- หน้าแรก
/
- Dinner Set • อาหารหลักเต็มโต๊ะ ร้าน The Local by Oam Thong Thai Cuisine


Dinner Set • อาหารหลักเต็มโต๊ะ
ร้านอาหารไทย บรรยากาศสวยๆที่ทำให้เรานึกถึงสิ่งสวยงามในอดีตได้ซื้อ e-voucher ของวงใน และก็เลยนัดเพื่อนที่แลกมาเหมือนกัน มาลองทานที่นี่กันจ้า
The Local ชื่อร้านของที่นี่ เป็นร้านที่นำเสนออาหารพื้นบ้านไทยแท้จากทั่วทุกภาค คัดสรรแต่ละเมนูอย่างพิถีพิถัน มีที่มาที่ไปของอาหารแต่ละจาน ตาม The Local Philosophy ที่ว่า “วิถีแห่งอาหาร จากศาสตร์แห่งการดำรงชีพ สั่งสมความประณีตในทุกคราวคำ วิวัฒนาการสู่ศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์”
สำหรับร้านนี้จะอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 23 ตรงข้ามประสานมิตรพลาซ่า เปิดบริการทุกวัน แต่จะเปิดเป็นช่วงเวลาค่ะ ช่วงกลางวัน 11.30 – 14.30 น. และช่วงเย็น 17.30 – 23.00 น. ซึ่งดีลที่เราซื้อเป็น Dinner Set ค่ะ แต่สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและเย็นนะคะ เพียงแต่แจ้งทางร้านว่าใช้เซตวงในค่ะ
เมื่อเรามาถึง ก็รู้สึกชอบตั้งแต่ด้านนอกเลยค่ะ เพราะบรรยากาศ ดูเป็นบ้านทรงไทยสีน้ำตาลแบบโบราณ สวยดีค่ะ พอเราได้เดินเข้าไปด้านใน ก็จะมีที่นั่งหลายมุมสวยงาม น่าถ่ายรูปมากๆค่ะ พร้อมการตกแต่งแบบไทยๆ และของโบราณที่หาได้ยากหลายๆอย่างด้วย ซึ่งที่นี่จะมีทั้งที่นั่งด้านนอก ชมธรรมชาติสวยๆ เหมาะมานั่งทานช่วงเย็นค่ะ และที่นั่งด้านในชั้น 2 ด้วยเก้าอี้ไม้สาน ก็จะเป็นมุมไทยๆอีกแบบค่ะ ชอบหลอดไฟที่ทำเป็นกรงนกค่ะ สวยดี 😊
ลูกค้าที่นี่ เท่าที่ไปวันนั้น เป็นชาวต่างชาติส่วนใหญ่ค่ะ ตอนที่มาถึงคนไม่ค่อยเยอะค่ะ แต่พอจะกลับ คนนั่งทานเกือบเต็มร้านเลยค่ะ ส่วนที่จอดรถที่นี่ มีไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ค่ะ
ดีลที่เราซื้อมา เป็น Dinner Set จะมี
1. ของทานเล่น จะมี เมี่ยงบัวหลวง ข้าวตังหน้าตั้ง ข้าวซอยไก่ ยำใบชะคราม ต้มจิ๋วกุ้ง
2. อาหารจานหลัก จะมี แกงคั่วไก่หน่อข่าอ่อน หมูฮ้องไข่นกกระทา ใบเหมียงผัดไข่ ข้าวเปล่า
3. ไอศกรีม สามารถเลือกรสได้ จะมี รสชานม กะทิ หรือมะม่วง
4. เครื่องดื่ม Mekhong Safflower
