- หน้าแรก
/
- รูป Wine Loft ปอร์ติโก้


พามาดริ้งค์ไวน์สายพันธุ์เยี่ยม ที่ Wine Loftร้านไวน์นี้เรียกว่า เกิดขึ้นมาเยอะแยะหลายร้านมาก เพราะใครหลายคนได้หลงไหลกับวัฒนธรรม
และสเน่ห์ของไวน์เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง ก็เลยจะมาขอหลงไหลกับสเน่ห์ของไวน์กันดูบ้าง ^^
ร้าน Wine Loft ร้านไวน์บาร์ที่ชื่อคุ้นหูกันดี ร้านนี้เค้ามีอยู่ 3 สาขาด้วยกันค่ะ คือ สุขุมวิท 31 , ทองหล่อ
และก็ที่ The Portico หลังสวนค่ะ โดยตาลได้แอบสอบถามจากทางร้านมา เค้าบอกว่าร้านที่สาชา The Portico
จะมีขนาดใหญ่มากกว่าสาขาอื่นๆ ค่ะ และบรรยากาศโรแมนติกด้วยค่ะ
ร้านตกแต่งในโทนออกมืดๆ หน่อย ภายในร้านจะมีที่กดไวน์สุดเจ๋ง ไว้ให้ได้เทสต์ไวน์กันโดยเค้าคิดราคาถามแก้วค่ะ ซึ่งราคาก็จะ
แตกต่างกันออกไปตามจำนวนลิตรที่กดค่ะ คือจะกดครึ่งแก้ว ค่อนแก้ว ก็จ่ายกันตามนั่นค่ะ หากใครสนใจอยากจะซื้อไวน์จากที่นี้
ทางร้านก็มีตัวช่วยเลือก! อย่างแถบสีติดไว้ที่ขวดค่ะ เพื่อจะช่วยแยกประเภทของไวน์แต่ละชนิดว่า ดื่มยาก-ง่าย ตามลำดับ ^^
เอาล่ะ! วันนี้ที่ได้ลองมาก็จะเป็นไวน์ PENOT NOIR ทั้งขาวและแดงค่ะ โดยจะมาจากประเทศ ชีลี อิตาลี และออสเตรเลียค่ะ
ซึ่ง PENOT NOIR เป็นพันธุ์องุ่นที่ทำไวน์ได้คลาสสิค โรแมนติค อ่อนไหว ทั้งกลิ้น รสสัมผัส อีกทั้งยังมีความหลากหลาย
สามารถสร้างความประทับใจได้หลายระดับอีกด้วย
แค่นี้ก็เริ่มตื่นเต้นกันแล้วเนอะ ว่าไวน์ PENOT NOIR จะเป็นยังไง งั้นเรามาเริ่มกันที่ตัวไวน์ขาวกันก่อนเลยแล้วกันนะคะ
ขวดแรก Nals Margreid Pinot Bianco (Italy) : เป็นไวน์ขาวจากประเทศอิตาลีค่ะ อันนี้จะมีกลิ่นหอมของผลไม้เขตร้อน
หวานอมเปรี้ยว ดื่มค่อนข้างง่ายเลยทีเดียว ดื่มเข้าอึกแรก จะรู้สึกได้ถึงรสชาติของผลไม้นำหน้ามาก่อนใครเพื่อนเลย
ซักพักจะมีรสหวานอมเปรี้ยวค่ะ ถ้าให้เปรียบกับผู้หญิงคงจะเป็นเหมือน หญิงสาววัยแรกรุ่นที่กำลังเปรี้ยว ซ่าส์ กันเลยทีเดียว55555
ดีกรีความมึนจะไม่หนักมากค่ะ ดื่มได้เรื่อยๆ เหมาะที่จะดื่มเพื่อเรียกน้ำย่อย อาหารทะเล และสลัดอะไรพวกนี้ค่ะ
ขวดที่ 2 Yali Gran Reserva Sauvignon Blanc (Chile) : ส่วนตัวชอบอันนี้มากกก ดื่มง่าย รสจะเข้มกว่าขวดแรกนะคะ
