- หน้าแรก
/
- รูป Dine In The Dark


กล่องฝากมือถือและอุปกรณ์อื่นที่ส่องแสงได้
ประสบการณ์ดินเนอร์สุดแหวกแนว กับหนึ่งประสาทสัมผัสที่หายไป ทั้งตื่นเต้นและประทับใจ ดีใจที่มีโอกาสได้ลองก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ Wongnai ที่ชวนมาสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ในครั้งนี้ และขอบคุณเจ้าภาพ Dine in the Dark (DID) และพี่ๆไกด์ที่สร้างความประทับใจ ทำให้ค่ำคืนนั้นทุกอย่างออกมาดีมากๆ ดีใจและถือว่าโชคดีมากๆ ถ้าพลาดไปคงจะเสียดายแย่เลยล่ะค่ะ
เคยได้ยินชื่อเสียงร้านนี้มาบ้างตอนที่ร้านยังอยู่ที่โรงแรม Ascott ตรงสาทร ซึ่งตอนนั้นรู้สึกจะปิดปรับปรุงไปนาน มารู้อีกทีว่าย้ายมาอยู่ที่ Sheraton Grande Sukhumvit (ชั้น G ด้านในของร้าน Barsu) ก็ตอนวงในมาชวนนี่แหละค่ะ ใครที่มาจาก BTS ก็สามารถลงสถานีอโศกซึ่งมีทางเชื่อมเข้าตัวโรงแรมได้เลย
ร้านนี้มี Concept ที่มีเอกลักษณ์มาก เพราะเชฟและทีมพี่ๆไกด์ที่ทำหน้าที่เสิร์ฟด้วยล้วนเป็นพี่ๆที่ตาบอดทั้งสิ้น ที่สำคัญแขกที่มาทานจะต้องนั่งทานในห้องที่มืดสนิทถึงลืมตาก็มองไม่เห็นอะไร เป็นประสบการณ์ที่จะทำให้แขกที่มาทานเข้าใจความรู้สึกในบางด้านของผู้พิการทางสายตาบ้างไม่มากก็น้อย
ต้องยอมรับจริงๆว่าก่อนเข้าไปนี่มีความกังวลต่างๆนาๆ เช่น
- จะเครียดมั้ยถ้าเข้าไปนั่งโดยไม่เห็นอะไรเป็นเวลาหลายชั่วโมง
- จะทำแก้วตก อาหารหก เสื้อเลอะรึป่าว
แต่ยังไงความอยากลองก็มีมากกว่าเรื่องที่กังวลค่ะ
สำหรับครั้งนี้เมื่อชาววงในมารวมตัวกันพร้อมหน้าที่ร้าน Barsu ก็ได้เวลาแห่งความตื่นเต้นแล้วล่ะค๊าา สิ่งที่ต้องทำก่อนเข้าร้านคือ
1. ใส่ผ้ากันเปื้อน
2. ฝากอุปกรณ์การสื่อสารและอุปกรณ์อื่นๆที่มีแสงไว้ในกล่องดำที่ร้านเตรียมไว้
3. สำหรับคนที่มีกระเป๋า สัมภาระ ต่างๆสามารถฝากไว้ที่ตู้ในบริเวณร้าน Barsu
4. ล้างมือให้สะอาด
ก่อนเข้าไปร้านแนะนำว่าไม่ต้องหลับตา ทำตัวตามสบาย อย่าพยายามเพ่งจะได้ไม่ปวดหัว หลังจากนั้นทางร้านก็แบ่งชาววงในเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 6 คน เพื่อให้พี่ไกด์แต่ละคนดูแลได้ทั่วถึง เน็ทอยู่ในกลุ่ม 6 คนแรกที่ได้เข้าไปในร้านก่อน มีพี่ไกด์ชื่อพี่หมูเป็นผู้ดูแล ซึ่งบอกให้เรียงแถวตามลำดับและใช้มือซ้ายแตะไหล่คนด้านหน้าเพื่อเดินหน้าเข้าสู่ตัวร้าน จะบอกว่าแค่ตอนเดินเข้าร้านก็ตื่นเต้นมากแล้วค่ะ เพราะนอกจากจะมืดมากมองไม่เห็นอะไรเลย ยังต้องลงบันไดระหว่างทางไปที่ตัวโต๊ะด้วย เสียวตกบันไดมากทีเดียวค่ะ ยังดีที่มีไม่กี่ขั้น หลังจากนั้นพี่ไกด์ก็พามานั่งโต๊ะได้อย่างปลอดภัย
คะแนนด้านบริการได้ระดับ 5 ดาว เพราะมีพี่ไกด์ นำทาง และให้การดูแลอย่างใกล้ชิด คอยบอกว่าอะไรอยู่ตรงไหน ทำให้การทานครั้งนี้ประสบความสำเร็จไม่มีอะไรหกเลอะเทอะ 555 ทานๆอยู่ถ้าอยากเข้าห้องน้ำพี่เค้าก็ช่วยพาออกไป เพราะความใส่ใจของพี่ไกด์ทำให้รู้สึกอุ่นใจมากค่ะ