ทางร้านได้จองที่นั่งให้เราเป็นด้านในชั้น 2 ค่ะ และก็สอบถามเกี่ยวกับเครื่องดื่ม เพราะสามารถจะเลือกใส่หรือไม่ใส่แอลกอฮอล์ก็ได้ค่ะ ซึ่งพวกเราเป็นแนวรักสุขภาพ ทานเป็นแต่ยาดอง อุ๊ย ไม่ใช่ค่ะ 😝 ก็เลยขอเลือกแบบไม่ผสมแอลกอฮอล์ทั้งคู่ค่ะ และพนักงานยังมีสอบถามเพิ่มเติมด้วยว่าสามารถทานเผ็ดได้หรือไม่ ก็เลยบอกว่าได้ค่ะ แนวว่าขอรสชาติของทางร้านเลย งานนี้จอยจ้าสู้ 55
สำหรับบางเมนู เราได้อ่านคำกลอน หรือคำอธิบายของอาหารจานนั้น จากเล่มเมนูมาด้วย รู้สึกชอบค่ะ เลยขออนุญาตเอามาเขียนให้เพื่อนๆอ่านเพิ่มด้วยนะคะ
**เครื่องดื่ม
- Mekhong Safflower (ราคาปกติ 270 บาท) เสริฟมาในแก้วสวยงาม เป็นการผสมกันระหว่าง สัปปะรด ส้มจี๊ด พร้อมโรยดอกคำฝอยเล็กน้อย ใบโหระพา และใส่น้ำแข็งเพิ่มความเย็นสดชื่นค่ะ (พนักงานบอกว่า ถ้าเลือกผสมแอลกอฮอล์ ก็จะใส่แม่โขง กาเลียโน่ ครองต์โทร์ ลงไปเพิ่มค่ะ)
รสชาติอร่อยค่ะ สดชื่นดี จะได้รสชาติที่หวานอมเปรี้ยว จะมีกลิ่นส้มเด่นกว่าสับปะรดนิดนึง (หรือเพราะเราไม่ค่อยทานส้มเลยได้กลิ่นเด่นกว่าก็ไม่แน่ใจค่ะ 55) และก็ได้เคี้ยวดอกคำฝอยเล็กน้อย เพิ่มกลิ่นหอมๆดีค่ะ แต่แบบแก้วนี้น้อยไปนิด เราเลยสั่งน้ำเปล่าเพิ่มด้วยค่ะ 😅😅
**ของทานเล่น จะเสริฟมาเป็นจานยาวเหมือนรูปเรือ พร้อมการวางแบบศิลปะคือเอียง 45 องศา แชะไปแชะมา การวางแบบเดิมหายไปทันทีค่ะ 55 และก็มีอีกจานเล็กๆ เป็นยำค่ะ
- เมี่ยงบัวหลวง อร่อย ชอบมาก กลีบบัวหลวงสีชมพูนุ่มๆ เคี้ยวในปากได้รสมะพร้าวคั่วหวานนิดๆหอมๆ มีเค็มจากกุ้งแห้ง เปรี้ยวมะนาว เผ็ดพริกอีกนิดนึง และกรุบๆมันๆของถั่วลิสง จนหันไปมองหน้ากับเพื่อนว่าถ้ามื้อนี้ไม่อิ่ม สั่งมาเพิ่มอีกจานต่างหากมั้ย 55
- ข้าวตังหน้าตัง ข้าวกรุบกรอบพองๆดีค่ะ รสชาติจะออกหวานหน่อยๆค่ะ
- ข้าวซอยไก่ รสชาติเข้มข้นแกงกะทิอร่อยค่ะ แต่เค็มเกินไปนิด ส่วนพริกอย่างเผ็ดเลยค่ะ ผักกาดดองก็เค็มๆค่ะ ถ้าลดความเค็มของแกงนิดนึงจะชอบเลยค่ะ
- ยำใบชะครามกะทิสด (ราคาปกติ 280 บาท) ใบชะครามยามเย็นข้างนาเกลือเจือรสเค็ม ล้างรสเข้มจนเจือจางให้น้ำใส พอบรรเทาไม่เค็มจนเกินไป จึงนำใส่เมนูดัง ซ่อนอยู่ในเมืองพริบพลี
ปลื้มค่ะจานนี้ อร่อยค่ะ รสชาติเข้มข้นเปรี้ยวๆรสยำหอมๆกะทิตาม ใบนุ่มๆชุ่มๆน้ำยำอร่อยๆ ไก่ชิ้นนุ่มๆไม่มัน ทานจนไม่เหลือแม้แต่น้ำค่ะ 55