ไวน์จะให้กลิ่นหอมหวานเหมือนดอกไม้ มีรสสัมผัสเปรี้ยวคล้ายผลไม้เมืองร้อน ทานคู่กับชีสมันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก
ยิ่งดื่มไวน์แล้วตามด้วยชีส ชีสจะมีรสชาติกลมกล่อม ทั่วไปทั้งปาก เหมือนกับว่าชีสได้ละลายตามไวน์ที่เราดื่มเข้าไปอะไรยังงั้น
กันเลยทีเดียว คือชีสบางชนิดก็ค่อนข้างเข้มข้นอยาก บลูชีส แล้วถ้าดื่มอะไรที่เบามากเกินไปอาจจะไม่ได้รู้สึกถึงความฟิน~
ของชีสที่อยู่ในปากได้ เพราะด้วยชีสที่แรงเกินไป และที่สำคัญเลยค่ะ ขวดนี้ได้รางวัลมาการันตีจาก EXPO VINIS 2008
ว่าเป็น BEST SAUVIGNON BLANC เลยทีเดียว
ขวดที่ 3 Tommasi Pinot Grigio “Le Rosse” (Italy) : เป็นไวน์ขาวจากที่ทำจากสายพันธุ์ Pinot Grigo ที่เป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก
ลักษณะของเค้าจะไม่เหมือนใครค่ะ เป็นไวน์ที่มีรสชาติเหมือนผลไม้ ให้ความสดชื่นเหมือนดื่มน้ำแร่
แถมยังมีรสเปรี้ยวนิดๆ จากผลไม้อีกด้วย ดีกรีปานกลาง ไม่เบาเกินไป ดื่มคู่กับอาหารมันจะเข้ากันดีมาก
ต่อมาๆ มาที่ไวน์แดงกันบ้าง ขอเรียกลำดับตามเดิมนะคะ
ขวดที่ 1 Little Yerring Pinot Noir (Australia) : จะค่อนข้างเบาบางที่สุดในบรรดาไวน์แดงทั้งหมดเลยค่ะ
รสชาติเปรี้ยวนำแล้วตามด้วยหวานคล้ายๆ เบอร์รี่ค่ะ แต่ก็จะกลิ่นหอมหวานวนิลาลงตัวในแบบเบาๆ ด้วย เป็นไวน์แดง
ที่สามารถดื่มได้โดยไม่ต้องทานคู่กับอาหารก็ได้ค่ะ เรียกว่าเหมาะกับการเอาไวน์ดื่มชิลล์ๆ จริงๆ
ขวดที่ 2 Nals Margreid Pinot Noir (Italy) : เป็นไวน์แดงจากอิตาลี ซึ่งจะให้รสสัมผัสแบบสดชื่นค่ะ
ออกจะคล้ายๆ กับราสเบอร์รี่ และแบล็คเบอร์รี่ ทั้งรสทั้งกลิ่น ดื่มแล้วจะมีรสฝาดนิดๆ ติดอยู่โคนลิ้น เหมาะกับอาหารที่ไม่เข้มข้นมากค่ะ
เพราะอาจจะทำให้กลบกลิ่นความสดชื่นของไปได้ เอาไว้ทานคู่กับพาสต้าเบาๆ ก็น่าจะดีนะคะ
ขวดที่ 3 Casa Lapostolle Cuvee Alexander Pinot Noir (Chile) : ไวน์เข้มข้นเลยค่ะสำหรับขวดนี้
ให้รสสัมผัสที่ค่อนข้างจะหนักแน่นอยู่นะคะ ส่วนกลิ่นของขวดนี้จะแตกต่างจากที่ผ่านมาเลยค่ะ เพราะจะมีกลิ่นของไม้หอมๆ
มากกว่ากลิ่นของผลไม้ ตัวไวน์เข้มข้นพอสมควรเลย เหมาะกับเอาไว้ทานกับอาหารประเภทเนื้อ สเต๊ก บาร์บีคิว
หรือเป็นอาหารที่มีตัวซอสหรืออะไรที่เข้มๆ หน่อยค่ะ ตัวนี้จะเหมาะมาก ตัวไวน์จะเข้ากันได้ดีกับเนื้อ
หรืออาหารที่มีความเข้มข้นไม่แพ้กันค่ะ
1 Like0 Comment
