5.0
12 เรตติ้ง (8 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 11:30
อันจะกินวิลล่า
กินอิ่ม อยู่นาน เบิกบาน ใกล้ชิดเชฟเปิดประสบการณ์อาหารมื้อพิเศษสไตล์ Chef’s table กับพี่ก้อยผู้มีใจรักในการทำอาหาร จากร้านเล็กย่านสีลมย้ายมาไกลถึงเชียงใหม่ เปิดบ้านต้อนรับลูกค้าทั้งขาประจำขาจรทั้งหลายแวะมาสรวลเสเฮฮาแบบเป็นกันเอง ข่าวร้ายคือบางช่วงต้องแย่งคิวจองโต๊ะผ่านหน้าเพจกันข้ามเดือนเลยทีเดียว เหตุเพราะร้านนี้รับลูกค้าเพียงโต๊ะเดียวต่อวัน (เที่ยงหรือเย็นแล้วแต่สะดวก แต่ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น) ในช่วงหน้าเทศกาลก็จะจองยากหน่อย แต่ถ้าพกดวงมาด้วย เกิดจังหวะดีงาม อาจใช้เวลาเพียงแค่หลักสัปดาห์ ข่าวดีคือเมื่อคุณได้คิวแล้ว มื้อนั้นเชฟจะคอยดูแลคณะคุณเพียงกรุ๊ปเดียว vip สุดๆ จะว่าไปร้านนี้จะไม่เหมือนร้านอาหารทั่วไปที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง นอกจากจะอยู่ไกลผู้ไกลคนแล้วยังเดายากอีกต่างหากว่าบ้านหลังไหนกันแน่คือร้านอันจะกินวิลล่า (ไม่มีป้ายชื่อร้าน ให้สังเกตจากบ้านเลขที่) เปิด google maps นำทางไปครับ แมทช์นี้ไช้ชวนชิมล่อลวงเพื่อนฝูงมาได้อีก 6 คนแต่ละคนมือวางด้านการทาน fine-dining กันทั้งนั้น นัดกันตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง กว่าจะจบคอร์ส คุยเพลินยาวไปเกือบถึงเที่ยงคืนแน่ะ เป็นมื้อที่ยาวนานมากๆ เดี๋ยวเรามาดูกันว่ามื้อนี้จะปังสมคำร่ำลือหรือไม่! ทันทีที่ซุปแก่นตะวันหรือที่เรียกว่า Jerusalem Artichoke Soup ถูกเสิร์ฟพร้อมขนมปังเนยเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย แต่ละคนก็หยิบจ้วงซดกันอย่างเมามัน น้ำซุปมีรสชาติหอมหวานเค็มมันลงตัวจนบอกไม่ถูก พี่ก้อยแอบบอกว่าในซุปมีใส่หอมใหญ่และต้นกระเทียมลงไปด้วย นี่แค่เริมต้นก็ทำพวกเราขนลุกกันแล้ว มาต่อด้วย Mixed Green Salad ใส่ฟักทองจิ๋วย่างโปะด้วยหอยเชลล์แล้วราดด้วยน้ำเดรสซิ่งใส่งาขาวไทยใหญ่ที่ไม่ได้ผ่านการฟอกขาว กินเพลินมากจานนี้ ดีงามไปทุกอณู นี่เพียงแค่ซุปกับสลัด ก็ทำทุกคนเครื่องติดพร้อมลุยกันเต็มสูบ เมนคอร์สนี่เริ่มตอนประมาณ 2 ทุ่ม เป็นเมนูปลา Salmon with red pesto มีรสชาติแปลกลิ้นอมเปรี้ยวด้วย lemon และ balsamic venegar มีรสเค็มจาก capers, anchovy เติมสีแดงจาก sun dried tomato เพิ่มความหวานด้วย raisin แทนการใช้น้ำตาล เชื่อหรือไม่ว่ามาถึงตอนนี้ทุกคนเริ่มจะยั้งมือเพราะรู้ว่ายังมีเมนูเนื้อแดงจานเด็ดรออยู่ถึง 2 จาน นั่นคือ Pork Chop with Mushroom Sauce เนื้อนุ่ม อร่อยโคตร ด้วยเทคนิคการทำสูตร(ไม่)ลับตามแบบฉบับของพี่ก้อย และ Lamb Rack with mixed herbs mustard ความเด็ดอยู่ที่การอบเนื้อแกะจนสุกกำลังดี ไม่ดิบเกินไป แถมพอได้ราด home-made mint sauce เข้าไป นี่คืออย่างใช่เลย อารมณ์คล้ายราดน้ำจิ้มซีฟู้ดที่มีความหอมเย็นของใบมินท์เติมเกลือนิดน้ำตาลหน่อยให้เข้ากัน ณ จุดนี้ทุกคนมีความอิ่มจุกผะอืดผะอมกันน่าดู แต่พอมาถึงอาหารจานสุดท้าย...