- หน้าแรก
/
- รูป La Scala The Sukhothai Bangkok
Bottoni Cacio E Pepe
การกลับมาของอาหาร Modern Italian ที่ La Scala“กินแล้วคิดถึงอาหารของเชฟ David Tamburini” นี่คือสรุปทั้งหมดของอาหารมื้อนี้
.
สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับของห้องอาหารอิตาเลียน La Scala โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ น่าจะยังคงจดจำชื่อเสียงของเชฟ David Tamburini อดีตเชฟของห้องอาหารแห่งนี้ที่ตามภรรยาไปตั้งรกรากที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น แต่หลังจากการจากไปของเขาก็ทำให้เชฟที่รับช่วงต่อต้องกดดันไม่น้อย
.
ไม่ใช่ว่าอาหารของเชฟที่มาประจำการก่อนหน้านี้ไม่ดี แต่ภาพจำของลา สกาล่า ในแบบอิตาเลียนโมเดิร์นฝังแน่นอยู่ในต่อมรับรสของเราเกินกว่าจะลืมมันได้ และการมาถึงของเชฟคนล่าสุด Eugenio Cannoli เชฟชาวอิตาเลียนจาก Piedmont ก็ดูมีลายเซ็นในการทำอาหารที่คล้ายกับเชฟเดวิดอยู่ไม่น้อย
.
สำหรับเทสติ้งเมนูที่เปิดตัวเชฟยูเจยิโอก็น่าสนใจมาก ด้วยหน้าตาของอาหารที่สวยงามและฉีกแนวออกมาจากอาหารอิตาเลียนสไตล์โฮมเมดที่เด่นชัด ทำให้เราเชื่อว่านี่คือการกลับมาของ La Scala
.
เทสติ้งเมนูมีทั้ง 8 คอร์ส เริ่มด้วย Amuse Bouche 5 อย่าง ทาร์ตชีสทรัฟเฟิล ชีสฟัวการ์ส ปาเต้ตับไก่ หอยเชลล์กับส้มที่มาริเนตกับเนโกรนี และเชอร์รีปลอม
.
คอร์สแรก Hamachi Yellowtail ปลาฮามาจิกับกรานิต้าบลัดดี้แมร์รี ตามด้วย Baccalà & Pork Ribs, Goat Cheese, Osmosis Spinach ซี่โครงหมูกับไส้ปลาค้อด ชีสนมแพะ และผักโขม
.
Peperone E Tonno พริกหวานทั้งลูกสอดไส้ปลาทูน่า แองโชวี เคเปอร์ เคลือบด้วยซุปดาชิ และ Bottoni Cacio E Pepe เชฟบอกว่าเดิมเป็นพาสต้ายาว แต่เขาเปลี่ยนทำออกมาให้คล้ายกระดุม แต่ยังคงเอกลักษณ์ด้วยชีสและพริกไทย เชฟทำให้กินง่ายในคำเดียวเป็นราวิโอลีรูปกระดุมไส้ชีสเพรโครีนีและหอย
.
อีกจานพาสต้าเป็น Cannellone Lamb Ragù เชฟบอกว่าเป็นจานดั้งเดิมมากใช้แป้งห่อเนื้อแกะบด มีชีสมาสคาโปนรมควัน ราดด้วยซอสจากน้ำแกะผสมมะเขือเทศบด เบรกด้วย Parsnip & Black Truffle พาร์สนิปบนพาร์สนิปพูเรที่มีความเอิร์ธตีของทรัฟเฟิลที่สไลซ์มาด้านบน กินคู่กับน้ำพาร์สนิปอุ่น ๆ
.
เมนคอร์สเป็น Pigeon, Hazelnut and Anchovies ที่มีพระเอกเป็นนกพิราบ และมีเฮเซลนัตกับแองโชวีมาเสริมรสชาติ เหมือนได้กินนกพิราบในหลายแบบ
.
ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง Rosa เซมิเฟรโดแบบของเชฟ ที่ทำจากราส์ปเบอร์รี ไวท์ช็อกโกแลตกานาช และกุหลาบ มาพร้อมกับลินจี่และราส์ป์เบอร์รีคอมโพส และไอศกรีมลิ้นจี่ และ Petit Four ที่เชฟแอบเสิร์ฟมาในแบบเซโวรีปิดท้ายมื้อ
.
ใครคิดถึงอาหารสไตล์เชฟเดวิดขอให้มาลอง เพราะเชฟยูเจนิโอเองก็มีสไตล์อาหารที่คล้ายกันมาก และเราต้องบอกว่า “ดี”
0 Like0 Comment
