี่แยกชิบูย่า และมีร้าน Shabucino ไปเปิดอยู่แถวนั้นด้วย ๕๕๕๕๕๕ และอีกมุมหนึ่งที่สำหรับคนที่มาเป็นคู่คงน่าจะชอบคือ ด้านที่หันหน้าออกไปทางสนามหญ้าข้างร้าน McDonald’s เป็นมุมที่สวยเอาเรื่องอยู่นะจ๊ะ
ที่นี่เขาจัดกันแบบบุฟเฟ่ต์ อิ่มกันไม่อั้น ไม่จำกัดเวลาในการทาน เพียงท่านละ 298++ บาท (เบ็ดเสร็จก็ 351 บาทโดยประมาณ) ราคานี้รวมเครื่องดื่มแล้วนะจ๊ะ เห็นว่าช่วงนี้มีโปรโมชั่น มา 4 จ่าย 3 ด้วย (โปรดตรวจสอบโปรโมชั่นกับทางร้านโดยตรงก่อนนะจ๊ะ) สำหรับอาหารการกิน ที่นี่เขาก็มีทั้งแบบทั่วไปที่ร้านไหนก็มี แต่จุดเด่นที่เห็นว่าแตกต่างก็คือเขามีหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ไม่อั้น รวมไปถึงเนื้อโคขุนก็รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์ราคานี้ด้วยนะจ๊ะ
อย่างที่บอกชื่อร้านเขามาจากคำว่า Shabu และ Cappuccino และที่น้าอ้วนเคยเกริ่นไว้แต่แรกก็คือ จุดเด่นของเขาคือน้ำซุป ดังนั้นน้ำซุปตัวหนึ่งของทีนี่ที่ชื่อ Shabucino ก็คือน้ำซุปชาบูที่ด้านบนท๊อปด้วยฟองนม และโรยด้วยอบเชย (Cinnamon) ซึ่งมันเหมือนกับกาแฟคาปูชิโน่เลย ยิ่งถ้าตอนที่น้ำซุปเริ่มร้อน กลิ่นอบเชยนี่จะโชยกลิ่นหอมขึ้นมาทันที ดูแล้วแปลกตาดีมาก พอน้ำเริ่มเดือดฟองนมก็เริ่มหาย 5555 ถึงเวลาที่เราจะเริ่มลงมือกันแล้ว วันนี้น้าอ้วนขอให้น้องๆ เขาเสิร์ฟชุดต่างๆ มาแบบรวมกัน ไม่ต้องแยกกันมา บางครั้งถาดหนึ่งก็จะมีอาหารอยู่หลายอย่างด้วยกัน เพราะที่นี่เขาถือว่าอาหารค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นส่วนที่สั่งแบบจานต่อจาน ที่สามารถสั่งได้จากเมนูบนโต๊ะได้เลย
หรือจะเป็นแบบไลน์บุฟเฟ่ต์ที่ให้ตักได้เองตามอัธยาศัย ซึ่งเมนูแต่ละวันก็จะหมุนเวียนเปลี่ยนไปนะจ๊ะ อาจจะไม่ได้ทานอาหารแบบที่น้าอ้วนถ่ายในวันนี้ เพราะทางร้านไม่อยากให้ลูกค้าเกิดความซ้ำซากจำเจ พ่อครัวคิดหรือสร้างสรรค์เมนูไหนขึ้นมาได้ก็พร้อมที่จะเอาขึ้นไลน์บุฟเฟ่ต์ให้ได้เลย
นอกจากรายการในบุฟเฟ่ต์แล้ว เขาก็ยังมีส่วนเสริมของพวกเนื้อแบบพรีเมียมต่างๆ เช่นเนื้อริบอาย, เนื้อวากิว ฯลฯ ซึ่งส่วนนี้ก็ต้องเพิ่มเงินกันตามส่วนนะจ๊ะ สำหรับราคาก็สนนอยู่ที่ในเมนูเลยจ้า
ถ้าไม่พูดถึงน้ำจิ้มแล้วก็คงไม่ได้ เพราะที่นี่จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเขาคือน้ำจิ้ม น้ำจิ้มของ Shabucino จะมีอยู่ 4 ตัวก็คือ สามรส, สุกี้ยากี้, ปอนสึ และน้ำพริกเผา รสชาติทุกอย่างก็เรียกว่าใกล้เคียงกับหลายๆ ร้านที่เราเคยทานมา แต่จุดเด่นก็คือ ถึงแม้น้ำซุปชาบูทีนี่เขาจะมีแค่ 3 อย่างให้เลือก แต่ลูกค้าสามารถ D.I.Y. (Do It Yourself) ก็คือประยุกต์น้ำซุปให้ได้อย่างที่ต้องการ เช่นใครอยากได้น้ำซุปต้มยำ ก็แค่เอาน้ำจิ้มสามรสเทลงไปในหม้อน้ำซุปเลย รสชาติเผ็ดๆ เปรี้ยวๆ ของน้ำจิ้มก็จะไปผสมผสานกับน้ำซุปแล้ว ดุเด็ดเผ็ดมันมาก หรือใครที่อยากได้น้ำซุปแบบแซ่บข้น ก็แค่เทน้ำพริกเผาลงไปในหม้อเพิ่มเท่านั้นก็ได้น้ำซุปตามแบบที่ตัวเองต้องการแล้ว ๕๕๕๕ สนุกดีมะ // แต่อย่าเทมั่วไป มั่วมานะจ๊ะ เดี๋ยวจะกลายป็นน้ำซุปที่รสชาติแปลกประหลาด ๕๕๕๕
Shabucino เป็นร้านชาบูในราคาระดับกลาง ที่เรียกได้ว่าเป็นร้านที่ใช้วัตถุดิบที่ถือว่าอยู่ในระดับดีเลย เมนูบางตัวเช่นเนื้อโคขุนก็ถือว่าทานแล้วอร่อย ไม่เสียดายเงินที่เสียไปสามร้อยกว่าบาท หรือพวกอาหารทะเลก็เป็นอะไรที่สดและใหม่ ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงเปิดร้านใหม่ โปรโมชั่นก็เยอะมาก ใครอยากทานชาบูมาตรฐานดี คุณภาพเด่น ก็อย่าลืมไปลองที่ร้าน Shabucino ชั้น 2 โครงการสตาร์ อเวนิว 2 (อาเขต) ได้นะจ๊ะ
7 Likes0 Comment