ระหว่างนั่งรอจานต่อไปเสริฟ พนักงานก็มาขออนุญาตให้พวกเราย้ายโต๊ะ เนื่องจากอาหารจานต่อไป ค่อนข้างใหญ่อาจจะเต็มโต๊ะเกินไป เลยให้พวกเราไปนั่งโต๊ะแบบ 4 ท่านค่ะ ซึ่งพออาหาร 2 ชุดของพวกเราออกมาวางจนหมด ก็เข้าใจทันทีค่ะว่าควรเปลี่ยนอย่างยิ่ง 55
**อาหารจานหลัก
- ต้มจิ๋วกุ้ง เมนูนี้ พนักงานได้เล่าให้ฟังถึงที่มาค่ะว่า เมื่อสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงประชวรโรคหวัด ไม่เสวยข้าว จึงได้มีการปรุงเมนูนี้ขึ้นถวาย เพราะในเครื่องปรุงมีทั้งพริก หัวหอม ใบโหระพา ใบกะเพรา ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาหวัดได้ และยังมีมันเทศที่ทานแทนข้าวได้ด้วย ซึ่งต้มจิ๋วตำรับดั้งเดิมแท้แต่โบราณนั้นต้องปรุงด้วย ใบกะเพรา โหระพา และหอมแดงเท่านั้นค่ะ
รสชาติกลมกล่อมดีค่ะ คล้ายๆโป๊ะแตก หอมเครื่องต่างๆ ทานแล้วโล่งคอดี มีรสเปรี้ยวนำ เผ็ดตามนิดหน่อย กุ้งก็เนื้อสดดี มีมันเทศชิ้นเล็กๆให้ได้เคี้ยวรสหวานนิดๆด้วยค่ะ
- ผักเหมียงผัดไข่ (ราคาปกติ 180 บาท) ผัดผักเหมียงไข่ ไม่ธรรมดา เชิญ ชวน ชิม ผักพื้นบ้านจากปักษ์ใต้บ้านเรา
บางคนอาจจะงงว่าทำไมไม่เรียกว่า ใบเหลียง เนื่องจากว่าคนทางปักษ์ใต้จะเรียกชื่อตามท้องถิ่นของตนเองค่ะ ซึ่งร้านนี้ได้นำมาจาก จังหวัดตรัง ซึ่งที่นั่นจะเรียกว่า ใบเหมียง ค่ะ
เป็นเมนูที่ชอบมาก เพราะว่าเคยไปทานที่ใต้ แล้วพอเข้าปากปุ๊บ ต้องหันไปถามเพื่อนเลยว่าเธอสั่งอะไรมา และก็กลายเป็นเมนูประจำทริปนั้นที่แบบว่ามีร้านไหน ก็รีบสั่งเพิ่มเลยค่ะ กลัวกลับกรุงเทพฯแล้วจะไม่ได้ทานรสแบบนี้ 😁 พอได้มาลองทานที่ร้านนี้ ผัดมาได้โอเคเลยค่ะ ใบนุ่มๆมันๆมีขมนิดๆปลายลิ้นแต่ไม่มาก ชอบๆค่ะ แต่ว่าเมนูนี้ต้องทานกับข้าวคำใหญ่ๆเลยค่ะ เพราะว่าผัดมาเค็มไปหน่อย ถ้าไม่เค็มนี่ จอยจ้าจะทานให้เกลี้ยงจานเลยนะ 55
- หมูฮ้องไข่นกกระทา (ราคาปกติ 260 บาท) กว่าจะมีจานนี้ เคี่ยวจนลืมว่า เวลาผ่านไปจากสาย จนบ่ายคล้อยแสงตะวัน หมูฮ้องจึงได้เวลาหอมหวานละมุนลิ้น จนหมูแทบจะละลายในปาก