ตอน Riso Pasta with Tiger Prawn วางลงบนโต๊ะอาหาร ทุกคนก็ตัดสินใจขอไปต่อก็ได้ สู้โว้ย(ครับ/ค่ะ)!!! ตักทุกอย่างหารเท่า เมนูนี้ใช้เวลาทำนานและต้องใช้ความอดทนในการเคี่ยวพาสต้ากับน้ำสต็อกให้เม็ดสุกพอดีกิน ตัวพาสต้าชนิดนี้หน้าตาละม้ายคล้ายเมล็ดข้าวแต่มีความกลวงกว่า กินคู่กับกุ้งลายเสือที่วางเรียงในกระทะเป็นรูปกงจักร น่ากินฝุด ๆ ขอบอก ตบท้ายเพื่อน ๆ แอบเซอร์ไพรส์ให้พี่ก้อยจัดเค้กวันเกิดให้ แบ่งได้ 8 ชิ้น เลยต้องอัญเชิญเชฟมาร่วมวงกินเค้กจิบชาร่วมกัน อาหารที่โหลดเข้าไปตั้งแต่ทุ่มตอนนี้จ่อปริ่มอยู่ที่คอหอย โอ๊ยคืนนี้จะนอนหลับมั้ยล่ะเนี่ย เรียกได้ว่ามื้อนี้เป็นมื้อที่ดีที่สุดในรอบหลายเดือนของไช้ชวนชิมและผองเพื่อน ชมกันไม่ขาดปากเพราะอดอยากอาหารเลิศรสกันมานาน นี่ไม่ใช่การอุปทานหมู่ ผ่านไปชั่วข้ามคืนก็คิดถึงรสมือของพี่ก้อยซะแล้ว ในเรื่องฝีไม้ลายมือเชฟ ไช้ให้ 10 สิบ สิบ สิบ เลย เมนูทุกจานรสชาติมันนัว เข้ากันไปหมด เนื้อสัตว์ก็นุ่ม ไร้กลิ่นคาว ซุปก็หอมหวานถูกปากไปหมด เมนูโปรดมื้อนี้ ไช้ให้ซุปแก่นตะวัน กับ Riso Pasta with Tiger Prawn คุณภาพวัตถุดิบไม่ต้องพูดถึง เอาเป็น 10 เช่นกัน ของเด็ดบางชนิดมาจากริมปิงบ้าง โครงการหลวงบ้าง จากชาวไร่ชาวสวน จนมาถึงสวนครัวหลังบ้าน เรียกได้ว่าคัดสรรสุด ๆ การบริการนี่เอาไป 9.999 เชฟก้อยลงมากำกับดูแลทุกขั้นตอน ทั้งเตรียมอุปกรณ์โดยมีพี่ไพเป็นลูกมือ ทำกันอยู่ 2 คน พี่ก้อยเป็นกันเองมาก พาไปดูครัว บอกสูตรการทำแบบไม่หวงก้าง แถมยังชวนคุยแบบว่าออกอรรถรสมาก เรื่อง food presentation เอาไป 8.952 เนื่องจากวาง positioning เป็น home-cooked food ไม่เน้นพิธีรีตอง เลยไม่ได้เน้นเรื่องงานประดิษฐ์เท่าไหร่ แต่แค่ได้เครื่องโถโอชามและการจัดวางที่ดูธรรมชาติ แค่นี่ก็ทำเอาเจริญอาหารมากแล้ว เรื่องความคุ้มค่านี่พูดยาก สำหรับบางคนอาจรู้สึกว่ามื้อนี้แพงไป 750-1200 บาท/หัว แต่สำหรับคนที่เคยกินอาหารแบบ fine dine มาบ้างบอกได้เลยว่าราคานี้ ปริมาณขนาดนี้ บรรยากาศอบอุ่นแบบนี้หายากมากโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ส่วนตัวไช้ให้ 10 เช่นกัน บรรยากาศร้านซึ่งก็คือบ้านนั่นแหละดู cozy มาก เพดานสูงโปร่ง รับแสง รับลม มีสวนอยู่หน้าบ้าน ให้ความรู้สึกเหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อนจริง ๆ ชอบมาก เอาไป 9/10 ถ้าจะหาเรื่องติ ก็คงจะเป็นเรื่องโลเกชั่นและความยากในการจองนั่นแหละ ก่อนกลับใครเป็น FC พี่ก้อยอย่าลืมซื้อผลิตภัณฑ์โฮมเมดกลับบ้านด้วย บางช่วงก็เป็นน้ำพริกกุ้งเสียบสูตร limited edition เปิดขายปีละครั้ง มาครั้งนี้มีน้ำจิ้มกระปิหวาน แล้วก็สลัดงาขาวด้วย ปล.ร้านนี้เสิร์ฟทั้งอาหารไทยและเทศ เมนูไม่ตายตัว อยากกินอะไรเป็นพิเศษ special request ได้เลยครับ... อ่านต่อ
3 Likes0 Comment
photo