- หน้าแรก
/
- รูป Hom Restaurant


Hom Restaurant ห้องอาหารไฟน์ไดนิ่งใหม่เมืองภูเก็ตที่เน้นเทคนิคหมักดองให้ “หอม”Wongnai Vibes คิดว่า “เมืองภูเก็ต” กำลังจะกลายเป็น “Food Destination” ไม่ใช่เพราะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารจาก Unesco แต่ภูเก็ตเติบโตขึ้นด้วย F&B ที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะเชฟรุ่นใหม่ที่เข้ามาพัฒนาในส่วนของอาหารแคชชวลและไฟน์ไดนิ่ง เพิ่มเติมจากอาหารท้องถิ่นของภูเก็ตที่เด่นดังอยู่แล้ว ล่าสุดเป็นเชฟรุ่นใหม่ของ Hom Restaurant โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท ที่สร้างซีนอาหารใหม่
.
“หอม” ได้ปรับเอา Sawan Pavillion ชั้นบนของสปาของโรงแรม ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่โล่งให้กลายเป็นร้านอาหารพร้อมแล็ปหมักดอง โดยยังคงเอาเรื่องราวของป่าหิมพานต์เอาไว้ ห้อยโคมระย้าที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากดอกมณฑา
.
ที่นี่ได้ตัวเชฟริคาร์โด นูเนส (Ricardo Nunes) ที่เคยผ่านการทำงานกับร้านอาหารดังมาแล้วมากมายทั้ง Potong และ Gaggan เพื่อก้าวสู่การเป็นหัวหน้าเชฟของที่นี่ โดยตัวเขานำเอาวัตถุดิบท้องถิ่น (Locavorism) มาจับคู่กับมาเทโอ โพลังโค (Mateo Polanco) ผู้เชี่ยวชาญการหมักดองประจำห้องอาหารหอม นำเสนอเมนู 10 คอร์ส ที่ผ่านกระบวนการหมักดองแบบโบราณ ราคา 3,750++บาท
.
แน่นอนว่าการหมักดองที่ว่าไม่ใช่รสเปรี้ยว เค็ม หรือรสอะไรที่ฟังกี้จนประหลาดกินยาก แต่ทีมเชฟของหอมทำให้มันออกมา “หอม” สมชื่อผ่านวัตถุดิบท้องถิ่น เริ่มจาก Roses Cured Pemelo ส้มโอทับทิมสยามหมักกับน้ำส้มโอ น้ำดอกกุหลาบ และสาหร่ายคาราเมล ตามด้วย Coconut, Caviar, Salted Macadamia มะพร้าวอ่อนภูเก็ตแช่กับกาลัมปลาและผิวมะกรูด ซอสแมคคาเดเมียผสมไซเดอร์มะพร้าว ลูกชกแช่อิ่ม และไข่คาเวียร์หัวหิน อันนี้ดีมาก
.
เซอร์ไพรส์คอร์สเป็น Razor Clam หอยหลอดแบบสดกับกาลัมปลาดุก รสชาติน่าสนใจ ตามด้วย Crab “Rissol”, Reduced Milk ปกติโปรตุเกสบ้านของเชฟใช้แป้งมันฝรั่งห่อโปรตีน แต่ที่นี่ใช้ฟองนมที่ทำออกมาเป็นแผ่นแบบฟองเต้าหู้ทำให้คาราเมลไรซ์ แล้วห่อเนื้อปูที่มีกลิ่นรสของเครื่องแกงห่อแล้วทอด กินกับซอสดอกคำฝอย
.
Baby Squid, Tea Leaves ปลาหมึกหอมปรุงในเนยแล้วย่าง ราดด้วยซุปปลาหมึกที่ได้รสเปรี้ยวจากเมี่ยง หรือใบชาหมักจากภาคเหนือ เชฟยังเติมคาแรกแตอร์ของผักขแยงและโหระพาเข้ามาด้วย สามารถเติมรสเปรี้ยวเพิ่มได้ด้วยมะนาวคาเวียร์ หรือมะนาวนิ้ว
.
ส่วนคอร์สอาหารทะเลเป็น Rock Lobster, Kumquat Kosho กั้งที่เชฟบอกว่ารสชาติคล้ายแลงกุสทีนนอร์เวย์ มาริเนตแล้วย่าง ราดด้วยส้มจี๊ดหมักกับกะทิ Black Grouper, Cabbage, Pandan ปลาเก๋าดำดรายเอจ 4 วัน กินกับผักดอง
.
เมนคอร์สเป็น Wild Boar, Oyster Mushroom หมูป่าหมักกับทุเรียนดำวิธีเดียวกับการทำโคจิ มาพร้อมเห็ดนางรม Goat “Mole” เนื้อแพะชุมชนมุสลิมบางเทาในภูเก็ต ที่ดรายเอจนาน 2 วีค ก่อนหมักต่อกับลูกชกและเมล็ดมะละกอให้เนื้อนุ่ม แล้วย่าง มาพร้อมโมเลที่ใช้เบสกาแฟ ซึ่งปกติใช้ช็อกโกแลต มีพิวเรมะละกอ กินพร้อมผักปลัง และขนมปังที่หมัก 4 วัน เพิ่มข้าวหอมมะลิไทยเข้าไปในซาร์วโดว์ มาพร้อมซีรัปเบียร์ดำ
.
มาที่ของหวาน Sunflower Amazake, Bee Pollen อะมาซาเกะดอกทางตะวันที่ทำจากบาร์เลย์โคจิใส่ข้าวเพิ่ม เหมือนทำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ หวานจากข้าว มาพร้อมเกสรผึ้ง กลีบดอกทานตะวัน สอดไส้คอมบูชะรสเปรี้ยวตัดเลี่ยน และ Wood Sorrel ซอร์เบเลมอนกับส้มกกรสเปรี้ยว มาพร้อมใบส้มกกสด และมดที่มีกรดเปรี้ยว เปรี้ยวในเปรี้ยว ปิดท้ายด้วยผลไม้ล้างปาก
.
ใครชอบการหมักดองเราว่าที่ “หอม” ทำออกมาได้น่าสนใจ ไม่เยอะ ไม่น้อย ไม่ฟังกี้ เข้าถึงง่าย
.
0 Like0 Comment