และก็เป็นตามคำกลอนในเมนูเลยค่ะ แบบว่าเคี่ยวจนเนื้อนุ่มมาก แม้ชิ้นจะใหญ่ แต่นุ๊มนุ่มทานง่าย ซุปก็ข้นๆหอมๆนำหวานนิดๆ อร่อยมากๆค่ะ ติดใจเลยค่ะ นอกจากหมูยังมีไข่นกกระทาลูกนึง และไข่ต้มลูกใหญ่อีกครึ่งลูกค่ะ แม้ว่าเมนูนี้จะออกหวานไปนิดแต่เป็นการเคี่ยวคล้ายๆการต้มพะโล้ จึงไม่ได้รู้สึกว่าแปลกอะไรที่รสจะเป็นแนวนี้ ทานแต่ละคำ ได้ความหวานหอมกับหมูนุ่มๆ ชอบๆค่ะ ยิ่งหยิบชิ้นมันๆนี่ ยิ่งพริ้มในปากเลยค่ะ 😋😋
- แกงคั่วหน่อข่าอ่อนไก่ (ราคาปกติ 250 บาท) หน่อข่าอ่อน หรือต้นลำอ่อนของข่า สั่งตรงจากอุบลแหล่งปลูกชั้นดี มีกลิ่นหอมเจือรสเผ็ดอ่อนๆบรรจงหั่นเป็นชิ้นบางๆ แช่น้ำจนกรอบอร่อย ใส่ลงตัดในรสแกงคั่วใต้ รับรองรสชาติจัดจ้านถึงไทย
รสชาติเข้มข้นกะทิดีค่ะ หน่อข่าก็อ่อนๆกรุบกรอบ ไม่มีรสเผ็ดข่าจนทานไม่ได้ค่ะ เนื้อไก่ไม่ติดมันแต่นุ่มใช้ได้ค่ะ ทานคู่กับผักสดที่เสริฟมาหลากหลายชนิดก็เพิ่มความอร่อยได้ดีค่ะ
**ของหวาน ไอศกรีมจะมีให้เลือก 3 รสค่ะ คือ รสชานม กะทิ หรือมะม่วง ก็เลยเลือกกันมาคนละรสค่ะ
- ไอติมรสกะทิ มีรสกะทิเบาๆไม่หวานไป โอเคเลย แต่ไม่มันกะทิมากนัก ทำให้ไม่เลี่ยนค่ะ รสชาติใช้ได้ค่ะ
- ไอติมรสมะม่วง ออกมะม่วงน้ำดอกไม้จ๋าเลย ฟุ้งมากๆ และหวานประมาณนึงค่ะ แต่มาลูกเดียว เลยทำให้ทานได้สบายไม่หวานเกินไป ถ้าเริ่มทานลูกที่สองสามอาจจะหวานไปนิด แต่ว่าคนชอบทานมะม่วงน่าจะชอบค่ะ เพราะส่วนตัวเราก็ชอบ มาอีกสักลูกสองลูกก็ได้นะ 55 ซึ่งรสนี้จะออกหวานกว่ารสกะทิค่ะ
เราได้สั่งน้ำเปล่าเพิ่มด้วยค่ะ เป็น Pi Water ที่รู้จักกันในชื่อ “Living Energy” ราคา 35 บาทต่อขวด
Pi Water คือ น้ำดื่มกลุ่มโมเลกุลเล็ก ด้วยนวัตกรรม นาโน เทคโนโลยี คุณลักษณะเช่นเดียวกับน้ำที่อยู่ภายในเซลล์ของอวัยวะในร่างกายของมนุษย์และในสิ่งมีชีวิตทุกชนิด มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย ผิวพรรณเส้นผมและอวัยวะภายในต่างๆ ได้รับการเสริมสร้างปกป้องดูแลมีสุขภาพดี มีคุณประโยชน์ต่อสรรพสัตว์ และต่อพืชพรรณรวมทั้งสิ่งมีชีวิตค่ะ
ซึ่งเราทานแล้ว รู้สึกว่าสดชื่น แต่แตกต่างกับน้ำธรรมดามั้ย ก็ไม่ค่อยรู้สึกค่ะ 😉 แค่รู้สึกว่าตัวเองได้รับประโยชน์ดีจ้า
ในหน้าแรกของเมนูยังบอกที่มาของคำว่า Local ด้วยค่ะ รู้สึกว่าชอบจังค่ะ
L-Local
O-Old Recipe
C-Culture
A-Authentic
L-Learning
ใครที่ซื้อ e-voucher ไว้ อย่าลืมรีบมาใช้กันนะคะ
44 Likes0 Comment