ด้านอาหารของที่นี่จะมีให้เลือกสามแบบคือ Western Asian และ Surprise (ในราคาหัวละ 1400บาท++) ซึ่งคราวนี้เน็ทเลือก Asian ค่ะ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ทุกๆแบบจะประกอบด้วย appetizer, soup, main course, แล้วก็ dessert ซึ่งแต่ละจานมีส่วนประกอบหลายหลาก เดาได้บ้างไม่ได้บ้างว่าทานอะไรเข้าไป ยกเว้น main course ที่เดาง่ายหน่อย สุดท้ายทางร้านจะเฉลยตอนที่เราทานเสร็จค่ะว่าเราทานอะไรเข้าไปบ้าง ^^
ต้องยอมรับว่าเมื่อขาด "รูป" ซึ่งเป็นประสาทสัมผัสชนิดหนึ่งไป ทำให้ความสนุกในการทานอาหารลดไปมากที่เดียว เพราะถ้าเราเห็นว่าเป็นอะไร เราจะสามารถ ค่อยๆชิม ลิ้มรสความอร่อยและฟินไปกับมัน แต่เมื่อเราไม่เห็นอาหารบางอย่างที่ควรใช้มีดค่อยๆตัดทานเราก็อาจจะจิ้มทานหมดภายในคำเดียวโดยที่ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไรด้วยซ้ำ แต่ที่นี่ก็ช่วยหาความสนุกในการทานอย่างอื่นมาทดแทนค่ะ เช่น
- ซุปเสิร์ฟมาในขวด ให้แขกเปิดขวดแล้วเทใส่ชามเอง เพิ่มความตื่นเต้นได้อีกแบบ อีกจุดประสงค์ คือกันซุปหก เพื่อความปลอดภัยของไกด์และแขก ^^
- ใช้ลูกเล่นจากลักษณะจาน อย่างเช่น main course ของคราวนี้ไม่ใช่เป็นลักษณะจานธรรมดา ใครที่ใช้ช้อนซ้อมทานยากที่จะรู้ว่าลักษณะจานเป็นอย่างไร มีหลุมกี่หลุม อะไรอยู่ในหลุมไหนบ้าง เน็ทและอีกหลายๆคนเลยต้องใช้มือสัมผัสเพื่อจะได้รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน นี่คือเหตุผลที่ต้องล้างมือก่อนเข้านั่นเองค่ะ
นอกจากเรื่องอาหาร การมาทานอาหารแบบไม่เห็นอะไรครั้งนี้ก็แตกต่างจากการทานอาหารธรรมดาทั่วไป คือมีการช่วยเหลือกันสนิทกันมากขึ้น พูดคุยกันมากขึ้น เพราะนอกจากกินกะเม้าท์แล้วก็ทำอย่างอื่นไม่ได้ และยังมีความรู้สึกเป็นส่วนตัว เป็นตัวของตัวเอง ทำตัวได้ตามสบาย ไม่ว่าจะกินคำโต มือเลอะ ก็ไม่มีใครเห็น 555 เลยไม่มีความรู้สึกเครียดอย่างที่กลัวไปล่วงหน้าตอนแรก
ร้านนี้หยุดทุกวันจันทร์ มีที่นั่งประมาณ 40 ที่นั่ง มีห้องส่วนตัว 1 ห้องซึ่งรองรับแขกได้ 8 คน ใครจะมาแนะนำให้โทรจองล่วงหน้าเพราะคิวแน่นมาก ร้านพยายามเปลี่ยนเมนูอาหารทุกๆเดือน แขกจะได้ไม่เบื่อ และยังมีแผนในอนาคตที่จะเพิ่มวงดนตรีตาบอดมาเพิ่มสีสันอีกด้วย
โดยรวมชอบค่ะ เป็นอะไรที่แปลกใหม่และไม่เหมือนใคร ตื่นเต้นตั้งแต่ตอนเดินเข้าร้านยันออกจากร้าน หลังจากทานเสร็จทางร้านให้ที่ปิดตามาเป็นที่ระลึก ใครยังไม่เคยลองแนะนำให้มาลองซักครั้ง ทางร้านแบ่งเงินบางส่วนบริจาคให้ผู้พิการทางสายตาด้วย ทั้งสนุกและได้บุญไปพร้อมๆกันเลยค่ะ สุดท้ายต้องขอขอบคุณวงในอีกครั้งที่ชวนมาเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ในครั้งนี้ค่า ^^
46 Likes0 Comment
